เซราไมด์ เสริมเกราะป้องกัน เพื่อผิวชุ่มชื้น

เซราไมด์

เซราไมด์ (Ceramide) คืออะไร หลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้ ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผิว หรืออ่านเจอในบทความเกี่ยวกับความงาม แต่แท้จริงแล้ว เซราไมด์เป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่อยู่ในชั้นผิวของเราเอง โดยในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจความสำคัญของเซราไมด์ ในหลากหลายด้าน

เซราไมด์ คืออะไร พบในอาหารธรรมชาติชนิดใด

เซราไมด์

เซราไมด์เป็นลิพิดชนิดหนึ่ง ที่พบในชั้นผิวหนัง ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ ในการรักษาความชุ่มชื้น และสร้างเกราะป้องกันให้ผิวหนัง โดยเซราไมด์คิดเป็นประมาณ 50% ของโครงสร้างลิพิด ในชั้นผิวชั้นนอกสุด (Stratum Corneum)

ลักษณะของเซราไมด์ คือโมเลกุล ที่ประกอบไปด้วยกรดไขมัน และสฟิงโกซีน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับเกราะป้องกันผิวหนัง เซราไมด์พบได้ในอาหารธรรมชาติบางชนิด ที่สามารถกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ในร่างกาย เช่น

  • ถั่วเหลือง: มีสารไฟโตเซราไมด์ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ข้าวกล้อง: อุดมไปด้วยเซราไมด์ธรรมชาติ ที่ช่วยฟื้นฟูผิว
  • นม: มีไขมัน ที่คล้ายคลึงกับเซราไมด์ในผิวหนัง

ประโยชน์ของ เซราไมด์ ต่อผิวหนังคืออะไร

  • เซราไมด์ช่วยรักษาความชุ่มชื้น โดยทำหน้าที่ล็อกความชุ่มชื้น ไว้ในผิวหนัง ทำให้ผิวไม่แห้งแตก และคงความนุ่มนวลอยู่เสมอ
  • ช่วยในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ผิวที่แข็งแรงช่วยป้องกันการระเหยของน้ำ และป้องกันสารก่อระคายเคือง จากภายนอก เช่นมลภาวะ หรือสารเคมี
  • ลดการระคายเคือง เซราไมด์ช่วยลดความไวของผิวหนัง และลดการเกิดผื่นแดง หรืออาการระคายเคืองต่างๆ
  • ช่วยฟื้นฟูผิวเสีย สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง หรือแพ้ง่าย การเติมเซราไมด์ให้ผิว สามารถช่วยฟื้นฟูผิว ให้กลับมามีสุขภาพดีได้ และจะยิ่งเสริมประสิทธิภาพ หากรับประทานร่วมกับ แอสตาแซนธิน 

บทบาทของ เซราไมด์ ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

เซราไมด์มักถูกใช้ เป็นส่วนผสมหลัก ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หลายประเภท เช่นอาหารเสริม ครีมบำรุงผิว โลชั่น หรือเซรั่ม โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มักมีเซราไมด์สังเคราะห์ ที่เลียนแบบโครงสร้างของเซราไมด์ธรรมชาติ เพื่อให้ซึมเข้าสู่ผิว และดูดซึมได้ง่าย และให้ผลลัพธ์ ที่ใกล้เคียงกับเซราไมด์ ที่ร่างกายผลิตขึ้นเอง

  • อาหารเสริมเซราไมด์: เป็นการรับประทานเซราไมด์บำรุงผิว เสริมความแข็งแรงของผิว จากภายในสู่ภายนอก
  • ครีมบำรุงผิวเซราไมด์: ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
  • เซรั่มเซราไมด์: มีความเข้มข้นสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ การดูแลผิวเฉพาะจุด
  • โลชั่นเซราไมด์: เหมาะสำหรับการดูแลผิวกาย โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่แห้งง่าย เช่นข้อศอก และหัวเข่า

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Ceramide กินตอนไหน

จากข้อมูล แนะนำให้รับประทาน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เซราไมด์ครั้งละ 1 เม็ด หลังมื้ออาหาร โดยจะเป็นมื้อใดก็ได้ โดยเซราไมด์เป็น ส่วนประกอบสำคัญ ของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้น และป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว

การรับประทานเซราไมด์เสริม สามารถช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง ชุ่มชื้น และลดความหยาบกร้านได้ อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ บนฉลากผลิตภัณฑ์ หรือปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนรับประทาน เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับสุขภาพ และความต้องการ [1]

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Ceramide เหมาะกับใคร

  • เซราไมด์เป็นส่วนประกอบสำคัญ ของผิวหนัง ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้น และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเซราไมด์ เหมาะสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
  • ผู้ที่มีผิวแห้ง หรือขาดน้ำ: เซราไมด์ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเนียนนุ่ม และลดการเกิดริ้วรอย
  • ผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือแพ้ง่าย: เซราไมด์ช่วยซ่อมแซม และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคือง และการอักเสบ
  • ผู้ที่มีอาการผิวอักเสบ: เช่นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคสะเก็ดเงิน เซราไมด์สามารถช่วยลดการอักเสบ และฟื้นฟูสภาพผิว
  • ผู้สูงอายุ: เนื่องจากการผลิตเซราไมด์ในผิว ลดลงตามอายุ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเซราไมด์ สามารถช่วยฟื้นฟู เกราะป้องกันผิว และรักษาผิว ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการป้องกันผิวจากมลภาวะ: เซราไมด์ช่วยป้องกันผิว จากปัจจัยภายนอก และรักษาซ่อมแซมผิว ที่เสียหาย ให้แข็งแรงขึ้น
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเซราไมด์ สามารถช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี และป้องกันปัญหาผิว ที่อาจเกิดขึ้นได้ [2]

เซราไมด์ 3 ชนิดที่พบได้บ่อย มีอะไรบ้าง

เซราไมด์เป็นไขมัน ที่มีบทบาทสำคัญ ในการรักษาความชุ่มชื้น และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ในผิวหนังของมนุษย์ มีเซราไมด์หลายชนิด ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อปกป้องผิว จากการสูญเสียน้ำ และป้องกันการรุกรานของเชื้อโรค เซราไมด์ที่สำคัญ และพบได้บ่อย มีดังนี้

  • เซราไมด์-1 (Ceramide-EOS): ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว และรักษาความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวแห้ง และผิวที่มีปัญหา
  • เซราไมด์-2 (Ceramide-NS หรือ NG): ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว และป้องกันการสูญเสียน้ำ
  • เซราไมด์-3 (Ceramide-NP): ช่วยลดการระคายเคือง และเสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับผิว เหมาะสำหรับผิวบอบบาง และแพ้ง่าย

อีก 1 ชนิดที่สำคัญคือ เซราไมด์รูปแบบ 6-II (Ceramide-AP) ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเซราไมด์เหล่านี้ สามารถช่วยฟื้นฟู และรักษาสุขภาพผิว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ [3]

สรุป เซราไมด์ ดูแลผิวชุ่มชื้น ลดผิวระคายเคือง

เซราไมด์เป็นส่วนสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อพูดถึงการดูแลผิว ด้วยบทบาทที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้น เสริมสร้างเกราะป้องกัน และลดการระคายเคือง การเพิ่มเซราไมด์ให้กับผิว ไม่ว่าจะผ่านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงผิว หรืออาหารธรรมชาติ จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับการมีผิวสุขภาพดี และเปล่งปลั่ง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง