แอลธีอะนีน คืออะไร ช่วยหายง่วงจริงไหม?

แอลธีอะนีน คืออะไร

แอลธีอะนีน คืออะไร คำถามที่อาจผุดขึ้นในใจ ของใครหลายคน เมื่อได้ยินชื่อสารนี้เป็นครั้งแรก ในยุคที่เราหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพักผ่อน การผ่อนคลาย หรือการเพิ่มสมาธิระหว่างทำงาน มักจะเจอชื่อของแอลธีอะนีน ในบทความสุขภาพ หรือฉลากของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ

Amino acids แอลธีอะนีน คืออะไร?

แอลธีอะนีน คืออะไร แอลธีอะนีนเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่พบได้ในใบชา เช่นชาเขียว จัดอยู่ในกลุ่มของกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น เพราะร่างกายสามารถได้รับจากอาหาร และไม่จำเป็นต้องสร้างเอง

แม้แอลธีอะนีนจะไม่ใช่กรดอะมิโน ที่ใช้สร้างโปรตีนโดยตรง แต่กลับมีผลกระทบต่อสมอง และระบบประสาท โดยเฉพาะเรื่องของความผ่อนคลาย สมาธิ และภาวะอารมณ์ ทำให้สารนี้ เป็นที่นิยมมาก ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมัยใหม่ [1]

แหล่งที่พบแอลธีอะนีนในธรรมชาติ

แอลธีอะนีน คืออะไร
  • ชาเขียว (Green Tea) เป็นแหล่งที่มีแอลธีอะนีน ที่สูงที่สุดในธรรมชาติ เนื่องจากกระบวนการผลิตชาเขียวไม่ได้ผ่านการหมัก เหมือนชาดำ ทำให้ยังคงปริมาณของแอลธีอะนีนไว้ได้มาก ชาเขียวญี่ปุ่นบางชนิด เช่นเกียวคุโระ (Gyokuro) จะมีแอลธีอะนีนสูงเป็นพิเศษ เพราะปลูกในร่ม ช่วงสุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยว
  • ชาอู่หลง (Oolong Tea) เป็นชากึ่งหมัก ที่มีปริมาณแอลธีอะนีน ในระดับปานกลาง ถึงแม้จะมีการหมักบางส่วน แต่ก็ยังคงคุณสมบัติ ของสารธรรมชาติไว้ได้ดี ส่วนใหญ่มีรสกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
  • ชาดำ (Black Tea) แม้จะผ่านการหมักเต็มที่ แต่ก็ยังมีแอลธีอะนีนอยู่พอสมควร ถึงแม้จะน้อยกว่าชาเขียว และชาอู่หลง เพราะกระบวนการหมัก อาจทำให้ปริมาณของแอลธีอะนีนลดลง
  • ชาขาว (White Tea) ทำจากยอดอ่อนของต้นชา และผ่านกระบวนการแปรรูปน้อยที่สุด มีปริมาณแอลธีอะนีน รองจากชาเขียว เนื่องจากไม่ได้ผ่านการหมักเช่นเดียวกัน
  • เห็ดบางชนิด เช่นเห็ด Xerocomus badius ซึ่งพบแอลธีอะนีนในปริมาณน้อย เมื่อเทียบกับใบชา การพบในเห็ด จึงยังไม่มีบทบาทสำคัญ ทางโภชนาการเท่ากับในชา

แอลธีอะนีนทำงานยังไงในร่างกาย?

เมื่อเราทานแอลธีอะนีนเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะจากชาเขียว หรืออาหารเสริม สารนี้สามารถ ดูดซึมผ่านระบบทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือด และเดินทางไปยังสมองได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษ ที่ทำให้สามารถ ผ่านแนวกั้นเลือด-สมอง (Blood-Brain Barrier) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีบทบาทหลักดังนี้

  • เพิ่มการหลั่งสารสื่อประสาท เช่นโดปามีน (Dopamine) และ เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ ความสุข และความพึงพอใจ ช่วยให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้น ลดความวิตกกังวล และความเครียด
  • กระตุ้นการเกิดคลื่นสมองอัลฟา (Alpha waves) ซึ่งเป็นคลื่นสมองที่เกิดขึ้น เมื่อเราอยู่ในสภาวะผ่อนคลาย แต่ยังรู้สึกมีสมาธิ และตื่นตัว คล้ายกับสภาวะเวลานั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรม ที่มีความสุข ทำให้แอลธีอะนีนมีคุณสมบัติเด่นในการช่วยผ่อนคลายแบบที่ยังมีสติ ไม่ใช่การทำให้ง่วงนอน แบบยาคลายเครียดทั่วไป
  • ลดการกระตุ้นของกลูตาเมต (Glutamate) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท ชนิดกระตุ้นที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดความเครียด ความตื่นตระหนก หรือแม้แต่ภาวะสมองล้า การลดกลูตาเมต จึงช่วยลดภาวะตื่นเต้นมากเกินไป และช่วยให้ระบบประสาท ทำงานอย่างสมดุล

L-theanine ช่วยในเรื่องอะไร?

  • เสริมสมาธิและการรับรู้ การทานแอลธีอะนีน ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อ และการทำงานของสมอง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องใช้ความคิด การวิเคราะห์ และการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ มีงานวิจัยที่แสดงว่า การทานชาเขียวเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ช่วยการทำงานของสมอง ในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะด้านความจำ
  • ส่งเสริมการนอนหลับ แม้ว่าแอลธีอะนีนจะไม่ได้ทำให้ง่วงโดยตรงเหมือนยานอนหลับ แต่มีผลทางอ้อมโดยช่วยให้จิตใจสงบ ลดความคิดฟุ้งซ่าน และลดความตึงเครียดก่อนนอน ผู้ที่มีปัญหานอนหลับยาก หลับไม่ลึก หรือตื่นกลางดึก อาจได้รับประโยชน์ จากการรับประทานแอลธีอะนีนก่อนนอน ประมาณ 30–60 นาที
  • ลดความเครียด และความวิตกกังวล แอลธีอะนีนมีคุณสมบัติ ในการลดการหลั่งฮอร์โมนความเครียด และยังช่วยให้สมอง หลั่งสารแห่งความสุข อย่างเซโรโทนิน และโดปามีนมากขึ้น มีการศึกษาพบว่า การทานแอลธีอะนีนในปริมาณ 200–400 มิลลิกรัมต่อวัน สามารถลดระดับความวิตกกังวลได้
  • เสริมระบบภูมิคุ้มกัน แอลธีอะนีนมีบทบาท ในการกระตุ้นการทำงาน ของเซลล์เม็ดเลือดขาว และเสริมการผลิตแอนติบอดี (Antibody) ซึ่งช่วยให้ร่างกาย ต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น จากการวิจัยในกลุ่มอาสาสมัคร พบว่า ผู้ที่ได้รับแอลธีอะนีนต่อเนื่อง มีแนวโน้มป่วย เป็นหวัดหรือไข้น้อยลง และฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยได้เร็ว
  • ลดความดันโลหิต แอลธีอะนีนช่วยควบคุมความดันโลหิต โดยลดความตึงเครียด ในระบบประสาทอัตโนมัติ และส่งผลให้หัวใจเต้นช้าลง ความดันลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มความดันสูง จากความเครียด เช่นผู้ที่ต้องทำงาน ในสภาพกดดัน
  • ช่วยการ ควบคุมน้ำหนัก แม้ว่าแอลธีอะนีน ไม่ได้เผาผลาญไขมันโดยตรง แต่เมื่อใช้ร่วมกับคาเฟอีน (เช่นในชาเขียว) จะมีฤทธิ์ส่งเสริมการเผาผลาญพลังงาน เพิ่มการสลายไขมัน และลดการสะสมไขมันในร่างกาย ช่วยควบคุมความอยากอาหารโดยปรับสมดุลฮอร์โมน ที่เกี่ยวข้องกับความหิว ทำให้ลดพฤติกรรมกินจุบจิบ

ที่มา: Does L-theanine have health benefits? [2]

แอลธีอะนีนช่วยหายง่วงได้ยังไง?

แม้แอลธีอะนีนจะขึ้นชื่อในเรื่องความผ่อนคลาย แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็สามารถช่วยให้ตื่นตัว โดยไม่ทำให้กระวนกระวาย ต่างจากคาเฟอีน ที่กระตุ้นสมอง และหัวใจโดยตรง เมื่อรับประทานแอลธีอะนีนในช่วงเช้า หรือร่วมกับคาเฟอีน ในสัดส่วนพอเหมาะ เช่นคาเฟอีน 100 มก. และแอลธีอะนีน 200 มก.

จะให้ผลลัพธ์คือ เพิ่มสมาธิ และความเร็วในการตอบสนอง ลดความรู้สึกง่วงช่วงบ่าย ไม่ทำให้ใจสั่น หรือความดันพุ่ง เหมือนคาเฟอีนเพียงอย่างเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่อยาก สมองปลอดโปร่ง มีสมาธิ อารมณ์นิ่ง สงบ ร่างกายพร้อมลุยงาน แต่ยังรู้สึกผ่อนคลาย

แอลธีอะนีนรูปแบบอาหารเสริม

ปัจจุบันแอลธีอะนีน ถูกผลิตในรูปแบบอาหารเสริม ทั้งแบบเม็ด แคปซูล ผง และเครื่องดื่มผสม โดยส่วนใหญ่จะใช้สารสกัดจากชาเขียว หรือเป็นแบบสังเคราะห์ ที่มีความบริสุทธิ์สูง โดยขนาดที่แนะนำในการรับประทาน มีดังนี้

  • เพื่อผ่อนคลาย ลดความเครียด: 100–200 มก. ต่อวัน
  • เพื่อช่วยการนอนหลับ: 200–400 มก. ก่อนนอน
  • เพื่อเพิ่มสมาธิ และลดง่วง: แอลธีอะนีน 100 มก. และคาเฟอีน 50–100 มก. (ในช่วงเช้า)

สรุป แอลธีอะนีนช่วยผ่อนคลายและตื่นตัว

แอลธีอะนีนเป็นสารธรรมชาติ ที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่ผสมผสาน ระหว่างความผ่อนคลาย กับความตื่นตัว จึงเหมาะทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการบรรเทาความเครียด รวมถึงผู้ที่ต้องการเสริมสมาธิ และลดอาการง่วงในช่วงเวลาสำคัญของวัน หากกำลังมองหาทางเลือกที่ปลอดภัย แอลธีอะนีนอาจเป็นคำตอบที่ดี

แอลธีอะนีนควรทานตอนไหน?

เพื่อช่วยในการนอนหลับ แนะนำให้รับประทานแอลธีอะนีน ก่อนนอน 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้การนอนมีคุณภาพดีขึ้น และลดอาการตื่นกลางดึก

เพื่อเพิ่มสมาธิ และลดความเครียดในระหว่างวัน ควรรับประทานในช่วงเช้า หรือระหว่างวันที่ต้องการความตื่นตัวและสมาธิ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ของผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ [3]

ข้อควรระวังในการใช้แอลธีอะนีน

  • ไม่ควรใช้เกินขนาดที่แนะนำ ปริมาณที่ปลอดภัยทั่วไปอยู่ที่ 100–400 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ หากใช้เกินปริมาณนี้ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ
  • หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยในกลุ่มนี้ ไม่ควรรับประทานแอลธีอะนีน ในรูปแบบอาหารเสริม โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  • ผู้ที่มีปัญหา เกี่ยวกับความดันโลหิตต่ำ แอลธีอะนีนอาจทำให้ความดันโลหิตลดลงเล็กน้อย จึงควรระวังหากคุณมีความดันต่ำอยู่แล้ว เพราะอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน หรือหน้ามืดได้
  • ไม่ควรใช้ร่วมกับยากล่อมประสาท ยาคลายเครียด หรือยานอนหลับ เนื่องจากแอลธีอะนีนมีฤทธิ์เสริมการผ่อนคลาย อาจเกิดผลเสริมฤทธิ์มากเกินไป ทำให้ง่วง ซึม หรือความดันลดต่ำเกินไป
  • ควรเว้นระยะห่าง หากใช้ร่วมกับคาเฟอีน แม้แอลธีอะนีนจะช่วยลดผลข้างเคียงจากคาเฟอีนได้ เช่นใจสั่นหรือกระวนกระวาย แต่ควรเลือกใช้ในสัดส่วนเหมาะสม เช่นแอลธีอะนีน 2 ส่วนต่อ คาเฟอีน 1 ส่วน เพื่อป้องกันการกระตุ้นระบบประสาทมากเกินไป
Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง