เคอร์คูมิน สารสกัดขมิ้นที่เปี่ยมด้วยคุณค่า

เคอร์คูมิน

เคอร์คูมิน (Curcumin) เป็นสารสำคัญที่พบในขมิ้น ขมิ้นเป็นสมุนไพร ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ในการแพทย์แผนโบราณทั่วโลก ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาไปรู้จักกับเคอร์คูมินอย่างละเอียด ตั้งแต่แหล่งที่มา คุณประโยชน์ วิธีการใช้งานอย่างปลอดภัย และข้อควรระวัง ในการรับประทาน

เคอร์คูมิน คือสารอะไร พบในไหน

เคอร์คูมิน

เคอร์คูมิน เป็นสารประกอบประเภท Polyphenols ที่พบได้ในขมิ้น (Curcuma longa) พบมากที่สุดในรากของขมิ้นชัน สารนี้มีสีเหลืองทองอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมักใช้เป็นสารแต่งสีธรรมชาติในอาหาร และเครื่องสำอาง นอกจากนี้ ยังเป็นที่รู้จักในฐานะสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่มีคุณสมบัติทางยา โดดเด่นมากมาย [1]

สารสกัด เคอร์คูมิน ช่วยอะไร

  • เคอร์คูมินมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในร่างกาย โดยทำหน้าที่ยับยั้งการสร้าง Cytokines ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ในระบบภูมิคุ้มกัน
  • สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งผลให้ชะลอการเสื่อมของเซลล์ และช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคเรื้อรัง เช่นมะเร็ง และโรคหัวใจ
  • บำรุงสมอง และความจำ เคอร์คูมินมีส่วนช่วย เพิ่มระดับของโปรตีน BDNF (Brain-Derived Neurotrophic Factor) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของสมอง และการเรียนรู้
  • เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และลดการสะสมของคราบไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยง ของโรคหัวใจ
  • บรรเทาอาการข้ออักเสบ มีการวิจัยพบว่าเคอร์คูมิน สามารถบรรเทาอาการปวด และอักเสบในผู้ป่วยโรคข้อเสื่อม และข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้
  • ลดความเสี่ยงของมะเร็ง เคอร์คูมินอาจช่วยยับยั้ง การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และส่งเสริมการตายของเซลล์มะเร็งบางชนิด
  • ช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มความไวของอินซูลิน

ที่มา: 10 Health Benefits of Turmeric and Curcumin [2]

 

เคอร์คูมิน ช่วยการเสริมภูมิคุ้มกันอย่างไร

เคอร์คูมินเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ผ่านกลไกการทำงานหลายประการ เนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยสนับสนุนการทำงาน ของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยรายละเอียดของกระบวนการ มีดังนี้

  • ลดการอักเสบในร่างกาย เคอร์คูมินช่วยยับยั้งการหลั่งสาร Cytokines ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ ลดการผลิตเอนไซม์ COX-2 และ LOX ที่ทำให้เกิดการอักเสบ ส่งเสริมสมดุลการตอบสนอง ของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรค และการติดเชื้อได้ดีขึ้น
  • เพิ่มการทำงาน ของเซลล์เม็ดเลือดขาว กระตุ้นการทำงานของ Macrophages ซึ่งมีหน้าที่กำจัดเชื้อโรค และเซลล์แปลกปลอม เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ T เซลล์ และ เซลล์ NK (Natural Killer Cells) ที่สำคัญต่อการทำลายเซลล์ติดเชื้อ และเซลล์มะเร็ง
  • ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Effect) เคอร์คูมินมีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ ที่เกิดจากความเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress) ปกป้องดีเอ็นเอ (DNA) ของเซลล์ภูมิคุ้มกันจากการถูกทำลาย ส่งผลให้เซลล์เหล่านี้ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • กระตุ้นการผลิตโปรตีน ต้านการติดเชื้อ เคอร์คูมินช่วยกระตุ้นการผลิตโปรตีน Defensins และ Cathelicidins ที่มีบทบาทในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
  • ปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน ป้องกันภาวะภูมิคุ้มกันไวเกิน หรือการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันตัวเองผิดปกติ (Autoimmune Diseases) เช่นโรคสะเก็ดเงิน และโรคลูปัส ควบคุมการหลั่งสารอักเสบที่มากเกินไป เพื่อไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานหนัก จนเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ
  • ป้องกันการติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย เคอร์คูมินช่วยลดการเจริญเติบโต ของเชื้อไวรัส และแบคทีเรียโดยตรง เช่นไวรัสไข้หวัดใหญ่ และเชื้อแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ ในทางเดินหายใจ
  • เพิ่มระดับ กลูตาไธโอน (Glutathione) กระตุ้นการผลิตกลูตาไธโอน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างการทำงาน ของเซลล์ภูมิคุ้มกัน และการขับสารพิษ

สารสกัด เคอร์คูมิน กินตอนไหน

การรับประทานเคอร์คูมิน ควรทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

  • เวลาที่ควรรับประทาน: ก่อนมื้ออาหาร การรับประทานเคอร์คูมิน ก่อนมื้ออาหารประมาณ 10-15 นาที อาจช่วยเพิ่มการดูดซึม และประสิทธิภาพของสารนี้
  • วิธีเพิ่มการดูดซึม: รับประทานร่วมกับพริกไทยดำ โดยพริกไทยดำมีสาร Piperine ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมเคอร์คูมิน เข้าสู่ร่างกายได้สูงถึง 2,000%
  • รับประทานพร้อมไขมัน: เคอร์คูมินละลายในไขมัน การรับประทานร่วมกับอาหารที่มีไขมันดี เช่นน้ำมันมะกอก หรือถั่วเปลือกแข็ง จะช่วยเพิ่มการดูดซึม

ที่มา: โมเลกุลขนาดเล็กชื่อว่า เคอร์คูมินอยด์ [3]

 

วิธีทาน เคอร์คูมิน ปริมาณที่แนะนำ

ปริมาณที่แนะนำ ขนาดทั่วไป 500-2,000 มก./วัน (แบ่งเป็น 2-3 ครั้ง) ปริมาณนี้ปลอดภัย และเหมาะสำหรับการบรรเทาอาการอักเสบ หรือเพื่อสุขภาพโดยรวม สำหรับการบรรเทาอาการข้ออักเสบ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง สำหรับการลดระดับคอเลสเตอรอล 500-1,000 มิลลิกรัม/วัน


ขนาดสูงสุดที่ปลอดภัยไม่ควรเกิน 4,000-8,000 mg./วัน ในระยะสั้น และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ หากใช้ขมิ้นชันผง ควรผสมกับน้ำก่อนดื่ม และแบ่งการทานเป็นหลายมื้อ การแบ่งรับประทาน 2-3 ครั้งต่อวัน จะช่วยคงระดับเคอร์คูมินในร่างกายได้นานขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้ เคอร์คูมิน

แม้ว่าเคอร์คูมินจะมีประโยชน์มากมาย แต่การใช้ในปริมาณที่สูง หรือใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง และความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนี้

  • ปฏิกิริยากับระบบทางเดินอาหาร อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร เช่นแสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ หรือท้องเสีย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ในผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้อักเสบ
  • การแข็งตัวของเลือด เคอร์คูมินมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อการมีเลือดออก หลีกเลี่ยงการใช้ก่อน หรือหลังการผ่าตัด รวมถึงในผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด เช่นวาร์ฟาริน (Warfarin) หรือแอสไพริน
  • ผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด อาจลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งส่งผลต่อผู้ป่วยเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่รับประทาน ยาควบคุมระดับน้ำตาล
  • ปฏิกิริยากับยาอื่นๆ อาจเกิดปฏิกิริยากับยา เช่นยาเคมีบำบัด ยาต้านการอักเสบ ชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และยาต้านอาการซึมเศร้า ผู้ที่ใช้ยาเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนใช้เคอร์คูมิน
  • ความเป็นพิษต่อตับ และไตในปริมาณสูง การใช้เคอร์คูมินในปริมาณสูง เป็นระยะเวลานาน อาจเพิ่มภาระให้กับตับ และไต ผู้ที่มีภาวะตับหรือไตบกพร่อง ควรหลีกเลี่ยง
  • หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร อาจมีผลต่อระดับฮอร์โมน และกระตุ้นมดลูก จึงไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์ และข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย ในหญิงให้นมบุตร ยังไม่เพียงพอ
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี เคอร์คูมินอาจกระตุ้นการผลิตน้ำดี และทำให้อาการนิ่วในถุงน้ำดีแย่ลง

สรุปเคอร์คูมิน สารในขมิ้น ต้านการอักเสบ

เคอร์คูมินเป็นสารสำคัญ ที่พบในขมิ้น มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ตั้งแต่การต้านการอักเสบ การป้องกันโรคเรื้อรัง ไปจนถึงการบำรุงสมอง และหัวใจ อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคอย่างระมัดระวัง และอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง หากกำลังมองหาทางเลือก เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ เคอร์คูมินอาจเป็นคำตอบที่น่าสนใจ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง