ธัญพืชอะไรที่มี Copper สูง เป็นคำถามที่น่าค้นหา เพราะทองแดง ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องผิวพรรณเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องตั้งแต่การสร้างพลังงานของเซลล์ สร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของสมอง ภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงการสร้างคอลลาเจนให้ผิว และช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ทองแดงในธัญพืชมักพบในรำ และจมูกเมล็ด
ทองแดงเป็นหนึ่งในโลหะ ที่มนุษย์รู้จัก และใช้มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีหลักฐานการใช้เครื่องประดับจากทองแดงธรรมชาติ ย้อนไปได้ถึงราว 9000 ปีก่อนคริสตกาล ในแถบตะวันออกกลาง ต่อมาเมื่อประมาณ 5000 ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์เริ่มรู้จักการถลุงทองแดงจากแร่
และราว 4000 ปีก่อนคริสตกาล ก็มีการพัฒนาวิธีการหลอม และเทโลหะลงในแม่พิมพ์ เพื่อสร้างเครื่องใช้ ส่วนการผสมทองแดงกับดีบุก เพื่อผลิตบรอนซ์ ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญ เกิดขึ้นประมาณ 3500 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงเวลาเดียวกัน มนุษย์ยังเรียนรู้เทคนิคการทำงานกับทองแดงหลายรูปแบบ
ตั้งแต่การตีเย็น การหลอม ไปจนถึงการขึ้นรูปด้วยวิธี lost-wax casting ที่มีหลักฐานในบริเวณ Mehrgarh ของเอเชียใต้ราว 4000 ปีก่อนคริสตกาล (9 กันยายน 2025) [1]
ที่มา: The Health Benefits of Copper (26 กุมภาพันธ์ 2025) [2]
สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป ทั้งชายและหญิง ควรได้รับทองแดง วันละประมาณ 900 ไมโครกรัม ส่วนวัยรุ่นอายุ 14–18 ปี จะอยู่ที่ 1,000 ไมโครกรัม และหากเป็นหญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ร่างกายจะต้องการเพิ่มขึ้น เป็นประมาณ 1,300 ไมโครกรัมต่อวัน (มีนาคม 2023) [3]
หากร่างกายขาดทองแดง จะส่งผลต่อหลายระบบ เนื่องจากทองแดง มีบทบาทในการสร้าง Hemoglobin เอนไซม์ และการทำงานของภูมิคุ้มกัน อาการที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ภาวะโลหิตจาง จากการที่ร่างกายสร้าง Hemoglobin ได้ไม่พอ ทำให้เหนื่อยง่าย และอ่อนเพลีย ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพราะเม็ดเลือดขาวทำงานลดลง
เสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย กระดูกเปราะ หรือความหนาแน่นลดลง จนเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ระบบประสาทผิดปกติ เช่นชา มือสั่น เดินไม่มั่นคง รวมถึงปัญหาผิว และเส้นผม เช่นผิวซีดลง สีผมเปลี่ยน หรือผมบางลง ซึ่งทั้งหมดนี้ มักเกิดจากการขาดสารอาหารเรื้อรัง หรือโรคที่ทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุได้ไม่ดี
การได้รับทองแดงมากเกินไป อาจทำให้เกิดพิษสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะหากเกินค่าที่แนะนำ หรือมีปัญหาการขับออกของตับ อาการที่พบบ่อยคือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย หากสะสมเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ความเสียหายของตับและไต
ความผิดปกติของระบบประสาท เช่นสับสน อารมณ์แปรปรวน หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติ และยังอาจทำให้หัวใจ และหลอดเลือดเสื่อมสภาพเร็วขึ้น กรณีรุนแรงมาก อาจถึงขั้นเป็นพิษต่อชีวิตได้ โดยทั่วไปจึงควรได้รับทองแดง ในปริมาณที่พอดี ไม่ต่ำเกินไป และไม่สูงเกินไป
ธัญพืชที่มีทองแดงสูงคือ ข้าวสาลีงอก รำข้าวสาลี ควินัว ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และข้าวฟ่าง คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้ทองแดงเสริม เพียงเพิ่มการทานธัญพืชให้หลากหลาย ทานสม่ำเสมอ ก็ได้ทองแดงที่เพียงพอ และยังได้ไฟเบอร์ วิตามิน เพื่อบำรุงเลือด ผิวหนัง เส้นผม หลอดเลือด และสุขภาพโดยรวมได้ง่ายๆ
การดูดซึมทองแดงจะดีขึ้น เมื่อรับประทานร่วมกับอาหารที่มีโปรตีน และกรดอะมิโนบางชนิดเช่น Histidine และ cysteine ซึ่งช่วยพาทองแดงเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น รวมถึงวิตามินซีในผัก และผลไม้สด ที่ช่วยเสริมกระบวนการเผาผลาญทองแดง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การดูดซึมทองแดงจะลดลง หากรับประทานร่วมกับแร่ธาตุบางชนิด ในปริมาณสูง เช่นซิงค์ และธาตุเหล็ก เพราะทั้งสองตัวนี้ จะแย่งดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ทองแดงถูกดูดซึมได้น้อยลง นอกจากนี้ อาหารที่มี Phytate ก็สามารถจับกับทองแดง และขัดขวางการดูดซึมได้ รวมถึงสารแทนนิน และออกซาเลตด้วย
