
Prebiotics ยี่ห้อไหนดี คำถามนี้เริ่มได้รับความสนใจ ในกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ให้ความสำคัญ กับการดูแลลำไส้ และระบบทางเดินอาหาร เพราะในแต่ละวัน พฤติกรรมการกิน การนอน หรือความเครียด ล้วนมีผล ต่อสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย การเลือกอาหารเสริมพรีไบโอติก จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่หลายคนกำลังมองหา
Prebiotics คืออะไร พรีไบโอติกคือใยอาหาร ที่ไม่ถูกย่อย ในทางเดินอาหารส่วนต้น แต่กลับเป็นแหล่งอาหารชั้นดี ของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ ช่วยเสริมสร้างสมดุล ของระบบย่อยอาหาร และภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
ด้วยแบรนด์ที่หลากหลาย ในท้องตลาด จึงเกิดคำถามตามมาว่า Prebiotics ยี่ห้อไหนดีที่ทั้งมีสารสกัดคุณภาพ ราคาคุ้มค่า และมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ จากในหลายๆเว็บไซต์ ที่แนะนำกันมา บทความนี้ จะพาไปดูพรีไบโอติกแต่ละยี่ห้อ พร้อมเปรียบเทียบ ให้เห็นภาพชัดเจนว่า มีตัวเลือกใด ที่น่าสนใจบ้าง
เว็บไซต์ Kapook ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาหารเสริม Prebiotics ยี่ห้อไหนดี ไว้ดังนี้
ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก และพรีไบโอติก สูตรซินไบโอติก จากสหรัฐอเมริกา ลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ทรงกลม รับประทานง่าย ประกอบด้วยโพรไบโอติก 5 สายพันธุ์ ได้แก่ แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส, แล็กโทบาซิลลัส แพลนทารัม, แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี, บิฟิโดแบคทีเรียม อินแฟนทิส และบิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส
จำนวน 4 พันล้านหน่วย และยังเสริมด้วยพรีไบโอติก ช่วยให้จุลินทรีย์เติบโต อย่างต่อเนื่อง จึงดีต่อการทำงาน ของระบบทางเดินอาหาร ลดอาการลำไส้แปรปรวน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ที่สำคัญคือ ใช้เทคโนโลยี ที่ช่วยปกป้องจุลินทรีย์ ไม่ให้ถูกกรดในกระเพาะ ทำลายก่อนไปถึงลำไส้
ไม่มีสารปรุงแต่งสี กลิ่น และรส ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแล็กโทส ปราศจากกลูเตน และสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่ นม ไข่ และถั่ว
ข้อมูลเฉพาะ
Profect ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติก และพรีไบโอติก650 สูตรซินไบโอติก ตัวยาทำจากแคปซูลพืช กลืนง่าย มาในรูปแบบแคปซูล ซ้อนแคปซูล ช่วยลำเลียงโพรไบโอติก ให้เข้าไปถึงลำไส้ ได้โดยไม่สลายตัว ประกอบด้วยโพรไบโอติก สายพันธุ์แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส
ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหว ของลำไส้ บรรเทาอาการ ลำไส้แปรปรวน ยับยั้งการเจริญเติบโต ของแบคทีเรียก่อเกิดโรค และพรีไบโอติก ได้แก่ ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ช่วยเสริมประสิทธิภาพ การทำงานของโพรไบโอติก ทั้งหมด 1.5 หมื่นล้าน CFU ต่อกรัม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาขับถ่าย หรือมีอาการลำไส้แปรปรวน
ข้อมูลเฉพาะ
แบรนด์อินเนอร์ไชน์ โพรไบโอ ผลิตภัณฑ์พรีไบโอติก จากแบรนด์ ด้วยสูตรซินไบโอติก ประกอบด้วยโพรไบโอติก ได้แก่บาซิลลัส โคแอกกูแลน และแล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส ช่วยรักษาสมดุล ของระบบทางเดินอาหาร มีโพรไบโอติก ไม่ต่ำกว่า 500 ล้าน CFU ต่อซอง มาพร้อมพรีไบโอติก ได้แก่ไซโลโอลิโกแซคคาไรด์
ช่วยให้จุลินทรีย์เติบโต และไฟเบอร์ รีซิสแทนต์ มอลโทเดกซ์ทริน ใยอาหารช่วยเพิ่มกาก ในระบบทางเดินอาหาร และกระตุ้นการขับถ่าย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา การขับถ่าย ท้องผูก ท้องอืด ผู้ที่ต้องการผิวพรรณสดใส มาในรูปแบบผงชงดื่ม บรรจุในซอง พกพาสะดวก แต่มีส่วนผสมของนม จึงไม่เหมาะกับผู้แพ้นม
ข้อมูลเฉพาะ
MEGA We care เอ บี พรีแอนด์โพร สูตรซินไบโอติก จากแบรนด์เมก้าวีแคร์ ใน 1 ซอง ประกอบด้วยโพรไบโอติก ได้แก่ แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส และบิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส ช่วยปรับสมดุลของลำไส้ ช่วยย่อยและดูดซึมอาหาร เสริมภูมิคุ้มกัน และยังมีพรีไบโอติก อินนูลิน ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
ข้อมูลเฉพาะ
ZEAVITA ACTIV70X COLLAGEN PLUS PREBO & ZINC ผลิตภัณฑ์พรีไบโอติก ชนิดผงชงดื่ม จากซีวิต้า ไม่ใส่สี ไม่เติมน้ำตาล ไร้สารโลหะหนัก ประกอบด้วยพรีไบโอติก ได้แก่ ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ และส่วนผสมอื่นๆ ที่เน้นสรรพคุณเรื่องผิวพรรณ
ทั้งผงคอลลาเจนไดเปปไทด์จากปลา ที่ช่วยบำรุงผิว และเล็บ มีวิตามินซี ที่ช่วยสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอยแห่งวัย รวมทั้งซิงก์ หรือสังกะสี ที่มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของผิวหนัง
อีกทั้งยังมีไนอะซิน ช่วยคงสภาพปกติ ของเยื่อบุทางเดินอาหาร และผิวหนัง เหมาะกับคนที่ต้องการปรับสมดุล ระบบย่อยอาหาร เพื่อให้สุขภาพภายในดีขึ้น และส่งผลต่อผิวพรรณภายนอก
ข้อมูลเฉพาะ
ที่มา: พรีไบโอติก ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 เสริมจุลินทรีย์ดีในลำไส้ [1]
ไฮบาลานซ์ พรีไบโอติก พรีไบโอติกช่วยเพิ่มสารอาหาร ให้จุลินทรีย์ชนิดดี เจริญเติบโตได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยย่อยแบคทีเรียในลำไส้ ปรับสมดุลระบบขับถ่าย ให้เป็นปกติ ลดอาการท้องผูก และช่วยขับสารพิษตกค้างภายในร่างกาย
ข้อมูลเฉพาะ
ที่มา: ไฮบาลานซ์ พรีไบโอติกส์ [2]
พรีไบโอติก prebiotics พรีไบโอติก โพรไบโอติก probiotics ไฟเบอร์ 10000มก. กิฟฟารีน อินนูลิน ไฮท์ ไฟเบอร์ ดริ๊งค์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ใยอาหาร (อินนูลิน) ผสมผักผลไม้รวม และวิตามินซี ชนิดผงอัดแน่นด้วย อินนูลินจากชิคอรี จากประเทศเนเธอร์แลนด์
ให้ใยอาหารสูง 10,000 มก./ซอง ผสมผสานสารสกัดธรรมชาติ จากผักและผลไม้ 20 ชนิด Apple, strawberry, spinach, melon, lemon, orange, apricot, carrot, peach, pear, banana, plum, pomegranate, mixed berries (strawberry, raspberry, beetroot, elderberry, blackcurrant, blueberry) Acerola Cherry
สารสกัดจากแอปเปิล ใยอาหารเพิ่มกากในระบบทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย อินนูลิน จากชิคอรีช่วยเพิ่มบิฟิโดแบคทีเรียในลำไส้ ไม่ใส่น้ำตาลทราย ใช้หญ้าหวาน เป็นสารให้ความหวาน แทนน้ำตาล
ข้อมูลเฉพาะ
ที่มา: พรีไบโอติก prebiotics [3]
Prebiotics ยี่ห้อไหนดี จากการเปรียบเทียบทั้งด้านราคา ปริมาณ สารสกัด และความคุ้มค่าในบทความนี้ Prebiotics ยี่ห้อ Hi-Balanz FOS Fructo Oligosaccharides เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด สำหรับผู้เริ่มต้นดูแลลำไส้ ด้วยจุดเด่นคือให้พรีไบโอติกบริสุทธิ์ในรูปแบบแคปซูล รับประทานง่าย ราคาไม่แพง
พรีไบโอติกควรรับประทาน ในช่วงเวลาที่ลำไส้ พร้อมดูดซึมสารอาหาร อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ ตอนท้องว่าง เช่นก่อนอาหารเช้า หรือก่อนนอน โดยเฉพาะก่อนอาหารเช้า เพราะระบบย่อยอาหาร ยังไม่ทำงานหนัก และไม่มีอาหารอื่น มากวนการดูดซึม
การรับประทานพรีไบโอติกในช่วงนี้ จะช่วยให้จุลินทรีย์ดีในลำไส้ ได้รับสารอาหารโดยตรง และสามารถขยายจำนวน ได้ดีมากขึ้น ในกรณีที่พรีไบโอติก อยู่ในรูปแบบอาหารเสริม หรือผสมมากับโพรไบโอติก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของฉลาก หรือเภสัชกร
โดยทั่วไปการรับประทานพรีไบโอติกต่อเนื่อง ในเวลาเดิมทุกวัน จะให้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ และเห็นผลดีในระยะยาว
แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่พรีไบโอติก (Prebiotics) และโพรไบโอติก (Probiotics) ทำหน้าที่ต่างกัน ในระบบทางเดินอาหาร
พรีไบโอติก คืออาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ โดยส่วนมาก จะเป็นใยอาหาร ชนิดที่ไม่สามารถย่อยได้ ในกระเพาะ เช่นอินนูลิน (Inulin), ฟรุคโตโอลิโกแซ็กคาไรด์ (FOS) หรือกากใยจากผักผลไม้บางชนิด พรีไบโอติกช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต ของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เช่นแลคโตบาซิลลัส และไบฟิโดแบคทีเรีย
โพรไบโอติก คือจุลินทรีย์ดีมีชีวิต ที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อรับประทาน ในปริมาณที่เหมาะสม เช่นแลคโตบาซิลลัส, ไบฟิโดแบคทีเรีย, ซาเคอโรไมซีส โบลาร์ดี ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ป้องกันอาการท้องเสีย เสริมภูมิคุ้มกัน และลดการอักเสบ
โดยทั่วไปแล้ว พรีไบโอติกถือว่าเป็นสารที่ปลอดภัย และให้ประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็มีบางกรณี ที่อาจเกิดผลข้างเคียง โดยเฉพาะในช่วงแรก ของการรับประทาน หรือหากรับประทานในปริมาณ ที่มากเกินไป
หากต้องการเริ่มรับประทานพรีไบโอติก ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มตามคำแนะนำ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดีและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง