พามาดู ผักอะไรที่มี Vitamin C สูง จากธรรมชาติ

ผักอะไรที่มี Vitamin C สูง

ผักอะไรที่มี Vitamin C สูง คำถามนี้อาจฟังดูไม่ยาก แต่จริงๆแล้วมีความหมายมากกว่าที่คิด เพราะวิตามินซีไม่ได้เป็นเพียงสารอาหารทั่วไป แต่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญต่อร่างกาย โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญ กับการดูแลสุขภาพจากภายใน การเลือกรับประทานผัก ที่อุดมด้วยวิตามินซี จึงกลายเป็นทางเลือกธรรมชาติที่ปลอดภัย

  • วิตามินซีคืออะไร
  • ประโยชน์ของวิตามินซี
  • ผักที่มีวิตามินซีสูง

วิตามินซีคืออะไร มีบทบาทสำคัญยังไง?

วิตามินซีหรือที่เรียกทางเคมีว่า Ascorbic acid เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการทางชีวเคมีหลายอย่างในร่างกาย เช่นการสังเคราะห์คอลลาเจน แอลคาร์นิทีน และสารสื่อประสาทบางชนิด รวมถึงการทำงาน ของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้อง กับปฏิกิริยา Oxidation-reduction

วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหาย จากอนุมูลอิสระ ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างวิตามินซีได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร เช่นผักและผลไม้ การขาดวิตามินซีเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดโรคลักปิดลักเปิด

แม้ว่าวิตามินซีจะมีความปลอดภัยสูง เมื่อบริโภคจากอาหาร แต่การรับวิตามินซีจากอาหารเสริม ในปริมาณสูงเกินไป เช่นมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่นท้องเสีย หรือเกิดนิ่วในไตในบางคน การได้รับวิตามินซีอย่างพอเหมาะ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ต่อสุขภาพโดยรวม (28 กรกฎาคม 2025) [1]

วิตามินซีมีประโยชน์ต่อสุขภาพยังไง?

  • ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินซีช่วยให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ ในการต่อสู้เชื้อโรค และยังช่วยป้องกันการอักเสบ
  • ต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ และชะลอความแก่
  • เสริมการดูดซึมธาตุเหล็ก วิตามินซีช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น โดยเฉพาะจากแหล่งพืช เหมาะสำหรับผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะโลหิตจาง
  • บำรุงผิวพรรณ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้นตามธรรมชาติ
  • เร่งการสมานแผล วิตามินซีมีบทบาท ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยให้แผลหายเร็ว และลดรอยแผลเป็น
  • ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง การได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ อาจช่วยลดความเสี่ยง ของโรคหัวใจ มะเร็ง และเบาหวาน
  • ควบคุมระดับความดันโลหิต วิตามินซีอาจช่วยลดความดันโลหิต ในผู้ที่มีความดันสูงได้เล็กน้อย
  • ลดระดับกรดยูริกในเลือด ช่วยลดความเสี่ยง ของการเกิดโรคเกาต์ ซึ่งเป็นผลจากกรดยูริกสะสมในข้อ
  • ส่งเสริมสุขภาพสมอง ช่วยป้องกันการเสื่อม ของระบบประสาท และอาจมีบทบาท ในการลดความเสี่ยง ของโรคอัลไซเมอร์
  • เสริมสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด วิตามินซีอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ

ที่มา: 9 Health Benefits of Vitamin C (16 กรกฎาคม 2018) [2]

ความต้องการวิตามินซีต่อวันเท่าไหร่?

ความต้องการวิตามินซีต่อวัน แตกต่างกันไปตามเพศ อายุ และภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล โดยทั่วไป องค์การอนามัยโลก และสถาบันสุขภาพ แห่งชาติสหรัฐฯ แนะนำว่า ผู้ใหญ่เพศชาย ควรได้รับวิตามินซีประมาณ 90 มิลลิกรัมต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงควรได้รับ 75 มิลลิกรัมต่อวัน

สำหรับเด็ก จะมีค่าที่ต่ำลงตามอายุ และในหญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ความต้องการจะเพิ่มขึ้นเป็น 85–120 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก และการผลิตน้ำนม ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงบางอย่าง เช่นการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย หรือเผชิญกับความเครียดเรื้อรัง

อาจมีความต้องการวิตามินซีเพิ่มขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ ไปลดระดับวิตามินซีในร่างกาย รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง หรือกำลังฟื้นตัวจากการเจ็บป่วย ก็ควรได้รับวิตามินซี ในปริมาณที่สูงกว่าปกติ เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน

ผักที่มีวิตามินซีสูง ปริมาณต่อ 100 กรัม

ผักอะไรที่มี Vitamin C สูง
  • พริกหวาน โดยเฉพาะพริกหวานสีเหลือง และแดง มีวิตามินซีสูงถึง 183 มก. ต่อ 100 กรัม มากกว่าส้มเกือบ 3 เท่า
  • ผักเคล ผักใบเขียว ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี มีประมาณ 120 มก. ต่อ 100 กรัมเมื่อกินดิบ การปรุงเล็กน้อย ยังคงช่วยรักษาวิตามินซีได้ดี
  • บรอกโคลี มีวิตามินซีประมาณ 89 มก. ต่อ 100 กรัม ยังมีไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆด้วย การนึ่งจะรักษาคุณค่าวิตามินซี ได้มากกว่าการต้ม
  • Brussels Sprouts มีวิตามินซีประมาณ 85 มก. ต่อ 100 กรัม เป็นผักในกลุ่มกะหล่ำ ที่ให้วิตามินสูง เมื่อปรุงอย่างเหมาะสม
  • ผักโขม มีวิตามินซีประมาณ 28–40 มก. ต่อ 100 กรัม เป็นแหล่งของธาตุเหล็ก และกรดโฟลิกด้วย
  • กะหล่ำปลี โดยเฉพาะกะหล่ำปลีม่วง และเขียว มีวิตามินซีประมาณ 36–50 มก. ต่อ 100 กรัม นิยมนำมาทำสลัด การกินสดจะคงคุณค่าทางโภชนาการ
  • ดอกกะหล่ำ มีวิตามินซีประมาณ 48 มก. ต่อ 100 กรัม ยังเป็นแหล่งของวิตามิน K และไฟเบอร์
  • พาร์สลีย์ สมุนไพรที่อุดมด้วยวิตามินซีประมาณ 133 มก. ต่อ 100 กรัม มักใช้ในปริมาณน้อย แต่มีความเข้มข้นสูง

ที่มา: 20 Foods That Are High in Vitamin C (20 พฤษภาคม 2025) [3]

มีวิธีปรุงผัก เพื่อรักษาวิตามินซีอย่างไร?

วิตามินซีสลายง่ายเมื่อโดนความร้อน แสง และออกซิเจน ดังนั้นการเลือกวิธีเก็บรักษาและปรุงจึงสำคัญ

  • การเก็บ: ควรเก็บในตู้เย็น ในภาชนะปิดสนิท หลีกเลี่ยงแสงแดด
  • การล้าง: ล้างอย่างเบามือ ไม่แช่น้ำไว้นาน
  • การปรุง: หลีกเลี่ยงการต้ม หรือผัดนานเกินไป การนึ่งด้วยความร้อนต่ำจะดีกว่า
  • การกินสด: เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ในการรักษาปริมาณวิตามินซี

คำแนะนำเพิ่มเติม ในการบริโภคผัก

  • เลือกกินผักสดให้หลากหลาย ผักแต่ละชนิด มีปริมาณวิตามินซี และสารอาหารอื่นๆ แตกต่างกัน การหมุนเวียนชนิดผัก จะช่วยให้ร่างกาย ได้รับวิตามินซี และสารอาหารอย่างครอบคลุม
  • หลีกเลี่ยงการปรุงด้วยความร้อนสูง นานเกินไป วิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ และไวต่อความร้อน การต้ม ผัด หรือลวกนานเกินไป จะทำให้วิตามินซีสูญเสียไปมาก ควรเลือกวิธีนึ่ง อบ หรือปรุงด้วยไฟอ่อนในระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหาร
  • บริโภคแบบดิบ หรือนำไปปรุง ร่วมกับอาหารเย็น ผักอย่างพริกหวาน ผักกาดหอม หรือผักโขมดิบสามารถนำไปใส่ในสลัด หรือปั่นได้โดยไม่สูญเสียวิตามินซี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการได้รับวิตามินซีเต็มปริมาณ
  • ล้างและเก็บอย่างถูกวิธี
  • หลีกเลี่ยงการแช่น้ำนาน หรือหั่นผักทิ้งไว้กลางอากาศ เพราะจะทำให้วิตามินซีสลาย ควรล้างด้วยน้ำสะอาดและเก็บในภาชนะปิดสนิทในตู้เย็น
  • จับคู่กับอาหาร ที่มีธาตุเหล็ก การกินผักที่มีวิตามินซีสูง ร่วมกับอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่นถั่ว ธัญพืช หรือผักใบเขียว จะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันภาวะโลหิตจาง
  • หลีกเลี่ยงการบริโภควิตามินซี มากเกินความจำเป็น แม้ว่าวิตามินซีจากผักธรรมชาติ มักไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่หากเสริมจากอาหารเสริม ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ตามคำแนะนำ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
  • บริโภคสม่ำเสมอทุกวัน ไม่จำเป็นต้องครั้งละมาก เพราะวิตามินซีไม่สะสมในร่างกาย การแบ่งบริโภคผัก ที่มีวิตามินซีสูงตลอดทั้งวัน จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าในมื้อเดียว

ผักอะไรที่มีวิตามินซีสูง กับบทสรุป

ผักที่มีวิตามินซีสูง มีอยู่รอบตัวเรา หากรู้จักเลือก และปรุงอย่างเหมาะสม ก็สามารถรับประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ วิตามินซีจากผักไม่เพียงช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ยังมีผลดีต่อผิวพรรณ หัวใจ และระบบการย่อยอาหาร การรู้จักผักแต่ละชนิด จึงเป็นก้าวแรกของการดูแลสุขภาพ และลดการใช้อาหารเสริมโดยไม่จำเป็น

หั่นผักทิ้งไว้นาน วิตามินซีลดลงไหม?

การหั่นผักทิ้งไว้นาน ก่อนปรุงอาหาร สามารถทำให้ปริมาณวิตามินซี ในผักลดลงได้ เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารที่ไวต่อแสง ออกซิเจน และความร้อน เมื่อนำผักมาหั่นหรือสับ เซลล์ผักจะถูกทำลาย ทำให้วิตามินซีสัมผัสกับอากาศโดยตรง และเกิดการออกซิเดชัน ส่งผลให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ

ทานวิตามินซีช่วงเวลาใด ดูดซึมที่ดีที่สุด?

การทานวิตามินซี ให้ดูดซึมได้ดีที่สุด ควรรับประทานในช่วงเช้า หรือระหว่างมื้ออาหาร โดยเฉพาะในขณะที่ท้องว่าง หรือก่อนอาหารประมาณ 30 นาทีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น เพราะวิตามินซีละลายในน้ำ และไม่ต้องอาศัยไขมันในการดูดซึม และควรแบ่งรับประทานวิตามินซีเป็นมื้อย่อยๆ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง