แอสทรากาลัส (Astragalus) เป็นสมุนไพร ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และได้รับการยอมรับ ในวงการแพทย์แผนจีน และการแพทย์พื้นบ้าน มาอย่างต่อเนื่อง สมุนไพรชนิดนี้ ถูกกล่าวถึงในตำราแพทย์โบราณ ว่าเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่า ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และบำรุงร่างกาย
ปัจจุบัน แอสทรากาลัสยังคงได้รับความสนใจ อย่างกว้างขวาง ในด้านการดูแลสุขภาพ และการวิจัยทางการแพทย์ เนื่องจากมีองค์ประกอบ ที่มีศักยภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยง ต่อโรคบางชนิด
แอสทรากาลัสมีถิ่นกำเนิด ในภูมิภาคเอเชียกลาง โดยเฉพาะในประเทศจีน มองโกเลีย และเกาหลี พืชชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ในทางการแพทย์ มากที่สุดคือ Astragalus membranaceus ซึ่งเป็นสายพันธุ์ ที่มีการนำมาใช้ ทั้งในรูปแบบรากแห้ง ชาสมุนไพร และสารสกัดในแคปซูล
แอสทรากาลัสอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ และสารออกฤทธิ์หลายชนิด ได้แก่
แอสทรากาลัสเป็นสมุนไพร ที่ใช้ในแพทย์แผนจีน มานานนับพันปี มีสรรพคุณในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ การรับประทานแอสทรากาลัสทุกวัน อาจปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัว [1]
แอสทรากาลัสเป็นสมุนไพร ที่ใช้ในการแพทย์แผนจีน มานานหลายศตวรรษ และโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย เมื่อใช้ตามคำแนะนำ อย่างไรก็ตาม อาจเกิดผลข้างเคียง ในบางกรณี ดังนี้
ที่มา: สมุนไพรและการรักษาทางเลือก [2]
แอสทรากาลัสมีคุณสมบัติ ที่อาจช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ เนื่องจากสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ในชั้นผิวหนัง และยืดความยาวของเทโลเมียร์ (Telomere) ซึ่งเป็นส่วนปลายของโครโมโซม ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการชรา
การยืดความยาวของเทโลเมียร์ ช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้ แอสทรากาลัสยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ผิว จากความเสียหาย และลดการเกิดริ้วรอย อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป ในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มใช้ เพื่อความงาม [3]
แอสทรากาลัสเป็นสมุนไพร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ การรับประทานควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
แอสทรากาลัสสามารถรับประทานร่วมกับ เอ็กไคนาเซีย (Echinacea) และ เคอร์คูมิน (Curcumin) เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละชนิดมีบทบาทที่ส่งเสริมกัน
แอสทรากาลัสเป็นสมุนไพร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีศักยภาพสูง ในการส่งเสริมสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะในด้านการเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และบำรุงหัวใจ อย่างไรก็ตาม ควรใช้สมุนไพรชนิดนี้อย่างระมัดระวัง และปรึกษาแพทย์ ก่อนการใช้ ในกรณีที่มีโรคประจำตัว หรืออยู่ในระหว่างการรักษาด้วยยา