สารสกัดบิลเบอร์รี่ ช่วยดูแลสายตาแบบครบวงจร

สารสกัดบิลเบอร์รี่

สารสกัดบิลเบอร์รี่ (Bilberry Extract) ได้รับความนิยม ในกลุ่มผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะในแวดวงของการดูแลสายตา และผิวพรรณ แต่รู้หรือไม่ว่าสารสกัดนี้ มีประวัติความเป็นมา และคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกมากมาย บทความนี้จะพาไปรู้จักกับบิลเบอร์รี่ ตั้งแต่ความเป็นมา สารอาหารสำคัญที่พบในบิลเบอร์รี่และอื่นๆ

ความเป็นมาของบิลเบอร์รี่

สารสกัดบิลเบอร์รี่

บิลเบอร์รี่ หรือ Vaccinium myrtillus เป็นผลไม้ขนาดเล็ก ที่มีถิ่นกำเนิด ในพื้นที่ป่าเขาของยุโรปตอนเหนือ และบางส่วนของเอเชีย เช่นสแกนดิเนเวีย รัสเซีย และสกอตแลนด์ ผลของบิลเบอร์รี่มีสีม่วงเข้ม หรือเกือบดำ เนื้อฉ่ำหวานอมเปรี้ยว โดยพืชชนิดนี้มักพบในป่า ที่มีสภาพแวดล้อมเย็นชื้น ซึ่งเหมาะสำหรับการเติบโต

ในอดีตบิลเบอร์รี่มีบทบาทสำคัญ ในชีวิตของชาวยุโรป โดยมักถูกนำมาใช้เป็นยาพื้นบ้าน เพื่อรักษาอาการท้องเสีย บรรเทาการติดเชื้อในลำไส้ และช่วยส่งเสริมการมองเห็นในที่มืด ผลไม้ชนิดนี้ ยังถูกนำไปแปรรูปเป็นแยม เยลลี่ ไวน์ และใช้เป็นสีย้อมธรรมชาติอีกด้วย

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บิลเบอร์รี่ได้รับการกล่าวถึงมากขึ้น เมื่อมีรายงานว่า ทหารนักบินของอังกฤษ บริโภคผลไม้ชนิดนี้ เพื่อช่วยปรับปรุงการมองเห็นในเวลากลางคืน ซึ่งทำให้บิลเบอร์รี่ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ปัจจุบัน บิลเบอร์รี่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในวงการสุขภาพ และอาหารเสริม

สารอาหารที่สำคัญใน สารสกัดบิลเบอร์รี่

  • แอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสายตา ลดการอักเสบ และเสริมสร้างการทำงาน ของหลอดเลือดฝอย
  • วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ และปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย
  • วิตามินอี (Vitamin E) สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดการอักเสบ และส่งเสริมสุขภาพตา
  • ไฟเบอร์ (Fiber) ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร และลดความเสี่ยง ของปัญหาลำไส้
  • สารฟีนอลิก (Phenolic Compounds) สารที่ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันโรคหัวใจ และมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
  • แทนนิน (Tannins) ช่วยลดการติดเชื้อ ในระบบทางเดินปัสสาวะ และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • กรดอินทรีย์ (Organic Acids) เช่นกรดซิตริก และกรดมาลิก ช่วยปรับสมดุลของค่า pH ในร่างกาย
  • วิตามินเอ (Vitamin A) บำรุงสายตา เสริมสร้างการมองเห็นในที่แสงน้อย และป้องกันโรคตา
  • แมงกานีส (Manganese) ช่วยเสริมสร้างกระดูก และข้อต่อ พร้อมทั้งมีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการเผาผลาญ
  • กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3 Fatty Acids) มีส่วนช่วยลดการอักเสบ และเสริมสุขภาพหัวใจ

อาหารเสริม สารสกัดบิลเบอร์รี่ ช่วยเรื่องอะไร

  • บำรุงสายตา สารสกัดบิลเบอร์รี่อุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน ซึ่งช่วยเสริมสร้างการมองเห็น ในที่แสงน้อย ลดอาการตาล้า และช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาโดยรวม
  • ลดความเสี่ยงโรคตา ช่วยป้องกันโรคตา ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เช่นจอประสาทตาเสื่อม และต้อกระจก
  • ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต สารแอนโทไซยานิน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ในหลอดเลือดฝอย เพิ่มการลำเลียงออกซิเจน และสารอาหารไปยังดวงตา
  • ต้านอนุมูลอิสระ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ที่ช่วยปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย อันเนื่องมาจากมลภาวะ และความเครียด
  • ลดการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย รวมถึงดวงตา ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแดง หรืออักเสบ
  • เสริมสร้างหลอดเลือดฝอย ทำให้หลอดเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น ช่วยลดความเสี่ยง การเกิดจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
  • ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ซึ่งดีต่อสุขภาพหัวใจ

ที่มา: ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพหัวใจและดวงตา [1]

 

สารสกัดบิลเบอร์รี่ ควรกินตอนไหน ปริมาณที่แนะนำ

สารสกัดบิลเบอร์รี่ควรรับประทาน ในเวลาที่เหมาะสม ตามวัตถุประสงค์ และคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ สามารถรับประทานได้ทั้งก่อน หรือหลังอาหาร โดยทั่วไปมีคำแนะนำ ดังนี้

  • พร้อมมื้ออาหาร: การรับประทานพร้อมอาหาร ช่วยเพิ่มการดูดซึม ของสารแอนโทไซยานิน ในสารสกัดบิลเบอร์รี่ และลดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
  • ช่วงเช้าหรือระหว่างวัน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงสายตา เนื่องจากช่วยลดอาการตาล้า จากการทำงานหน้าจอ หรือแสงแดดในระหว่างวัน
  • ก่อนนอน: การรับประทานก่อนนอน สามารถช่วยเสริมการฟื้นฟูของร่างกาย ในช่วงกลางคืน โดยเฉพาะการบำรุงสายตา และการฟื้นตัวของผิวพรรณ
  • ปริมาณที่แนะนำ: สำหรับสารสกัดบิลเบอร์รี่ที่มี Anthocyanosides มาตรฐาน 25% ปริมาณที่แนะนำคือ 80–160 มิลลิกรัม วันละ 1–3 ครั้ง

ที่มา: Bilberry (บิลเบอร์รี่) มีประโยชน์ต่อดวงตาอย่างไร [2]

 

Bilberry กับ Blueberry ต่างกันอย่างไร

บิลเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญ หลายประการ ดังนี้

  • แหล่งกำเนิดและการเพาะปลูก: บิลเบอร์รี่มีถิ่นกำเนิดในป่า และภูเขาของยุโรปเหนือ และเอเชีย มักพบในป่าธรรมชาติ และยากต่อการเพาะปลูก ส่วนบลูเบอร์รี่ มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือ และได้รับการเพาะปลูกอย่างแพร่หลายทั่วโลก
  • ลักษณะผล: บิลเบอร์รี่ผลมีขนาดเล็กกว่า สีเข้มกว่า และเนื้อในมีสีแดง หรือม่วงเข้ม ส่วนบลูเบอร์รี่ผลมีขนาดใหญ่กว่า สีฟ้าหรือฟ้าอมม่วง และเนื้อในมีสีเขียวอ่อน หรือขาว
  • รสชาติ: บิลเบอร์รี่มีรสชาติเข้มข้น เปรี้ยวหวาน และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ส่วนบลูเบอร์รี่มีรสชาติหวานละมุน และมีกลิ่นหอมน้อยกว่า
  • คุณค่าทางโภชนาการ: บิลเบอร์รี่มีปริมาณแอนโทไซยานินสูงกว่า ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพตาและหัวใจ ส่วนบลูเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินต่างๆ แต่ในปริมาณที่น้อยกว่าบิลเบอร์รี่
  • การใช้ประโยชน์: บิลเบอร์รี่นิยมใช้ในแยม ขนมอบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในยุโรป ส่วนบลูเบอร์รี่นิยมรับประทานสด ใส่ในซีเรียล โยเกิร์ต และขนมอบต่างๆ

ความแตกต่างเหล่านี้ ทำให้บิลเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านลักษณะภายนอก รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ [3]

คำแนะนำ ข้อควรระวังการใช้ สารสกัดบิลเบอร์รี่

สารสกัดบิลเบอร์รี่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการบำรุงสายตา และการต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม การใช้งานควรคำนึงถึงคำแนะนำ และข้อควรระวังดังนี้

  • ปริมาณการบริโภคที่เหมาะสม ควรบริโภคสารสกัดบิลเบอร์รี่ ในปริมาณที่แนะนำ บนฉลากผลิตภัณฑ์ หรือปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้งาน
  • หลีกเลี่ยงการใช้เกินปริมาณ การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่นท้องเสีย คลื่นไส้ หรืออาการแพ้อื่นๆ
  • ผู้ที่มีโรคเบาหวานควรระมัดระวัง เนื่องจากสารสกัดบิลเบอร์รี่ อาจลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจส่งผลต่อผู้ที่ใช้ยาลดน้ำตาลในเลือด
  • การใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารสกัดบิลเบอร์รี่ ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาแอสไพริน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดภาวะเลือดออก
  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารสกัดบิลเบอร์รี่ ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ เกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้
  • ตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์สารสกัดบิลเบอร์รี่ จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และผ่านการรับรองคุณภาพ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน หรือสารเติมแต่งที่ไม่ปลอดภัย
  • ปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ หากเกิดอาการแพ้ เช่นผื่นคัน หายใจลำบาก หรืออาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ ควรหยุดใช้ทันที และปรึกษาแพทย์
  • สารสกัดบิลเบอร์รี่สามารถรับประทานร่วมกับอาหารเสริม ลูทีน จะทำงานร่วมกันในการบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม และลดอาการตาล้า จากการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ

สรุป สารสกัดบิลเบอร์รี่ บำรุงตา ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ

สารสกัดบิลเบอร์รี่ เป็นสารอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ตั้งแต่การบำรุงสายตา ปกป้องผิวพรรณ ไปจนถึงการเสริมสุขภาพหัวใจ และการคุมน้ำตาลในเลือด หากกำลังมองหาอาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพในระยะยาว บิลเบอร์รี่อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่า

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง