เคราติน ยี่ห้อไหนดี ราคา พร้อมแหล่งจำหน่าย

เคราติน ยี่ห้อไหนดี

เคราติน ยี่ห้อไหนดี คำถามที่หลายคนสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่สนใจเรื่องเส้นผม และความงาม เพราะในยุคที่เราต้องเผชิญกับมลภาวะ ความร้อนจากการจัดแต่งทรงผม หรือแม้แต่ความเครียดในชีวิตประจำวัน สิ่งเหล่านี้ ล้วนส่งผลต่อสุขภาพผมโดยตรง ทำให้หลายคนมองหาตัวช่วยในการฟื้นฟูผม

  • แนะนำ เคราติน ยี่ห้อไหนดี จากเว็บไซต์ต่างๆ
  • ราคาเคราติน แต่ละยี่ห้อ
  • แหล่งซื้อเคราติน แต่ละยี่ห้อ

เคราติน ยี่ห้อไหนดี จากในหลายๆ เว็บไซต์

เคราติน คือโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่พบได้ในเส้นผม เล็บ และผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการเสริมสร้างโครงสร้างให้แข็งแรง และยืดหยุ่น โดยเฉพาะกับเส้นผม เคราตินเปรียบเสมือนเกราะป้องกันตามธรรมชาติ ที่ช่วยปกป้องผมจากความร้อน แสงแดด และมลภาวะต่างๆ

เคราตินยี่ห้อไหนดี จากในหลายๆเว็บไซต์ มีการเปรียบเทียบ ทั้งในเรื่องของราคา สารสกัดที่ใช้ ปริมาณ ไปจนถึงคุณภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์ ซึ่งบทความนี้ จะพาไปดูรายละเอียดของแต่ละแบรนด์ ว่ามีจุดเด่นแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนที่น่าสนใจที่สุด ในด้านของความคุ้มค่า

1. iHerb

Swanson

Swanson เคราติน ขนาด 50 มก. บรรจุ 60 แคปซูล คำอธิบาย บำรุงเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ 50 มก. ต่อแคปซูล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เคราตินเป็นกลุ่มของโปรตีนเส้นใยเหนียว ที่ช่วยบำรุงข้อต่อให้แข็งแรง และบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ เคราตินมีซิสเทอีนในปริมาณสูงเป็นพิเศษ

ซึ่งเป็นแหล่งโมเลกุลของซัลเฟอร์ ที่ช่วยบำรุงและเสริมสร้างเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนให้แข็งแรง เมื่อโมเลกุลซัลเฟอร์จากซิสเทอีนจับกัน โมเลกุลของซัลเฟอร์จากซิสเทอีน จะจับกันเป็นพันธะที่แรงมาก ซึ่งเรียกว่า “ซิสเทอีนบริจด์” สันหลังเหล่านี้ ช่วยเสริมสร้างข้อต่อที่รับน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี

เคราตินของ Swanson Premium Brand® ได้มาจากขนสัตว์ของทิเบต ให้ไฮโดรไลซ์เคราตินบริสุทธิ์ เกรดอาหารบริสุทธิ์ เพื่อบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่แข็งแรง และส่งเสริมสุขภาพ ความแข็งแรง และรูปลักษณ์ของผิวหนัง เส้นผม และเล็บ

ข้อมูลเฉพาะ

  • บรรจุ: 60 แคปซูล
  • หนึ่งหน่วยบริโภค: 1 แคปซูล
  • ส่วนผสม: เคราติน (จากขนสัตว์ทิเบต) 50 มก.
  • ส่วนผสมอื่นๆ: แป้งข้าวเจ้า, เจลาติน, เกลือแมกนีเซียมจากกรดไขมัน, ซิลิคอนไดออกไซด์
  • คำเตือน: สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น โปรดปรึกษาผู้ให้บริการด้านการแพทย์ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์นี้ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ หากกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร รับประทานยา หรือมีโรคประจำตัว เก็บให้พ้นมือเด็ก ห้ามใช้หากซีลฉีกขาด เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น
  • วิธีใช้งาน: การใช้งานที่แนะนำใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยรับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 2 ครั้งพร้อมน้ำ
  • แหล่งจำหน่าย: iHerb
  • ราคา: 228.36 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568)

ที่มา: Swanson เคราติน ขนาด 50 มก. บรรจุ 60 แคปซูล [1]

2. Lazada

Nutricost

ดูแลสุขภาพเส้นผม และรากผม Nutricost Keratin 500 mg รายละเอียดสินค้า ไฮโดรไลซ์เคราตินเปปไทด์ 500 มก. ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค โรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP ผลิตภัณฑ์ Non-GMO ปราศจากกลูเตน

ข้อมูลเฉพาะ

  • บรรจุ: 120 Capsules
  • ส่วนผสม: ไฮโดรไลซ์เคราตินเปปไทด์ 500 มก.
  • วิธีใช้งาน: การใช้งานที่แนะนำ ใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รับประทานวันละ 2 แคปซูลพร้อมน้ำ 8-12 ออนซ์
  • แหล่งจำหน่าย: Lazada
  • ราคา: 1,190 บาท ลดเหลือ 980 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568)

ที่มา: ดูแลสุขภาพเส้นผม และรากผม Nutricost [2]

3. Shopee

XEMENRY

XEMENRY เคราติน คอลลาเจน ไบโอติน เพิ่มการเจริญเติบโตของเส้นผม เสริมความงามของผิว รายละเอียดสินค้าส่วนประกอบ คอลลาเจนไบโอตินเคราติน ประโยชน์ อาหารเสริมสนับสนุนการเจริญเติบโตของเส้นผม ความงามของผิวหนังและเล็บ

แคปซูลเหล่านี้สามารถมั่นใจได้ว่า คุณจะได้รับสารอาหารที่จำเป็น เพียงพอทุกวัน สูตรโภชนาการอันทรงพลังที่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม

คุณภาพที่แท้จริงผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ภารกิจของเราคือช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความสุขและมีสุขภาพดี ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น ได้รับการรับรองจาก GMP ในสหรัฐอเมริกาและผ่านการทดสอบ โดยห้องปฏิบัติการของบุคคลที่สาม ผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัย และเชื่อถือได้

ข้อมูลเฉพาะ

  • บรรจุ: 120 Capsules
  • วิธีใช้งาน: รับประทานวันละ 1-2 แคปซูลวันละสองครั้ง พร้อมอาหาร หรือตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • แหล่งจำหน่าย: Shopee
  • ราคา: 740 บาท ลดเหลือ 377 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568)

ที่มา: ดูแลสุขภาพเส้นผม และรากผม Nutricost [3]

สรุปแล้ว เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ถ้าเลือกจากราคา ปริมาณ สารสกัด ความบริสุทธิ์ และความคุ้มค่าโดยรวม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เคราตินเสริมอาหารจากหลายแหล่งจำหน่าย แบรนด์ที่โดดเด่นที่สุดคือ Swanson Keratin 50 mg จาก iHerb Swanson เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มีการรับรองคุณภาพชัดเจน และเลือกใช้เคราตินบริสุทธิ์ในรูปแบบไฮโดรไลซ์

ซึ่งดูดซึมได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผม เล็บ และผิวจากภายใน ที่สำคัญคือมีราคาย่อมเยาเพียง 228 บาท 60 แคปซูล โดดเด่นในด้านความบริสุทธิ์และปลอดภัย

ทานเคราตินช่วยอะไรบ้าง?

เคราตินเป็นโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม เล็บ และผิวหนัง หากใครกำลังสงสัยว่า เคราติน กินอะไร ถึงจะช่วยกระตุ้นการสร้างเคราตินในร่างกายได้ คำตอบคือควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ไข่ เนื้อปลา ถั่ว ธัญพืชเต็มเมล็ด และผักใบเขียว รวมถึงไข่แดง avocado อัลมอนด์ ซึ่งประโยชน์ของเคราตินนั้นมีมากมาย ดังนี้

  • ฟื้นฟูผมแห้งเสียจากการทำเคมี เช่น ย้อม ดัด ยืด หรือใช้ความร้อนบ่อย เคราตินช่วยซ่อมแซมโครงสร้างผมที่เสียหาย ให้กลับมาแข็งแรง
  • ลดผมร่วง เสริมความแข็งแรงให้เส้นผม ช่วยให้ผมร่วงน้อยลง รากผมแน่นขึ้น และเส้นผมมีสุขภาพดีขึ้น
  • เพิ่มความเงางาม และความชุ่มชื้นให้ผม ทำให้ผมดูมีน้ำหนัก ไม่แห้งชี้ฟู จัดทรงง่ายมากขึ้น
  • เสริมสร้างเล็บให้แข็งแรง ลดปัญหาเล็บเปราะ หักง่าย ฉีกขาดง่าย โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะขาดโปรตีน หรือใช้มือบ่อย
  • ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น เมื่อเคราตินเพียงพอ ผิวหนังชั้นนอกจะมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ลดความแห้งกร้าน
  • ทำงานร่วมกับสารอาหารอื่นได้ดี เคราตินในอาหารเสริม มักผสมไบโอติน วิตามินซี หรือคอลลาเจน ซึ่งช่วยเสริมฤทธิ์กัน ในการบำรุงผิว ผม เล็บ

เคราตินควรทานกับอาหารเสริมอะไร?

  • ไบโอติน (Biotin) วิตามินบี ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ของเส้นผมและเล็บ ช่วยให้เคราตินทำงาน ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ซิงก์ (Zinc) แร่ธาตุที่ช่วยควบคุมความมันบนหนังศีรษะ ลดผมร่วง และช่วยในกระบวนการซ่อมแซมเซลล์
  • วิตามินซี (Vitamin C) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างผิว ผม และเล็บ
  • คอลลาเจน (Collagen) โปรตีนที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ควบคู่กับเคราติน ในการดูแลผิว และเส้นผมให้ดูสุขภาพดี
  • กรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acids) ช่วยเสริมสร้างโปรตีนในร่างกาย รวมถึงกระตุ้นการสร้างเคราตินตามธรรมชาติให้เพียงพอ

ทานเคราตินมีผลข้างเคียงหรือไม่?

  • อาการท้องอืด คลื่นไส้ หรือไม่สบายท้อง พบได้บ้างในช่วงเริ่มต้น ของการรับประทาน
  • สิวขึ้น หรือผิวมันมากขึ้น ในบางรายที่ทานร่วมกับไบโอติน หรือซิงก์ อาจกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันมากเกินไป
  • อาการแพ้ ในผู้ที่แพ้โปรตีนบางชนิด เช่นมีผื่นคัน ผิวลอก หรือรู้สึกคัดจมูก ถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรหยุดทาน และปรึกษาแพทย์ทันที
  • ปฏิกิริยากับยา ผู้ที่รับประทานยารักษาโรคประจำตัว เช่นยาลดความดัน ยาปฏิชีวนะ ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนเริ่มทานอาหารเสริมทุกชนิด
Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง