สารสกัด มาคา กับสมดุลฮอร์โมนในวัยทอง

สารสกัด มาคา

สารสกัด มาคา คืออะไร คำถามที่เริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้น ในกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ ทั้งเพศชายและหญิง โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน และวัยทอง ที่ต้องการดูแลสมดุล ของฮอร์โมนและพลังงาน ในชีวิตประจำวัน มาคาไม่ได้เป็นเพียงแค่พืช จากเทือกเขาสูงในเปรู แต่ยังได้รับการกล่าวถึง ในฐานะอาหารเสริม ที่มีศักยภาพ ในการส่งเสริมสุขภาพ

  • ประวัติ และที่มา ของมาคา
  • ประโยชน์ของมาคา
  • ข้อควรระวังในการใช้มาคา

ประวัติ และที่มา ของมาคา

สารสกัด มาคา

มาคา (Maca) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lepidium meyenii เป็นพืชหัวในตระกูลเดียว กับบรอกโคลี และหัวไชเท้า มีต้นกำเนิด จากเทือกเขาแอนดีส ในประเทศเปรู โดยเจริญเติบโตได้ดี ที่ระดับความสูงกว่า 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่เพาะปลูก ที่สูงที่สุดในโลก

พืชชนิดนี้ถูกใช้ โดยชาวพื้นเมืองเปรู มาอย่างยาวนานมากว่า 2,000 ปี ทั้งในรูปแบบของอาหารหลัก ในชีวิตประจำวัน และในฐานะสมุนไพรบำรุงกำลัง โดยเฉพาะในหมู่ทหาร และนักรบชาวอินคา ซึ่งเชื่อว่าการบริโภคมาคา จะช่วยเสริมพลัง ความอึด ความทนทาน และสมรรถภาพทางเพศ

หลังจากยุคอินคา เมื่ออารยธรรมยุโรป เข้ามายังทวีปอเมริกาใต้ มาคาถูกนำเสนอ ในฐานะพืชสมุนไพร ที่มีศักยภาพทางการแพทย์ และเริ่มถูกนำไปใช้ ในภูมิภาคอื่นของโลก ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 20 มาคาจึงเริ่มถูกวิจัยในด้านการแพทย์สมัยใหม่ โดยเน้นไปที่คุณสมบัติในการเพิ่มพลังงาน และสมดุลฮอร์โมน

ส่วนประกอบโภชนาการของมาคา

  • โปรตีน มีกรดอะมิโนจำเป็น ที่ร่างกายต้องการ
  • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง
  • ไฟเบอร์ ช่วยระบบขับถ่าย
  • วิตามิน เช่นวิตามิน C B1 B2 B3 เสริมภูมิคุ้มกันและระบบประสาท
  • แร่ธาตุ เช่นแคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี
  • กรดไขมันจำเป็น เช่นโอเมก้า-6
  • สารพฤกษเคมีเฉพาะของมาคาเช่น macamides macaenes และ glucosinolates

การทานมาคามีประโยชน์อะไรบ้าง?

  • เพิ่มพลังงานและความทนทาน มาคาได้รับความนิยม ในกลุ่มนักกีฬา และผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังงาน เนื่องจากมีสารอาหาร ที่ช่วยเพิ่มความทนทาน และลดความเหนื่อยล้า
  • ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ และภาวะเจริญพันธุ์ มีการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่า มาคาสามารถช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ และปรับปรุงคุณภาพ ของอสุจิในผู้ชาย
  • ปรับสมดุลฮอร์โมน ในวัยทอง สารสกัด มาคา มีคุณสมบัติ ในการปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งอาจช่วยลดอาการ ที่เกี่ยวข้องกับวัยทอง เช่นร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวน และนอนไม่หลับ
  • บำรุงสมอง และอารมณ์ สารฟลาโวนอยด์ในมาคา มีผลต่อการบำรุงสมอง เพิ่มสมาธิ และอารมณ์ โดยช่วยลดอาการวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าในบางคน
  • บำรุงกระดูก และกล้ามเนื้อ มาคาอุดมไปด้วยแคลเซียม และแร่ธาตุหลายชนิด ซึ่งสนับสนุนการดูแลกระดูก กล้ามเนื้อ และระบบประสาท

ที่มา: 4 Benefits of Maca Root [1]

ข้อควรระวังในการใช้มาคา

  • ผู้ที่มีปัญหาฮอร์โมน เช่นซีสต์ มะเร็งเต้านม มดลูก หรือรังไข่ ควรหลีกเลี่ยง เพราะมาคามีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศ
  • ผู้มีโรคต่อมไทรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เนื่องจากมาคามีสารกอยโตรเจน ที่อาจรบกวนการทำงานของไทรอยด์
  • หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยเพียงพอ ไม่ควรใช้
  • ผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด หรือยาควบคุมความดัน ควรปรึกษาแพทย์ เพราะมาคาอาจมีผล ต่อระบบไหลเวียนเลือด
  • ควรเริ่มจากปริมาณน้อย และสังเกตอาการ เช่นปวดหัว ใจสั่น หรือท้องเสีย หากเกิดอาการควรหยุดใช้ทันที
  • ไม่ควรใช้ติดต่อกันระยะยาว โดยไม่มีคำแนะนำ จากผู้เชี่ยวชาญ ควรเว้นช่วงให้ร่างกายพักจากการรับสารอย่างต่อเนื่อง

มาคากินตอนไหน ปริมาณเท่าไหร่?

เวลาที่ควรกิน กินหลังอาหารเช้า หรือก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาที หลีกเลี่ยงการกินก่อนนอน เพราะมาคาอาจเพิ่มพลังงาน ทำให้นอนไม่หลับในบางราย

ปริมาณที่แนะนำ เริ่มต้น 500 ถึง 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ปรับเพิ่มได้สูงสุดถึง 1,500 ถึง 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน ตามวัตถุประสงค์ เช่นเพิ่มสมรรถภาพหรือปรับฮอร์โมน สำหรับผงมาคา เริ่มต้นที่ 1 ถึง 3 ช้อนชา (ประมาณ 3 ถึง 9 กรัม) ต่อวัน

คำแนะนำเพิ่มเติม ควรเริ่มจากปริมาณน้อยก่อน แล้วค่อยๆเพิ่ม รับประทานต่อเนื่อง 6 ถึง 12 สัปดาห์ แล้วเว้นระยะประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์

มาคาเหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีภาวะอ่อนเพลีย หรือไม่มีแรง มาคาช่วยเพิ่มพลังงาน และความทนทานของร่างกาย
  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยกลางคน ถึงวัยทอง
  • หญิงวัยทองที่มีอาการร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวน หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ เพราะมาคาช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนได้
  • ผู้ที่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรม ที่ใช้แรงมาก มาคามีส่วนช่วยในการฟื้นตัว และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงสมอง และอารมณ์ เพราะมีงานวิจัยบางส่วน ชี้ว่ามาคาอาจช่วยลดความเครียด และอาการซึมเศร้าได้เล็กน้อย
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มภาวะเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะในผู้ชาย มาคาอาจมีผลต่อการเพิ่มปริมาณ และคุณภาพของอสุจิ

โดยสรุป สารสกัด มาคา

สารสกัดมาคาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกจากธรรมชาติ ที่น่าสนใจในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทองและผู้ที่ต้องการฟื้นฟูพลังงานและสมดุลของร่างกาย หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มาคาสามารถช่วยให้สุขภาพโดยรวม ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาคากับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน

การศึกษาหลายชิ้นพบว่า การบริโภคมาคา อาจช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ โดยไม่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือด อย่างไรก็ตาม การศึกษาเหล่านี้ มีขนาดกลุ่มตัวอย่างเล็ก และยังไม่สามารถสรุปผลได้อย่างชัดเจน

ผลการศึกษาในสัตว์ทดลอง การศึกษาบางชิ้นในสัตว์ทดลองพบว่า มาคาอาจช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิ และปรับปรุงคุณภาพของอสุจิ โดยไม่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเลือด อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาในสัตว์ทดลอง อาจไม่สามารถนำมาใช้กับมนุษย์ ได้โดยตรง

แม้ว่ามาคาจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ในหลายด้าน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับผลของมาคา ต่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ยังไม่ชัดเจน หากกำลังมองหาอาหารเสริม เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ [2]

ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงมาคา?

  • สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ เกี่ยวกับความปลอดภัย ของการใช้มาคาในสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้มาคา ในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย
  • ผู้ที่มีภาวะไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน มาคาอาจมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งอาจกระตุ้น หรือทำให้อาการของโรค ที่ไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนแย่ลง เช่นมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก มะเร็งรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือเนื้องอกมดลูก ดังนั้นผู้ที่มีภาวะดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงการใช้มาคา
  • ผู้ที่มีปัญหา เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ มาคาอาจมีผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน หรือไทรอยด์ทำงานต่ำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้มาคา
  • ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง มาคาอาจมีผลต่อความดันโลหิต ดังนั้นผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวัง และปรึกษาแพทย์ก่อนใช้มาคา
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด มาคาอาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นผู้ที่มีปัญหา เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือกำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้มาคา

ที่มา: Maca [3]

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง