สารสกัด Gotu kola ตัวช่วยลดง่วง บำรุงสมอง

สารสกัด Gotu kola

สารสกัด Gotu kola เป็นหนึ่งในสมุนไพรจากธรรมชาติ ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ในแวดวงสุขภาพ ไม่ว่าจะในรูปแบบของอาหารเสริมบำรุงสมอง เจลฟื้นฟูผิว หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์บำรุงหัวใจและหลอดเลือด โกตูโคลาถูกใช้มายาวนาน ทั้งในด้านการบำรุงสมอง ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท และฟื้นฟูพลังงาน

สาร Gotu kola คืออะไร?

สารสกัด Gotu kola

Gotu Kola คือใบบัวบก (ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica) เป็นพืชสมุนไพร ที่มีประวัติการใช้งานมายาวนาน ในแพทย์แผนจีน ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ คือส่วนที่อยู่เหนือดิน โดยมีสรรพคุณในการรักษา และบรรเทาอาการของโรค และภาวะต่างๆ เช่นการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต

ในทางการแพทย์แผนโบราณ ใบบัวบกถูกนำมาใช้ ในการรักษาโรคและภาวะต่างๆ เช่นโรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาตกโรค โรคบิด ซิฟิลิส ไข้หวัด และโรคเท้าช้าง นอกจากนี้ ยังมีการนำมาใช้ทาภายนอก เพื่อช่วยสมานแผล และลดรอยแผลเป็น รวมถึงบรรเทารอยแตกลายที่หน้าท้อง ขณะตั้งครรภ์ [1]

สารสำคัญในโกตูโคลา

  • Asiaticoside และ Madecassoside: ช่วยการสมานแผล เพิ่มการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง
  • Asiatic Acid และ Madecassic Acid: ช่วยกระตุ้นการงอกของเซลล์ประสาท และบำรุงสมอง
  • Flavonoids และ Triterpenoids: มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงระบบไหลเวียนเลือด และหัวใจ

สารสกัดโกตูโคลาช่วยอะไร?

  • สารสกัด Gotu-kola ช่วยบำรุงสมองและความจำ: เพิ่มความสามารถในการจดจำ ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ภาวะสมองเสื่อม ช่วยฟื้นฟูความจำลดความกระวนกระวาย ทำให้จิตใจสงบ และผ่อนคลาย
  • บำรุงหัวใจและหลอดเลือด: ช่วยลดความดันโลหิตสูง และภาวะหลอดเลือดแข็งตัว เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
  • บรรเทาอาการฟกช้ำและห้อเลือด: มีสรรพคุณในการลดอาการฟกช้ำ และห้อเลือด
  • รักษาแผล และลดการอักเสบ: ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อน จากแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยยับยั้งสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่
  • บำรุงผิวพรรณ: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและดูอ่อนเยาว์
  • บำรุงสายตา: เนื่องจากมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา
  • ลดความเครียด และฟื้นฟูร่างกาย: ช่วยลดความเครียด คลายความกังวล และฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนเพลีย

ที่มา: ใบบัวบก บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์ [2]

 

โกตูโคลาประโยชน์ด้านสมอง

  • กระตุ้นการทำงานของสมอง (Cognitive Enhancer) สาระสำคัญในโกตูโคลา มีฤทธิ์กระตุ้นการงอกของเซลล์ประสาท และเสริมสร้างการเชื่อมต่อของเซลล์สมอง ส่งผลให้ สมองมีการทำงานที่ดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และจดจำ
  • ลดความเครียด และความวิตกกังวล โกตูโคลาออกฤทธิ์คล้าย Adaptogen ซึ่งหมายถึงสารที่ช่วยให้ร่างกายปรับสมดุล เมื่อเกิดความเครียด โดยลดระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ทำให้สมองปลอดโปร่ง ลดความวิตกกังวล มีผลดีต่อผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ จากความเครียดเรื้อรัง
  • เพิ่มสมาธิ และความตื่นตัวในระหว่างวัน เมื่อรับประทานในช่วงเช้าหรือบ่าย สารสกัดโกตูโคลาช่วยลดอาการเบลอ ง่วงหลังอาหาร เพิ่มความสามารถในการจดจ่อกับงาน หรือการเรียน ส่งเสริมสมองให้มีสมดุล ระหว่างความสงบ และความตื่นตัว
  • เสริมพลังงาน โดยไม่กระตุ้นระบบหัวใจ แตกต่างจากคาเฟอีน สารสกัดโกตูโคลาไม่กระตุ้นหัวใจ หรือทำให้หัวใจเต้นเร็ว ไม่ทำให้รู้สึกกระวนกระวาย หรือใจสั่น ให้พลังงานในลักษณะ
  • ลดอาการเหนื่อยล้าทางจิตใจ ในการศึกษาบางส่วน พบว่าโกตูโคลาอาจช่วยลดความอ่อนล้าของสมอง จากการทำงานต่อเนื่อง เช่นลดอาการสมองล้า ฟื้นฟูสมรรถภาพของสมอง หลังการใช้พลังงานสูง เช่นช่วงสอบหรือประชุมต่อเนื่อง
  • เสริมสุขภาพหลอดเลือดสมอง โกตูโคลาช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต โดยเฉพาะการไหลเวียนของเลือดในสมอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ ของการทำงานสมองที่ดี ทำให้สมองได้รับออกซิเจน และสารอาหารเพียงพอ ลดโอกาสเกิดอาการมึนงง หรือความดันต่ำ ที่ทำให้รู้สึกหมดแรง

ใครที่ควรใช้สารสกัดโกตูโคลา?

  • ผู้ที่ต้องใช้สมองในการทำงาน หรือเรียนรู้ตลอดวัน นักเรียน นักศึกษา พนักงานออฟฟิศ โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ ผู้ที่ต้องใช้ความจำ สมาธิ และการตัดสินใจสูง
  • ผู้สูงอายุ หรือผู้มีแนวโน้มสมองเสื่อม ผู้ที่มีภาวะหลงลืมง่าย ความจำถดถอย ผู้ที่อยู่ในช่วงวัยเกษียณ ต้องการชะลอภาวะอัลไซเมอร์
  • ผู้ที่มีอาการเครียด วิตกกังวล หรือนอนไม่หลับ คนทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ผู้ที่มีความเครียดสะสม จากภาระชีวิต หรือภาวะกดดันทางจิตใจ
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณ มีแผลเป็น ผิวแห้ง ริ้วรอย ผิวบอบบางหรือเป็นสิวง่าย
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือระบบไหลเวียน มีเส้นเลือดขอด อาการบวมน้ำ หรือระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
  • ผู้ที่ง่วงง่าย หรือเหนื่อยง่ายในระหว่างวัน คนที่หลีกเลี่ยงคาเฟอีน ผู้ที่ต้องการความสดชื่น และตื่นตัวแบบไม่กระตุ้นหัวใจ

ข้อควรระวังในการใช้โกตูโคลา

  • ไม่ควรใช้ติดต่อกัน เป็นเวลานานเกินไป ควรใช้ติดต่อกันไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ แล้วพักการใช้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ การใช้ต่อเนื่องอาจส่งผลต่อตับ หรือเกิดการสะสมในร่างกาย
  • ระวังในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ สารสกัดโกตูโคลาอาจส่งผลต่อการทำงานของตับในบางราย หลีกเลี่ยง หรือปรึกษาแพทย์ หากมีประวัติโรคตับ เช่นตับอักเสบ ไขมันพอกตับ หรือโรคตับเรื้อรัง
  • ไม่ควรใช้ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดใช้ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เนื่องจากอาจมีผลต่อระบบประสาท หรือยาชา ที่ใช้ในระหว่างการผ่าตัด
  • ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ ปวดหัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ท้องเสีย อาการแพ้ เช่น ผื่นแดง หรือคัน
  • ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีฉลากและส่วนประกอบชัดเจน ได้รับการรับรองจาก อย.

สรุป โกตูโคลา ดูแลสมองที่เหนื่อยล้า

สารสกัดโกตูโคลา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกธรรมชาติที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสมอง และลดอาการเหนื่อยล้าระหว่างวันอย่างปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ทั้งด้านสมาธิ ความจำ และการฟื้นฟูพลังงาน โกตูโคลาไม่เพียงแต่เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน แต่ยังเป็นอาหารเสริมยุคใหม่ที่น่าสนใจ

สารสกัดใบบัวบกห้ามกินกับอะไร?

ไม่ควรใช้ร่วมกับยากล่อมประสาท หรือยานอนหลับ เพราะโกตูโคลาอาจเสริมฤทธิ์ของยากลุ่มนี้ ทำให้ง่วงมากขึ้น ตัวอย่างยาที่ควรระวัง Lorazepam, Diazepam และ Clonazepam อาจทำให้รู้สึกง่วงนอนมากขึ้น

นอกจากนี้ควรระวังการใช้ร่วมกับยาที่มีผลต่อตับ เช่น Acetaminophen, Amiodarone, Carbamazepine, Isoniazid และ Simvastatin เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดความเสียหายต่อตับ

ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้สารสกัดโกตูโคลา โดยเฉพาะหากกำลังใช้ยาประจำ เพื่อป้องกันปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ [3]

ใบบัวบกสกัดควรกินตอนไหน?

เวลาที่แนะนำในการรับประทาน ควรรับประทานช่วงเช้า เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มความตื่นตัว สมาธิ และลดความเครียดระหว่างวัน หรือรับประทานช่วงบ่าย เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า หรือเริ่มง่วงหลังอาหารกลางวัน จะช่วยลดอาการเบลอ อ่อนเพลียในช่วงบ่าย หรือปฏิบัติตามฉลาก คำแนะนำของผู้ผลิต

ควรรับประทาน พร้อมอาหาร หรือ หลังอาหาร เพื่อช่วยในการดูดซึม และลดโอกาสระคายเคืองกระเพาะ หลีกเลี่ยงการรับประทาน ก่อนนอน หากเป็นคนหลับยาก เพราะอาจทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเกินไป

หากต้องการใช้ต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ด้านสมองหรือความจำ ควรรับประทาน ต่อเนื่องประมาณ 4-8 สัปดาห์ แล้วหยุดพักเป็นระยะ เช่น 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุล

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง