
หลายคนไม่นึกถึง ถั่วอะไรที่มี Copper สูง
- Fiona
- 16 views

ถั่วอะไรที่มี Copper สูง เป็นคำถามที่หลายคนอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน เพราะเมื่อพูดถึงทองแดง หลายคนมักคิดถึงโลหะ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า มากกว่านึกถึงสารอาหาร แต่ในความจริงแล้ว ทองแดงเป็นแร่ธาตุรอง ที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ ในปริมาณเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานอย่างสมบูรณ์
- ทองแดงพบในอาหารใด?
- ถั่วที่มีทองแดงสูง
- ประโยชน์ของทองแดง
ประวัติ ทองแดง การค้นพบ
ทองแดง ถือเป็นหนึ่งในโลหะ ที่มนุษย์รู้จัก และใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนาน หลักฐานบ่งชี้ว่า มีการนำทองแดง ในรูปโลหะธรรมชาติ มาใช้ตั้งแต่ราว 9,000 ปีก่อนคริสตกาล ในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งนับว่าเป็นช่วงแรกเริ่ม ที่มนุษย์รู้จักการใช้โลหะ
ต่อมาเมื่อถึงประมาณ 5,000 ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์สามารถพัฒนาวิธีการหลอมแร่ทองแดง จากหินแร่ และใช้ทำเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ จากนั้นราว 4,000 ปีก่อนคริสตกาล มีการพัฒนาก้าวสำคัญ คือการหล่อทองแดงขึ้นรูป
และไม่นานหลังจากนั้นในราว 3,500 ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์ค้นพบการผสมทองแดง กับดีบุก เพื่อสร้าง Bronze จนนำไปสู่ยุคสัมฤทธิ์ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยน ทางอารยธรรมครั้งใหญ่ เพราะทำให้เครื่องมือ อาวุธ และสิ่งของเครื่องใช้ มีความแข็งแรงทนทาน กว่ายุคหินอย่างมาก (9 กันยายน 2025) [1]
ทองแดงพบในอาหารใด?

ทองแดงสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด โดยกลุ่มที่โดดเด่นที่สุด คืออาหารทะเล อย่างหอยนางรม ซึ่งมีปริมาณทองแดงสูงเป็นพิเศษ รองลงมาคือเห็ดหอม มันเทศ งา ถั่ว ปลาแซลมอน ช็อกโกแลต และอะโวคาโด ซึ่งล้วนเป็นอาหารที่หาได้ไม่ยาก และสามารถนำมาปรุง ในเมนูประจำวันได้
นอกจากนั้นยังมีแหล่งอาหารอื่นที่น่าสนใจ เช่นตับวัว ที่ให้ปริมาณทองแดงสูงมาก รวมถึงอาหารจากพืชอย่างเทมเป้ ควินัว หรือเมล็ดบัควีต ตลอดจนผลไม้ และวัตถุดิบบางชนิด อย่างกะทิ หรือทุเรียน ที่มีทองแดงในระดับที่ดีเช่นกัน (10 พฤศจิกายน 2024) [2]
ทองแดงควรได้รับวันละเท่าไหร่?
ร่างกายของเราต้องการทองแดง ในปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าจำเป็น ต่อการทำงานหลายระบบ เช่นการสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของเอนไซม์ การสร้างพลังงาน รวมถึงการดูแลเนื้อเยื่อ และระบบประสาท
โดยกำหนดค่าปริมาณ ที่ควรได้รับต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ไว้ที่ประมาณ 900 ไมโครกรัมต่อวัน ส่วนหญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับ 1,000 ไมโครกรัมต่อวัน และหญิงให้นมบุตร 1,300 ไมโครกรัมต่อวัน ขณะที่เด็กและวัยรุ่น จะมีความต้องการแตกต่างกัน ตามอายุ ซึ่งอยู่ในช่วง 200–890 ไมโครกรัม/วัน
ถั่วอะไรบ้างที่มีทองแดงสูง?
ถั่วที่มีทองแดงสูง ต่อ 100 กรัม มีดังนี้
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มีทองแดงสูงสุดราว 2.2 มก. กินเพียงนิดเดียว ก็ได้ปริมาณใกล้เคียง ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
- เฮเซลนัท มีทองแดงประมาณ 1.7 มก. นอกจากทองแดง ยังอุดมด้วยวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวพรรณ และหัวใจ
- ถั่วบราซิล มีทองแดงราว 1.7 มก. มีซีลีเนียมสูง แต่ก็มีทองแดงสูงเช่นกัน กินไม่กี่เม็ด ก็ได้สารอาหารครบ
- วอลนัท มีทองแดงประมาณ 1.6 mg. ให้ทั้ง Omega 3 และทองแดง เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพสมอง และหัวใจ
- วอลนัทดำ มีทองแดงราว 1.4 mg. รสจัดกว่าวอลนัททั่วไป ขมและฝาดเล็กน้อย เนื้อแน่น มีทองแดงระดับที่ดี
- เมล็ดสน มีทองแดงประมาณ 1.3 mg. ลักษณะเป็นเมล็ดเล็กๆ สามารถใช้โรยในสลัดได้
- พิสตาชิโอ มีทองแดง 1.3 มิลลิกรัม รสชาติ กรอบมัน หอม กินเล่นเพลิน และมีทองแดงอยู่ไม่น้อย
- พีแคน มีทองแดง 1.2 มิลลิกรัม รสหวานมัน เหมาะใส่ในเมนูเบเกอรี่ เสริมทองแดงเพิ่มอีกทาง
ทองแดงมีประโยชน์อะไรต่อร่างกาย?
- ช่วยบำรุงสมอง ทองแดงเป็นแร่ธาตุ ที่มีความสำคัญกับสมอง เพราะสมองเป็นอวัยวะหนึ่ง ที่มีปริมาณทองแดงสูงที่สุดในร่างกาย การขาดทองแดง อาจส่งผลให้การพัฒนาของสมอง และเส้นประสาทไม่สมบูรณ์ และอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อโรคอัลไซเมอร์ในระยะยาว
- ป้องกันภาวะโลหิตจาง ทองแดงช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ถ้าได้รับทองแดงต่ำกว่าที่ร่างกายต้องการ อาจก่อให้เกิดโลหิตจาง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอื่นๆ
- ช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกัน ปริมาณทองแดงที่เพียงพอ ช่วยสนับสนุนการทำงาน ของระบบภูมิคุ้มกัน และถ้าร่างกายขาดทองแดง อาจลดการผลิตเซลล์ภูมิคุ้มกัน ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญพลังงาน ทองแดงมีบทบาท ในการสลายเซลล์ไขมัน และช่วยให้การเผาผลาญพลังงานโดยรวมของร่างกาย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- บำรุงผิวพรรณ ทองแดงช่วยปกป้องเซลล์ จากอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ และช่วยให้แผลหายเร็วกว่าปกติ
ที่มา: 8 อาหารที่มีทองแดงสูง ช่วยบำรุงสมอง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน (7 พฤศจิกายน 2022) [3]
โทษของทองแดง คืออะไร?
ทองแดงแม้เป็นแร่ธาตุจำเป็น แต่ถ้าได้รับมากเกินไป ก็มีโทษต่อร่างกายได้ ดังนี้
- สะสมในตับ และอวัยวะสำคัญ ทำให้เกิดโรคตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง หรือภาวะตับวาย
- ทำลายไต และสมอง ส่งผลต่อการทำงาน ของระบบประสาท ทำให้เกิดอาการสับสน ความจำเสื่อม หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท
- ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ เช่นคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย
- ความผิดปกติของเลือด การมีทองแดงสูงเกินไป อาจรบกวนการสร้างเม็ดเลือดแดง เกิดภาวะโลหิตจางได้
- เกิดความเครียดออกซิเดชัน ทำให้เซลล์ถูกทำลาย เสี่ยงโรคหัวใจ และโรคเสื่อมต่างๆ
- โรค Wilson’s disease ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดทองแดงส่วนเกินได้ ส่งผลให้ทองแดง สะสมในตับ ดวงตา และสมอง จนเกิดอาการรุนแรง
- พิษเฉียบพลัน หากได้รับทองแดงปริมาณมาก ในคราวเดียว เช่นจากน้ำดื่มที่ปนเปื้อน จะทำให้เกิดอาเจียนรุนแรง ปวดท้อง ท้องเสีย และอาจทำให้ไตวายเฉียบพลันได้
สรุปแล้ว ถั่วอะไรที่มีทองแดงสูง
ถั่วถือเป็นหนึ่งในแหล่งทองแดงชั้นดี ที่หลายคนอาจมองข้าม โดยมีตั้งแต่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ที่ให้สูงสุด เฮเซลนัท และถั่วบราซิล ไปจนถึงอัลมอนด์ การกินถั่วเหล่านี้ ในปริมาณพอเหมาะ ช่วยให้ร่างกายได้รับทองแดงเพียงพอ ต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของเอนไซม์ การดูแลสมอง หัวใจ และผิวพรรณ
ถ้าร่างกายขาดแร่ทองแดง จะเกิดอะไรขึ้น?
ถ้าร่างกายขาดทองแดง จะส่งผลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของเอนไซม์ และการพัฒนาสมอง อาการที่อาจพบได้คือ โลหิตจางจากการสร้างเม็ดเลือดผิดปกติ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ แผลหายช้า กระดูกเปราะบาง ระบบประสาททำงานผิดปกติ เช่นเดินเซ มือสั่น ในเด็กเล็กอาจกระทบต่อการเจริญเติบโต
ใครที่ควรทานทองแดงเสริม?
กลุ่มที่ควรทานทองแดงเสริมได้แก่ ผู้ที่มีภาวะดูดซึมสารอาหารผิดปกติ เช่นโรคทางลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือผู้ที่ได้รับการให้อาหารทางหลอดเลือดเป็นเวลานาน ผู้ที่ทานสังกะสีในปริมาณสูงต่อเนื่อง และทารกคลอดก่อนกำหนด ที่อาจยังสะสมทองแดงไม่เพียงพอ แต่การเสริมทองแดง ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์
- Tags: สุขภาพ


