
Curcuminoids ช่วยอะไร สารต้านอักเสบ ดูแลลำไส้
- Fiona
- 32 views

Curcuminoids ช่วยอะไร คำถามนี้เริ่มมีคนพูดถึงกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่หันมาดูแลสุขภาพ และสนใจผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น เคอร์คูมินอยด์ไม่เพียงแต่โดดเด่น ในเรื่องสีสัน แต่ยังได้รับความสนใจ ในด้านของคุณสมบัติ ที่มีผลต่อร่างกายหลากหลายด้าน
สารเคอร์คูมินอยด์ คืออะไร?

เคอร์คูมินอยด์คือกลุ่มของสารประกอบโพลีฟีนอล (polyphenolic compounds) ที่พบมากในพืชตระกูลขิง โดยเฉพาะ ขมิ้นชัน (Curcuma longa) ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญที่สุด โดยกลุ่มเคอร์คูมินอยด์ ประกอบด้วยสารหลัก 3 ชนิด ดังนี้
- เคอร์คูมิน (Curcumin) เป็นสารสำคัญที่สุด มีฤทธิ์ทางชีวภาพเด่น เช่นต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ
- เดเมทอกซีเคอร์คูมิน (Demethoxycurcumin)
- บิสเดเมทอกซีเคอร์คูมิน (Bisdemethoxycurcumin)
สารเหล่านี้เป็นตัวให้ สีเหลืองสดแก่ขมิ้น และใช้เป็นสีผสมอาหารจากธรรมชาติ ในรหัส E100 (E100 คือรหัสของเคอร์คูมิน ซึ่งใช้เป็น สีผสมอาหารจากธรรมชาติ ได้รับการอนุมัติ อย่างเป็นทางการ ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป และถูกใช้แต่งสีในอาหารหลายชนิด) [1]
เคอร์คูมินอยด์มีสรรพคุณอะไรบ้าง?
- ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) ยับยั้งเอนไซม์ และสารที่กระตุ้นการอักเสบเช่น COX-2, NF-κB ลดอาการในโรคอักเสบเรื้อรัง เช่นข้ออักเสบ ลำไส้อักเสบ
- ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ลดการเกิดความเสียหายของเซลล์ จากอนุมูลอิสระ เสริมการทำงาน ของเอนไซม์ป้องกันเซลล์เช่น SOD และ catalase
- ต้านมะเร็ง (Anti-cancer) ยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็งหลายชนิด ป้องกันการแพร่กระจาย ของเซลล์มะเร็ง (metastasis) และกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็ง (apoptosis)
- บำรุงสมอง (Neuroprotective) ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์สมอง มีผลดีต่อโรคอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน ลดการสะสมของโปรตีน Beta amyloid ในสมอง ซึ่งโปรตีนที่เมื่อสะสมในสมองมากเกินไป จะก่อตัวเป็นคราบ ที่ทำลายเซลล์ประสาท และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
- ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ (Cardiovascular health) ลดไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ลดภาวะความดันโลหิตสูง ป้องกันการเกิดหลอดเลือดแข็งตัว
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (Anti-diabetic effects) ช่วยปรับความไวของอินซูลิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
- บรรเทาอาการของโรคทางเดินอาหาร ลดการอักเสบของกระเพาะและลำไส้ ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ลดอาการท้องอืด แน่นท้อง และลำไส้แปรปรวน
- เสริมระบบภูมิคุ้มกัน (Immunomodulatory) กระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลการตอบสนองของร่างกาย ต่อสิ่งแปลกปลอม
ที่มา: Biological activities of curcuminoids [2]
Curcuminoids ช่วยอะไร กับลำไส้
Curcuminoids ช่วยอะไร เคอร์คูมินอยด์ช่วยลดอาการลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่นโรค Crohn’s disease, Ulcerative colitis โดยยับยั้ง NF-kB และเอนไซม์ในเยื่อบุลำไส้
ปรับสมดุลจุลินทรีย์ เคอร์คูมินช่วยส่งเสริมการเติบโต ของแบคทีเรียดีในลำไส้เช่น Lactobacillus และ Bifidobacteria ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ทำงานมีประสิทธิภาพ
ลดอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) เคอร์คูมินถูกนำมาทดลองในผู้ป่วย IBS แล้วพบว่า ช่วยลดอาการแน่นท้อง ปวดเกร็ง และการขับถ่ายที่ผิดปกติได้
เคอร์คูมินอยด์ในอาหารเสริม
เนื่องจากเคอร์คูมินมีการดูดซึมต่ำในร่างกาย นักวิจัยจึงพัฒนาหลายเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม เช่น
- Nano-curcumin: อนุภาคเล็กพิเศษ ที่สามารถดูดซึมได้เร็ว
- Curcumin with piperine (สารสกัดจากพริกไทยดำ): เพิ่มการดูดซึมได้มากถึง 2,000 เปอร์เซ็นต์
- Phytosome หรือ liposome: เทคโนโลยีที่ห่อหุ้มเคอร์คูมิน ให้ผ่านเยื่อเซลล์ได้ดี
ข้อควรระวังการใช้เคอร์คูมินอยด์
- แม้ว่าเคอร์คูมินอยด์จะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ แต่การใช้งานก็ยังมีข้อควรระวัง เพื่อให้ปลอดภัย ดังนี้
- การดูดซึมต่ำตามธรรมชาติ เคอร์คูมินมีข้อจำกัด ด้านการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด หากทานในรูปแบบธรรมดา ร่างกายจะดูดซึมได้เพียงเล็กน้อย จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีตัวช่วยเพิ่มการดูดซึม
- ไม่ควรใช้ในปริมาณสูงต่อเนื่อง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ แม้จะเป็นสารธรรมชาติ แต่การใช้เคอร์คูมินในปริมาณสูงเกินไป ต่อเนื่องกัน อาจก่อให้เกิดอาการ ท้องเสีย ท้องอืด คลื่นไส้ ปวดท้อง หรือรู้สึกไม่สบายในช่องท้อง
- ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดควรระวัง เคอร์คูมินอาจมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด หากใช้ร่วมกับยาเช่น warfarin, aspirin หรือ clopidogrel อาจเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดเลือดออก
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ข้อมูลด้านความปลอดภัยในกลุ่มนี้ยังมีจำกัด จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ หรือปรึกษาแพทย์ ก่อนเริ่มรับประทาน
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือถุงน้ำดี ผู้ที่มีโรคนิ่ว หรือการอุดตันของท่อน้ำดี ควรหลีกเลี่ยงการใช้เคอร์คูมิน เพราะอาจกระตุ้นการหลั่งน้ำดี และทำให้อาการแย่ลง
- อาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็ก มีรายงานว่าเคอร์คูมิน อาจลดการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง หรือขาดธาตุเหล็กควรระวัง
ข้อมูลงานวิจัยเคอร์คูมินอยด์
งานวิจัยจาก Journal of Clinical Gastroenterology (2015)
งานวิจัยนี้ทดลองในผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบชนิด Ulcerative Colitis โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งได้รับยารักษาอย่างเดียว ส่วนอีกกลุ่มได้รับยาร่วมกับเคอร์คูมิน พบว่ากลุ่มที่ได้รับเคอร์คูมินร่วม มีอาการดีขึ้นเร็วกว่า แสดงให้เห็นว่า เคอร์คูมินช่วยเสริมประสิทธิภาพของการรักษาโรคลำไส้อักเสบได้ชัดเจน
งานวิจัยจาก Phytotherapy Research (2014)
การทดลองนี้ศึกษาผลของเคอร์คูมินในหนู ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ พบว่าเคอร์คูมินช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ โดยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียดี ลดการรั่วของเยื่อบุลำไส้ (intestinal permeability) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการอักเสบเรื้อรัง ลดระดับสารที่กระตุ้นการอักเสบ ส่งผลให้ลำไส้แข็งแรงขึ้น ระบบย่อยดีขึ้น
งานวิจัยจาก BioFactors (2013)
งานวิจัยนี้เป็นการรวบรวมหลักฐาน จากหลายการศึกษา ทั้งในหลอดทดลอง สัตว์ และคน โดยสรุปว่า เคอร์คูมินมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ โดยยับยั้งเอนไซม์ โปรตีนที่เกี่ยวกับการอักเสบ เช่น COX-2 และ NF-κB ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ประสิทธิภาพเทียบกับยาไอบูโพรเฟน เป็นการลดอักเสบ โดยใช้สารธรรมชาติ
สรุป เคอร์คูมินอยด์สารลดอักเสบ
เคอร์คูมินอยด์เป็นสารจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติสามารถช่วยลดการอักเสบ ป้องกันโรค เสริมภูมิคุ้มกัน และดูแลลำไส้ได้อย่างรอบด้าน การเลือกใช้เคอร์คูมินอยด์ ในรูปแบบอาหารเสริม ที่มีเทคโนโลยีช่วยเพิ่มการดูดซึม เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพจากภายใน และควรเลือกผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
สูตรอาหารเสริมเคอร์คูมินอยด์
ตัวอย่างสูตรอาหารเสริมดูแลลำไส้ ที่สามารถทานควบคู่กับเคอร์คูมินอยด์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ เช่น
- เคอร์คูมินอยด์และโพรไบโอติก: ช่วยเสริมฤทธิ์กันในการลดอักเสบ และฟื้นฟูจุลินทรีย์
- เคอร์คูมินอยด์และไฟเบอร์อินนูลิน: ช่วยล้างสารพิษในลำไส้ และส่งเสริมการขับถ่าย
- เคอร์คูมินอยด์, Zinc และ Vitamin D: เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ควบคู่กับลำไส้ที่แข็งแรง
แหล่งเคอร์คูมินอยด์ที่ดีที่สุดคือ?
ขมิ้นชัน (Turmeric หรือ Curcuma longa) เป็นแหล่งธรรมชาติหลัก และดีที่สุดของเคอร์คูมินอยด์ สารเคอร์คูมินอยด์สามารถสกัดได้จาก เหง้าขมิ้น ซึ่งเป็นส่วนที่เก็บสะสมสารออกฤทธิ์มากที่สุด ซึ่งในขมิ้นชันแห้ง มีปริมาณสารเคอร์คูมินอยด์รวมอยู่ประมาณ 2–5% จากน้ำหนัก [3]
- Tags: สุขภาพ


