เบต้าแคโรทีน สารอาหารเพื่อสุขภาพดวงตาสดใส

เบต้าแคโรทีน

เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) เป็นสารสำคัญ ที่ได้รับความสนใจในวงการโภชนาการ และสุขภาพมาอย่างยาวนาน สารชนิดนี้ ไม่ได้มีเพียงความเกี่ยวข้อง กับสีสันที่สวยงามในผักและผลไม้ แต่ยังแฝงไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญ ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพในหลากหลายด้าน

เบต้าแคโรทีน และสาร Carotenoids คืออะไร

เบต้าแคโรทีนเป็นสารประกอบ ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งเป็นรงควัตถุ ที่พบในพืช ผัก และผลไม้ที่มีสีสันสดใส เช่นสีเหลือง ส้ม และแดง สารนี้ทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ (Provitamin A)

เมื่อเข้าเบต้าแคโรทีนสู่ร่างกาย สารเบต้าแคโรทีน จะถูกเปลี่ยนเป็น Vitamin A ในตับ เพื่อช่วยในการบำรุงสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสนับสนุนการเจริญเติบโต ของเซลล์ต่างๆ

สาร เบต้าแคโรทีน มีประโยชน์อย่างไร

  • เบต้าแคโรทีนช่วยบำรุงสายตา เนื่องจากเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งช่วยเสริมสร้างการมองเห็น โดยเฉพาะการมองเห็นในที่แสงน้อย และลดความเสี่ยงของโรคตา เช่นต้อกระจก และจอประสาทตาเสื่อม
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอจากเบต้าแคโรทีน ช่วยกระตุ้นการทำงาน ของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกาย ต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดีขึ้น
  • ต้านอนุมูลอิสระ เบต้าแคโรทีนมีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกาย จากความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจลดความเสี่ยง การเกิดโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด
  • ส่งเสริมสุขภาพผิวพรรณ วิตามินเอช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย
  • ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง การบริโภคอาหาร ที่มีเบต้าแคโรทีนสูง เช่นผัก และผลไม้สีส้ม เหลือง และเขียวเข้ม สามารถช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ และหลอดเลือด
  • ช่วยการทำงานของปอด มีการวิจัย ที่แสดงว่าเบต้าแคโรทีน อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคปอด โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยง จากการสูบบุหรี่
  • สนับสนุนการเจริญเติบโต และการพัฒนา วิตามินเอจากเบต้าแคโรทีน มีบทบาทสำคัญ ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ การพัฒนาโครงสร้างกระดูก และการบำรุงสุขภาพร่างกายโดยรวม
  • ช่วยลดความเสี่ยง โรคมะเร็งบางชนิด เบต้าแคโรทีนอาจช่วยลดความเสี่ยง ของมะเร็งบางชนิด เช่นมะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมาก

ที่มา: ประโยชน์ของเบต้าแคโรทีน สีสันในผักผลไม้เพื่อสุขภาพ [1]

 

การกิน เบต้าแคโรทีน อันตรายไหม

เบต้าแคโรทีนไม่เป็นอันตราย หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม แต่หากได้รับ ในปริมาณมากเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียงเช่น Carotenemia (ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้ม) ซึ่งไม่ร้ายแรง และในกรณีของผู้สูบบุหรี่ การบริโภคอาหารเสริมเบต้าแคโรทีน ในปริมาณสูง อาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อมะเร็งปอดได้ [2]

ผลไม้อะไรบ้าง ที่มีสารเบต้าแคโรทีน

เบต้าแคโรทีน

เบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ พบมากในผัก และผลไม้ ที่มีสีสันสดใส โดยเฉพาะสีเหลือง ส้ม และแดง ผลไม้ที่มีปริมาณเบต้าแคโรทีนสูง และเป็นที่นิยม ได้แก่

  • มะม่วงน้ำดอกไม้สุก ผลไม้สีเหลืองทอง รสหวานฉ่ำ มีปริมาณเบต้าแคโรทีน ประมาณ 879 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม
  • มะละกอสุก ผลไม้เนื้อสีส้ม มีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร มีปริมาณเบต้าแคโรทีน ประมาณ 532 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม
  • แคนตาลูปเนื้อเหลือง ผลไม้เนื้อหวานฉ่ำ กลิ่นหอมเฉพาะตัว ปริมาณเบต้าแคโรทีนประมาณ 217 มคก. ต่อ 100 ก.
  • มะเขือเทศราชินี เป็นมะเขือเทศขนาดเล็ก รสหวานกรอบ ปริมาณเบต้าแคโรทีนประมาณ 639 มคก. ต่อ 100 ก.
  • กล้วยไข่ เป็นกล้วยขนาดเล็ก เนื้อแน่นหวาน มีปริมาณเบต้าแคโรทีนประมาณ 200 microgram ต่อ 100 g.

ที่มา: เบต้าแคโรทีนเพื่อหัวใจ และสุขภาพที่แข็งแรง [3]

ข้อแนะนำ และปริมาณในการทานเบต้าแคโรทีน

  • ปริมาณที่แนะนำ: ปริมาณที่เหมาะสม ของเบต้าแคโรทีนคือ 6–15 มิลลิกรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล
  • เลือกแหล่งธรรมชาติ: การบริโภค จากแหล่งธรรมชาติ เช่นผัก และผลไม้ มักไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ และปลอดภัย กว่าอาหารเสริม เนื่องจากร่างกาย จะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีน เป็นวิตามินเอ เท่าที่จำเป็น
  • อ่านฉลากผลิตภัณฑ์: หากรับประทาน ในรูปแบบอาหารเสริม ควรอ่านฉลาก เพื่อทราบปริมาณที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการบริโภค เกินปริมาณที่แนะนำ
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือใช้ยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน รับประทานอาหารเสริม
  • การรับประทาร่วมกับ ลูทีน จะช่วยเสริมการทำงานของเบต้าแคโรทีน ในการบำรุงสายตา โดยเฉพาะการป้องกันจอประสาทตาเสื่อม  และลดผลกระทบจากแสงสีฟ้า ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา

ข้อควรระวังการบริโภค เบต้าแคโรทีน

  • ปริมาณที่มากเกินไป: การบริโภคเบต้าแคโรทีน ในปริมาณสูงเกินไป (จากอาหารเสริม หรือการบริโภคอาหารชนิดเดียวมากเกินไป) อาจทำให้เกิด Carotenemia ซึ่งทำให้ผิวหนังมีสีเหลืองส้ม
  • ผู้สูบบุหรี่: ผู้สูบบุหรี่ ควรหลีกเลี่ยง อาหารเสริมเบต้าแคโรทีน เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า การรับประทานในปริมาณสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งปอด
  • การสะสมในร่างกาย: การบริโภคอาหารเสริมเบต้าแคโรทีน ในปริมาณมาก และต่อเนื่อง อาจรบกวนการดูดซึมวิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ
  • ไม่เหมาะสำหรับทุกคน: หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนรับประทานอาหารเสริมเบต้าแคโรทีน

สรุป เบต้าแคโรทีน สารบำรุงตา เสริมภูมิคุ้มกัน

เบต้าแคโรทีนเป็นสารอาหาร ที่มีความสำคัญ ต่อสุขภาพหลายด้าน ตั้งแต่การบำรุงสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงการลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรัง การบริโภคเบต้าแคโรทีน จากแหล่งธรรมชาติ เช่นผักและผลไม้ ช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ อย่างครบถ้วน และเสริมสร้างสุขภาพ ในระยะยาว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง