Curcuminoids ช่วยอะไร สารต้านอักเสบ ดูแลลำไส้

Curcuminoids ช่วยอะไร

Curcuminoids ช่วยอะไร คำถามนี้เริ่มมีคนพูดถึงกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่หันมาดูแลสุขภาพ และสนใจผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น เคอร์คูมินอยด์ไม่เพียงแต่โดดเด่น ในเรื่องสีสัน แต่ยังได้รับความสนใจ ในด้านของคุณสมบัติ ที่มีผลต่อร่างกายหลากหลายด้าน

สารเคอร์คูมินอยด์ คืออะไร?

Curcuminoids ช่วยอะไร

เคอร์คูมินอยด์คือกลุ่มของสารประกอบโพลีฟีนอล (polyphenolic compounds) ที่พบมากในพืชตระกูลขิง โดยเฉพาะ ขมิ้นชัน (Curcuma longa) ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญที่สุด โดยกลุ่มเคอร์คูมินอยด์ ประกอบด้วยสารหลัก 3 ชนิด ดังนี้

  • เคอร์คูมิน (Curcumin) เป็นสารสำคัญที่สุด มีฤทธิ์ทางชีวภาพเด่น เช่นต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ
  • เดเมทอกซีเคอร์คูมิน (Demethoxycurcumin)
  • บิสเดเมทอกซีเคอร์คูมิน (Bisdemethoxycurcumin)

สารเหล่านี้เป็นตัวให้ สีเหลืองสดแก่ขมิ้น และใช้เป็นสีผสมอาหารจากธรรมชาติ ในรหัส E100 (E100 คือรหัสของเคอร์คูมิน ซึ่งใช้เป็น สีผสมอาหารจากธรรมชาติ ได้รับการอนุมัติ อย่างเป็นทางการ ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป และถูกใช้แต่งสีในอาหารหลายชนิด) [1]

เคอร์คูมินอยด์มีสรรพคุณอะไรบ้าง?

  • ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) ยับยั้งเอนไซม์ และสารที่กระตุ้นการอักเสบเช่น COX-2, NF-κB ลดอาการในโรคอักเสบเรื้อรัง เช่นข้ออักเสบ ลำไส้อักเสบ
  • ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ลดการเกิดความเสียหายของเซลล์ จากอนุมูลอิสระ เสริมการทำงาน ของเอนไซม์ป้องกันเซลล์เช่น SOD และ catalase
  • ต้านมะเร็ง (Anti-cancer) ยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็งหลายชนิด ป้องกันการแพร่กระจาย ของเซลล์มะเร็ง (metastasis) และกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็ง (apoptosis)
  • บำรุงสมอง (Neuroprotective) ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์สมอง มีผลดีต่อโรคอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน ลดการสะสมของโปรตีน Beta amyloid ในสมอง ซึ่งโปรตีนที่เมื่อสะสมในสมองมากเกินไป จะก่อตัวเป็นคราบ ที่ทำลายเซลล์ประสาท และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
  • ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ (Cardiovascular health) ลดไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ลดภาวะความดันโลหิตสูง ป้องกันการเกิดหลอดเลือดแข็งตัว
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (Anti-diabetic effects) ช่วยปรับความไวของอินซูลิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
  • บรรเทาอาการของโรคทางเดินอาหาร ลดการอักเสบของกระเพาะและลำไส้ ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ลดอาการท้องอืด แน่นท้อง และลำไส้แปรปรวน
  • เสริมระบบภูมิคุ้มกัน (Immunomodulatory) กระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลการตอบสนองของร่างกาย ต่อสิ่งแปลกปลอม

ที่มา: Biological activities of curcuminoids [2]

 

Curcuminoids ช่วยอะไร กับลำไส้

Curcuminoids ช่วยอะไร เคอร์คูมินอยด์ช่วยลดอาการลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่นโรค Crohn’s disease, Ulcerative colitis โดยยับยั้ง NF-kB และเอนไซม์ในเยื่อบุลำไส้

ปรับสมดุลจุลินทรีย์ เคอร์คูมินช่วยส่งเสริมการเติบโต ของแบคทีเรียดีในลำไส้เช่น Lactobacillus และ Bifidobacteria ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ทำงานมีประสิทธิภาพ

ลดอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) เคอร์คูมินถูกนำมาทดลองในผู้ป่วย IBS แล้วพบว่า ช่วยลดอาการแน่นท้อง ปวดเกร็ง และการขับถ่ายที่ผิดปกติได้

เคอร์คูมินอยด์ในอาหารเสริม

เนื่องจากเคอร์คูมินมีการดูดซึมต่ำในร่างกาย นักวิจัยจึงพัฒนาหลายเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม เช่น

  • Nano-curcumin: อนุภาคเล็กพิเศษ ที่สามารถดูดซึมได้เร็ว
  • Curcumin with piperine (สารสกัดจากพริกไทยดำ): เพิ่มการดูดซึมได้มากถึง 2,000 เปอร์เซ็นต์
  • Phytosome หรือ liposome: เทคโนโลยีที่ห่อหุ้มเคอร์คูมิน ให้ผ่านเยื่อเซลล์ได้ดี

ข้อควรระวังการใช้เคอร์คูมินอยด์

  • แม้ว่าเคอร์คูมินอยด์จะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ แต่การใช้งานก็ยังมีข้อควรระวัง เพื่อให้ปลอดภัย ดังนี้
  • การดูดซึมต่ำตามธรรมชาติ เคอร์คูมินมีข้อจำกัด ด้านการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด หากทานในรูปแบบธรรมดา ร่างกายจะดูดซึมได้เพียงเล็กน้อย จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีตัวช่วยเพิ่มการดูดซึม
  • ไม่ควรใช้ในปริมาณสูงต่อเนื่อง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ แม้จะเป็นสารธรรมชาติ แต่การใช้เคอร์คูมินในปริมาณสูงเกินไป ต่อเนื่องกัน อาจก่อให้เกิดอาการ ท้องเสีย ท้องอืด คลื่นไส้ ปวดท้อง หรือรู้สึกไม่สบายในช่องท้อง
  • ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดควรระวัง เคอร์คูมินอาจมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด หากใช้ร่วมกับยาเช่น warfarin, aspirin หรือ clopidogrel อาจเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดเลือดออก
  • หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ข้อมูลด้านความปลอดภัยในกลุ่มนี้ยังมีจำกัด จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ หรือปรึกษาแพทย์ ก่อนเริ่มรับประทาน
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือถุงน้ำดี ผู้ที่มีโรคนิ่ว หรือการอุดตันของท่อน้ำดี ควรหลีกเลี่ยงการใช้เคอร์คูมิน เพราะอาจกระตุ้นการหลั่งน้ำดี และทำให้อาการแย่ลง
  • อาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็ก มีรายงานว่าเคอร์คูมิน อาจลดการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง หรือขาดธาตุเหล็กควรระวัง

ข้อมูลงานวิจัยเคอร์คูมินอยด์

งานวิจัยจาก Journal of Clinical Gastroenterology (2015)

งานวิจัยนี้ทดลองในผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบชนิด Ulcerative Colitis โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งได้รับยารักษาอย่างเดียว ส่วนอีกกลุ่มได้รับยาร่วมกับเคอร์คูมิน พบว่ากลุ่มที่ได้รับเคอร์คูมินร่วม มีอาการดีขึ้นเร็วกว่า แสดงให้เห็นว่า เคอร์คูมินช่วยเสริมประสิทธิภาพของการรักษาโรคลำไส้อักเสบได้ชัดเจน

งานวิจัยจาก Phytotherapy Research (2014)

การทดลองนี้ศึกษาผลของเคอร์คูมินในหนู ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ พบว่าเคอร์คูมินช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ โดยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียดี ลดการรั่วของเยื่อบุลำไส้ (intestinal permeability) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการอักเสบเรื้อรัง ลดระดับสารที่กระตุ้นการอักเสบ ส่งผลให้ลำไส้แข็งแรงขึ้น ระบบย่อยดีขึ้น

งานวิจัยจาก BioFactors (2013)

งานวิจัยนี้เป็นการรวบรวมหลักฐาน จากหลายการศึกษา ทั้งในหลอดทดลอง สัตว์ และคน โดยสรุปว่า เคอร์คูมินมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ โดยยับยั้งเอนไซม์ โปรตีนที่เกี่ยวกับการอักเสบ เช่น COX-2 และ NF-κB ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ประสิทธิภาพเทียบกับยาไอบูโพรเฟน เป็นการลดอักเสบ โดยใช้สารธรรมชาติ

สรุป เคอร์คูมินอยด์สารลดอักเสบ

เคอร์คูมินอยด์เป็นสารจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติสามารถช่วยลดการอักเสบ ป้องกันโรค เสริมภูมิคุ้มกัน และดูแลลำไส้ได้อย่างรอบด้าน การเลือกใช้เคอร์คูมินอยด์ ในรูปแบบอาหารเสริม ที่มีเทคโนโลยีช่วยเพิ่มการดูดซึม เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพจากภายใน และควรเลือกผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

สูตรอาหารเสริมเคอร์คูมินอยด์

ตัวอย่างสูตรอาหารเสริมดูแลลำไส้ ที่สามารถทานควบคู่กับเคอร์คูมินอยด์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ เช่น

  • เคอร์คูมินอยด์และโพรไบโอติก: ช่วยเสริมฤทธิ์กันในการลดอักเสบ และฟื้นฟูจุลินทรีย์
  • เคอร์คูมินอยด์และไฟเบอร์อินนูลิน: ช่วยล้างสารพิษในลำไส้ และส่งเสริมการขับถ่าย
  • เคอร์คูมินอยด์, Zinc และ Vitamin D: เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ควบคู่กับลำไส้ที่แข็งแรง

แหล่งเคอร์คูมินอยด์ที่ดีที่สุดคือ?

ขมิ้นชัน (Turmeric หรือ Curcuma longa) เป็นแหล่งธรรมชาติหลัก และดีที่สุดของเคอร์คูมินอยด์ สารเคอร์คูมินอยด์สามารถสกัดได้จาก เหง้าขมิ้น ซึ่งเป็นส่วนที่เก็บสะสมสารออกฤทธิ์มากที่สุด ซึ่งในขมิ้นชันแห้ง มีปริมาณสารเคอร์คูมินอยด์รวมอยู่ประมาณ 2–5% จากน้ำหนัก [3]

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง