
แนวทางกิน Intermittent Fasting เป็นหนึ่งในวิธี ที่หลายคนเริ่มหันมาสนใจ ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นวิธีการดูแลร่างกายที่ดี ไม่ได้อาศัยเพียงการลดแคลอรีเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึงรูปแบบการกิน ที่ส่งผลต่อฮอร์โมน ระบบการย่อย และความสมดุลภายในร่างกาย
IF คือรูปแบบการกิน ที่กำหนดช่วงเวลากิน และงดกินอย่างชัดเจน โดยไม่ได้ระบุว่าควรกินอะไร แต่เน้นว่าเมื่อไรควรกิน หลักการสำคัญคือ การให้ร่างกาย ได้มีช่วงเวลาที่ไม่ต้องทำงานหนัก กับการย่อยอาหาร
ซึ่งอาจช่วยให้ระบบภายในฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของฮอร์โมน ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญไขมัน เช่นอินซูลิน และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม
ที่มา: วิธีลดน้ำหนักแบบ IF คืออะไร [1]
จากการศึกษาพบว่าไอเอฟ สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณ 3–8% ภายในไม่กี่สัปดาห์ โดยเฉพาะ ในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับอินซูลินในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ในการเผาผลาญไขมัน และอาจช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นในบางด้าน เช่นลดการอักเสบ หรือควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น
แม้ว่าไอเอฟจะได้ผลดี แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบ กับการควบคุมแคลอรีแบบปกติ (กินน้อยลงตลอดวัน) ก็พบว่า ให้ผลใกล้เคียงกัน ในการลดน้ำหนัก และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ได้มีข้อได้เปรียบชัดเจนมากนักไอเอฟจึงอาจเหมาะกับคนที่ชอบควบคุมเวลาในการกิน มากกว่าการนับแคลอรี
แม้ว่าผลการทดลองในสัตว์ จะบ่งชี้ว่าไอเอฟ อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่นเบาหวาน โรคหัวใจ และมะเร็ง แต่สำหรับมนุษย์ ยังมีงานวิจัยระยะยาวไม่เพียงพอ ไอเอฟจึงยังถือว่าเป็นแนวทางที่มีศักยภาพ แต่ไม่ใช่ทางออก ที่เหมาะสำหรับทุกคน จำเป็นต้องพิจารณาตามสุขภาพ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลด้วย [2]
ที่มา: กินดีสุขภาพดีแบบ IF Intermittent-Fasting [3]
ไอเอฟไม่ใช่เพียงแค่การอดอาหาร เพื่อหวังผลในการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่เป็นแนวทางการกิน ที่สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว หากปฏิบัติอย่างถูกต้อง การดูแลร่างกายที่ดี ต้องมาพร้อมกับโภชนาการที่สมดุล ความเข้าใจในหลักการ และการฟังเสียงของร่างกายตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับวัยทำงาน ที่มีเวลาจำกัด และต้องการ ควบคุมน้ำหนัก หรือดูแลสุขภาพ แนะนำให้เริ่มต้นด้วยไอเอฟแบบ 16/8 ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยสามารถงดอาหารช่วงเย็น ถึงสายของวันถัดไป (เช่นอดอาหารตั้งแต่ 20:00 น. ถึง 12:00 น.) และกินได้ในช่วง 8 ชั่วโมงถัดมา
หากเริ่มทำไอเอฟ ควรระวังเรื่อง อาการวิงเวียน อ่อนเพลีย หรือหิวจัดในช่วงเริ่มต้น เนื่องจากร่างกายยังไม่ชิน กับการเปลี่ยนแปลงเวลาในการกิน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ในช่วงเวลาที่กินได้ เช่นของทอด น้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรตขัดสี และควรดื่มน้ำให้เพียงพอ