เมไธโอนีน ช่วยอะไร ด้านเส้นผม และเล็บบ้าง?

เมไธโอนีน ช่วยอะไร

เมไธโอนีน ช่วยอะไร หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อของกรดอะมิโนชนิดนี้ แต่ความจริงแล้ว มันเป็นหนึ่งในสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการต่างๆมากมาย แม้เราจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนักในชีวิตประจำวัน แต่เมไธโอนีนกลับมีบทบาทสำคัญ ที่ซ่อนอยู่ในระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

กรดอะมิโนเมไธโอนีน คืออะไร?

เมไธโอนีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็นชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น มันมีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย เมไธโอนีนมี 2 รูปแบบหลัก คือ

  1. L-Methionine รูปแบบธรรมชาติ ที่พบในอาหาร และเป็นรูปแบบที่ร่างกายใช้ได้
  2. D-Methionine รูปแบบสังเคราะห์ ที่ไม่ค่อยพบในธรรมชาติ และร่างกายใช้ประโยชน์ได้น้อยกว่า

เมไธโอนีนเป็นสารตั้งต้นของซิสเทอีน (Cysteine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโน ที่ช่วยสร้าง กลูตาไธโอน (Glutathione) โดยกลูตาไธโอนสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างโปรตีน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และช่วยในกระบวนการดีท็อกซ์ของตับ [1]

หน้าที่และบทบาทของเมไธโอนีน

  • เมไธโอนีน ช่วยอะไร เมไธโอนีนช่วยในการบำรุงเส้นผมและเล็บ กรดอะมิโนชนิดนี้ เป็นองค์ประกอบของเคราติน (Keratin) ซึ่งเป็นโปรตีนหลัก ที่พบในเส้นผมและเล็บ เมไธโอนีนจึงมีบทบาทสำคัญ ในการเสริมสร้าง และซ่อมแซมเส้นผมให้แข็งแรง ลดอาการผมร่วง และทำให้เล็บแข็งแรง ไม่เปราะบางง่าย
  • ส่งเสริมสุขภาพตับ เมไธโอนีนช่วยในการขจัดสารพิษ และโลหะหนักออกจากร่างกาย โดยเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลูตาไธโอน ที่ช่วยล้างพิษ และปกป้องตับ จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ
  • ช่วยเผาผลาญไขมัน เมไธโอนีนเป็นสารตั้งต้นในการผลิตโคลีน (Choline) ซึ่งช่วยในการเผาผลาญไขมันและลดการสะสมของไขมันในตับ ทำให้มีบทบาท ในการควบคุมน้ำหนัก และสุขภาพหัวใจ
  • สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน เมไธโอนีนมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาว ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ส่งเสริมสุขภาพข้อต่อ และกระดูก กรดอะมิโนนี้ ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย และสนับสนุนการซ่อมแซมของข้อต่อ และกระดูก โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเสื่อม

แหล่งอาหารอะไรที่มีเมไธโอนีน?

เมไธโอนีน ช่วยอะไร

เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เมไธโอนีนเองได้ จึงต้องได้รับจากแหล่งอาหารต่างๆ ได้แก่

  • เนื้อสัตว์: เนื้อวัว, เนื้อไก่, เนื้อหมู
  • ปลาและอาหารทะเล: ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, หอยนางรม
  • ผลิตภัณฑ์จากนม: นม, ชีส, โยเกิร์ต
  • ไข่: โดยเฉพาะไข่ขาวที่มีโปรตีนสูง
  • พืชตระกูลถั่ว: ถั่วเหลือง, อัลมอนด์, เมล็ดฟักทอง
  • ธัญพืชและพืชตระกูลเมล็ด: ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, เมล็ดเจีย

อาหารเสริม เมไธโอนีน ช่วยอะไร

เมไธโอนีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็น ที่มีบทบาทสำคัญ ในการบำรุงสุขภาพเส้นผมและเล็บ เนื่องจากเป็นองค์ประกอบหลักของ เคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้เส้นผม และเล็บแข็งแรง ไม่เปราะง่าย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างเส้นผมและเล็บ ดังนี้

  • ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างเคราติน เมไธโอนีนเป็นสารตั้งต้นของ ซิสเทอีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญ ในกระบวนการสร้างเคราติน เคราตินเป็นโปรตีนหลัก ที่ช่วยให้เส้นผม และเล็บมีความแข็งแรง และยืดหยุ่น การได้รับเมไธโอนีนในปริมาณที่เพียงพอ ช่วยลดปัญหาผมแห้งเสีย ผมขาดหลุดร่วง และเล็บที่เปราะหักง่าย
  • ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม เมไธโอนีนมีบทบาทสำคัญ ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเคราติน ทำให้เส้นผมงอกเร็วขึ้น และแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันปัญหา ผมบาง ผมร่วง และเพิ่มความหนาของเส้นผม มีส่วนช่วยให้เส้นผมเงางาม มีน้ำหนัก และลดอาการแตกปลาย
  • ป้องกันการเปราะ และช่วยเสริมความแข็งแรงของเล็บ เล็บที่เปราะหักง่าย เกิดจากการขาดสารอาหารที่สำคัญ เช่นเคราติน และกรดอะมิโนที่จำเป็น เมไธโอนีนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเล็บ ทำให้เล็บแข็งแรงขึ้น ไม่ฉีกขาดง่าย ช่วยให้เล็บมีสีสวย สุขภาพดีขึ้น ไม่แห้งหรือเหลืองง่าย
  • ช่วยล้างสารพิษ และลดความเครียดออกซิเดชัน เมไธโอนีนเป็นสารตั้งต้นของกลูตาไธโอน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องเส้นผม และเล็บจากความเสียหายของสารพิษ และอนุมูลอิสระ ลดปัญหาผมหงอกก่อนวัย และช่วยชะลอความเสื่อม ของเซลล์ผิวหนังบนศีรษะ
  • ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปยังหนังศีรษะ เมไธโอนีนช่วยส่งเสริม การไหลเวียนโลหิตไปยังรูขุมขน ทำให้รากผมได้รับออกซิเจน และสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้น ลดอาการผมแห้ง แตกปลาย และช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม

ที่มา: L-METHIONINE [2]

 

ผลข้างเคียงของเมไธโอนีนคืออะไร?

แม้ว่า เมไธโอนีนจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน แต่การได้รับมากเกินไป หรือใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ ดังนี้

  • ความเสี่ยงของภาวะโฮโมซีสเทอีนสูง (Homocysteine) เมไธโอนีนสามารถเปลี่ยนเป็นโฮโมซีสเทอีนในร่างกาย หากระดับโฮโมซีสเทอีนสูงเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือด
  • ปัญหาทางเดินอาหาร บางคนอาจมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือปวดท้อง เมื่อรับประทานเมไธโอนีนในปริมาณสูง
  • อาการแพ้หรือไวต่อเมไธโอนีน อาจเกิด อาการคัน ผื่นขึ้น บวม หรือปฏิกิริยาภูมิแพ้ ในบางรายที่มีความไวต่อสารนี้
  • มีผลกระทบต่อตับ แม้ว่าเมไธโอนีนจะช่วยสนับสนุนการล้างพิษของตับ แต่หากได้รับมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อผู้ที่มีโรคตับ หรือทำให้การทำงานของตับผิดปกติได้
  • อาการทางระบบประสาทและอารมณ์ การได้รับเมไธโอนีนมากเกินไป อาจเกี่ยวข้องกับอาการ วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือกระสับกระส่าย ในบางราย เนื่องจากเมไธโอนีนมีผลต่อระดับสารสื่อประสาทในสมอง
  • ความเสี่ยงต่อมะเร็งบางชนิด มีงานวิจัยบางฉบับระบุว่า การได้รับเมไธโอนีนในปริมาณสูง อาจเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เนื่องจากเมไธโอนีนเป็นสารจำเป็น ในการเจริญเติบโตของเซลล์

ที่มา: Toxicity of Methionine in Humans [3]

 

ข้อควรระวังในการใช้เมไธโอนีน

  • ผู้ที่มี โรคตับ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือมีภาวะซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมไธโอนีนเสริม
  • ควรได้รับเมไธโอนีนจากแหล่งอาหารธรรมชาติเป็นหลัก เช่นเนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว และธัญพืช เพื่อป้องกันผลข้างเคียง ที่อาจเกิดจากการได้รับปริมาณสูงเกินไปจากอาหารเสริม
  • ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่เกินจากที่แนะนำโดยแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
  • ไม่ควรบริโภคเกิน 3,000 มก./วัน เพราะอาจเพิ่มระดับโฮโมซีสเทอีนในเลือด ซึ่งอาจเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ
    ควรแบ่งรับประทานระหว่างวัน แทนการรับประทานครั้งเดียว เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่นคลื่นไส้หรือปวดศีรษะ

สรุป เมไธโอนีนบำรุงเส้นผมและเล็บ

เมไธโอนีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็น ที่มีบทบาทหลากหลายในร่างกาย ตั้งแต่การเสริมสร้างสุขภาพเส้นผม และเล็บ ไปจนถึงการช่วยล้างสารพิษออกจากตับ และส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน การบริโภคเมไธโอนีนจากแหล่งอาหารธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่หากเสริมเมไธโอนีน ควรได้รับในปริมาณที่เหมาะสม

ปริมาณเมไธโอนีนที่แนะนำ

ปริมาณเมไธโอนีนที่แนะนำขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนักตัว และสุขภาพของแต่ละบุคคล โดยทั่วไป ปริมาณเมไธโอนีนที่เหมาะสม ในอาหารเสริมสำหรับบำรุงผมและเล็บ มีดังนี้

  • ผู้ใหญ่ทั่วไป: 500 – 1,500 มก./วัน
  • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง หรือเล็บเปราะ: 1,000 – 2,000 มก./วัน (ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์)
  • นักกีฬา หรือผู้ที่ต้องการเสริมสร้างโปรตีนสูง: อาจใช้สูงถึง 2,000 – 3,000 มก./วัน แต่ไม่ควรเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการ

ทานเมไธโอนีนกับร่วมอะไรดี?

  • ไบโอติน (Biotin) ช่วยกระตุ้นการสร้างเคราติน ลดผมร่วง และเสริมเล็บให้แข็งแรง
  • ซิงค์ (Zinc) ช่วยป้องกันผมร่วง ลดการเปราะของเล็บ และเสริมสร้างเซลล์ผม
  • วิตามินบี5 (Pantothenic Acid) ช่วยลดผมขาดหลุดร่วง และเพิ่มความชุ่มชื้น ให้หนังศีรษะ
  • วิตามินซี (Vitamin C) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยให้รากผมแข็งแรง
  • คอลลาเจน (Collagen) สนับสนุนโครงสร้างเส้นผม และเล็บให้มีสุขภาพดีขึ้น
Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง