สารสกัด มะระขี้นก พืชสมุนไพรพื้นบ้าน ลดน้ำตาล

สารสกัด มะระขี้นก

สารสกัด มะระขี้นก จากพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ที่อยู่คู่ครัวไทยมานาน หลายคนอาจคุ้นเคยกับรสชาติขม ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคุณประโยชน์ทางสุขภาพ ซ่อนอยู่มากมาย มะระขี้นกไม่ใช่แค่พืชผักธรรมดา แต่เป็นพืชที่ได้รับความสนใจ ในวงการวิจัย โดยเฉพาะในด้านการดูแลระดับน้ำตาลในเลือด

  • ประวัติ และความเป็นมา ของมะระขี้นก
  • สรรพคุณของมะระขี้นก
  • งานวิจัยสารสกัดมะระขี้นก

ประวัติ และความเป็นมา ของมะระขี้นก

สารสกัด มะระขี้นก

มะระขี้นกเป็นพืชสมุนไพรในวงศ์ Cucurbitaceae มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้ โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศ ก่อนจะกระจายพันธุ์ ไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย ลาว กัมพูชา จีน และฟิลิปปินส์ ปัจจุบันพบได้ในหลายภูมิภาค ที่มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้นทั่วโลก

มะระขี้นกถูกนำมาใช้เป็น ทั้งอาหาร และสมุนไพรพื้นบ้าน มานานนับพันปี โดยเฉพาะในระบบแพทย์แผนโบราณของอินเดีย และจีน ซึ่งใช้เพื่อรักษาโรคต่างๆ เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร และการอักเสบในร่างกาย

ในประเทศไทย มะระขี้นกถือเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ที่นิยมปลูกตามรั้วบ้าน หรือริมรั้วสวน เนื่องจากปลูกง่าย โตเร็ว และทนต่อสภาพอากาศ มักนำผลดิบมาใช้ประกอบอาหาร เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพ และยังเชื่อกันว่ามีฤทธิ์ในการล้างพิษ และช่วยลดความร้อนในร่างกาย

มะระขี้นกสกัดมีสรรพคุณอะไรบ้าง?

มะระขี้นกเป็นพืชสมุนไพร ที่มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย ส่วนต่างๆ ของมะระขี้นก ถูกนำมาใช้ประโยชน์ดังนี้

  • ใบ: รสขม ใช้คั้นน้ำดื่ม เพื่อแก้ท่อน้ำดีอักเสบ ช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้ แก้ตัวร้อน ดับพิษร้อน แก้ตับม้ามพิการ และแก้ปากเปื่อย​
  • ผลดิบ: รสขมจัด รับประทานเพื่อบำรุงน้ำดี ทำให้เจริญอาหาร บำรุงร่างกาย แก้ตับม้ามอักเสบ ขับพยาธิ แก้เจ็บปวดอักเสบ จากพิษต่างๆ และเป็นยาระบายอ่อนๆ​
  • ดอก: รสขมร้อน ชงน้ำดื่มเพื่อแก้หอบหืด แก้พิษ และแก้บิด​
  • เมล็ด: รสขม ใช้เป็นยากระตุ้นความรู้สึกทางเพศ เพิ่มพูนลมปราณ บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง และขับพยาธิตัวกลม​
  • ราก: รสขม ใช้ปรุงเป็นยาบำรุง ฝาดสมาน แก้ริดสีดวงทวาร เป็นยาธาตุ แก้ไข้ แก้พิษร้อน แก้บิด ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด และสมานแผล​
  • เถา: ใช้บำรุงน้ำดี เป็นยาระบายอ่อนๆ ดับพิษดี และโลหิต แก้ไข้เพื่อดีพิการ แก้พิษทั้งปวง เจริญอาหาร แก้โรคลมเข้าข้อ เท้าบวม แก้ปวดตามข้อนิ้วมือ และนิ้วเท้า แก้โรคม้าม แก้โรคตับ ขับพยาธิในท้อง และแก้พิษน้ำดีพิการ​

ที่มา: มะระขี้นก [1]

สารสำคัญในมะระขี้นก มีอะไรบ้าง?

สารสกัด มะระขี้นก มีสารออกฤทธิ์ หลากหลายชนิด ซึ่งเป็นที่มาของคุณประโยชน์ทางสุขภาพ ได้แก่

  • Charantin: สารที่มีฤทธิ์คล้ายอินซูลิน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • Polypeptide-p: โปรตีนชนิดหนึ่ง ที่มีผลในการควบคุมระดับน้ำตาล
  • Vicine และ Momordicin: มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: เช่นวิตามินซี ฟลาโวนอยด์ และแคโรทีนอยด์ ช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรัง

มะระขี้นกกลไกลดน้ำตาลในเลือด

  • เพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เซลล์มักจะตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดี หรือที่เรียกว่า ภาวะดื้ออินซูลิน สารในมะระขี้นก มีฤทธิ์เพิ่มการตอบสนอง ของตัวรับอินซูลิน ในเซลล์กล้ามเนื้อและตับ ทำให้กลูโคสดูดซึมเข้าสู่เซลล์มากขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน จากตับอ่อน สารบางชนิดในมะระขี้นก มีฤทธิ์กระตุ้นเบต้าเซลล์ในตับอ่อน ให้ผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในกลุ่มผู้ป่วย ที่ยังมีการทำงานของตับอ่อนหลงเหลืออยู่ โดยสารนี้จะทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนอินเครติน ที่ช่วยเพิ่มระดับอินซูลินหลังการกินอาหาร
  • ยับยั้งเอนไซม์ที่ย่อยคาร์โบไฮเดรต เอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร มีหน้าที่ย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต ให้กลายเป็นกลูโคส เพื่อดูดซึมเข้าสู่เลือด สารสกัดจากมะระขี้นก สามารถยับยั้งเอนไซม์เหล่านี้ ทำให้กระบวนการย่อย และดูดซึมกลูโคสช้าลง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือด หลังอาหาร ไม่พุ่งสูงเร็วเกินไป
  • ลดการสะสมไขมันในตับ และลดภาวะดื้ออินซูลิน ไขมันสะสมในตับ มีส่วนทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน มะระขี้นกมีฤทธิ์ ช่วยลดการสะสมของไขมันในตับ และช่วยควบคุมการเผาผลาญไขมันให้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรง ต่อการฟื้นฟูความไวของเซลล์ ต่ออินซูลิน และลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารสกัด มะระขี้นก งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

งานวิจัยจากวารสาร Journal of Ethnopharmacology

การศึกษาฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Ethnopharmacology ได้ทำการทดลอง ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยให้รับประทานสารสกัดมะระขี้นก ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4–6 สัปดาห์ ผลการศึกษาพบว่า

  • ระดับน้ำตาล ในเลือดขณะอดอาหาร (Fasting Blood Glucose) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
  • มีการควบคุมระดับน้ำตาลหลังอาหาร (Postprandial Glucose) ได้ดีขึ้น
  • ไม่มีผลข้างเคียง ที่รุนแรงในกลุ่มตัวอย่าง
  • ชี้ให้เห็นว่าสารสกัดจากมะระขี้นก อาจเป็นทางเลือกเสริม ที่มีความปลอดภัย ในการดูแลระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

การทดลองในสัตว์ทดลอง

งานวิจัยในห้องทดลองโดยใช้ หนูทดลอง ที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวาน (induced diabetic rats) แสดงให้เห็นว่า มะระขี้นกช่วยฟื้นฟูความไวของเซลล์ ต่ออินซูลิน ผลการศึกษาพบว่า

  • ลดระดับอินซูลินในเลือด และน้ำตาลสะสม (HbA1c) ได้อย่างชัดเจน
  • ช่วยลดการสะสม ของไขมันในตับ (hepatic steatosis) ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะดื้ออินซูลิน
  • ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และไขมันในกระแสเลือด ซึ่งส่งผลทางอ้อม ต่อการควบคุมระดับน้ำตาล

การวิจัยในมนุษย์

งานวิจัยบางชิ้น ได้ทดสอบสารสกัดมะระขี้นกในมนุษย์ โดยใช้ขนาด 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ผลการศึกษาพบว่า

  • ระดับน้ำตาลในเลือด ลดลงในช่วง 8–12 สัปดาห์
  • ผู้เข้าร่วม ไม่มีอาการข้างเคียงรุนแรง เช่นภาวะน้ำตาลต่ำเกินไป หรือการทำงานของตับผิดปกติ
  • แสดงศักยภาพของมะระขี้นก ในฐานะอาหารเสริม ที่ใช้ควบคุมน้ำตาล ได้อย่างปลอดภัย และยั่งยืน
  • อย่างไรก็ตาม ยังคงเน้นย้ำว่า ควรใช้ควบคู่กับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

มะระขี้นกมีโทษอะไรบ้าง?

  • สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร มีรายงานว่าการใช้สารสกัดมะระขี้นก ในปริมาณสูง อาจมีผลต่อการหดตัวของมดลูก ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อการแท้งบุตรได้ ในหญิงตั้งครรภ์ และยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ ถึงความปลอดภัย ในหญิงให้นมบุตร
  • เด็กเล็ก ยังไม่มีข้อมูลวิจัยที่เพียงพอ เกี่ยวกับความปลอดภัย ของการใช้สารสกัดมะระขี้นกในเด็ก โดยเฉพาะในเด็ก ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย
  • ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเป็นปกติ ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะมะระขี้นกสามารถลดน้ำตาลในเลือดลงได้อีก ซึ่งอาจเกิดอาการหน้ามืด มือสั่น หรือเป็นลมได้
  • ผลข้างเคียง ทางระบบทางเดินอาหาร การรับประทานมะระขี้นก ในปริมาณมาก หรือในรูปแบบสกัดเข้มข้น อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่นปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ หรืออาเจียน
  • การใช้ร่วมกับยาลดไขมัน หรือยาละลายลิ่มเลือด มีบางรายงานที่ระบุว่ามะระขี้นก อาจมีผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด และส่งผลต่อการทำงาน ของยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin

ที่มา: รู้จัก “มะระขี้นก” หวานเป็นลม ขมเป็นยา สรรพคุณสมุนไพรไทย [2]

สรุป มะระขี้นกส่งผลต่อน้ำตาลในเลือด

มะระขี้นกไม่ใช่เพียงพืชพื้นบ้านที่มีรสขม แต่เป็นแหล่งสารออกฤทธิ์ ที่มีศักยภาพ ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในรูปแบบของอาหาร และอาหารเสริม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลระดับน้ำตาลในเลือดในระยะยาวอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ควรใช้ควบคู่กับการควบคุมอาหาร

มะระไม่ควรกินคู่กับอะไร?

การรับประทานมะระขี้นก ควรระมัดระวังในการรับประทานร่วมกับยารักษาโรคเบาหวาน เช่นอินซูลิน เนื่องจากมะระขี้นก มีสรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือด การรับประทานร่วมกัน อาจเสริมฤทธิ์กัน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ปวดศีรษะ สายตาพร่า เหงื่อออกมาก และอ่อนเพลียได้

ดังนั้น ผู้ที่ใช้ยารักษาโรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะระขี้นกร่วมด้วย หรือปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทาน เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป [3]

ใครที่ควรรับประทานสกัดมะระขี้นก?

  • ผู้ที่มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ (Pre-diabetes) ผู้ที่ตรวจพบว่าระดับน้ำตาลในเลือด อยู่ในเกณฑ์เสี่ยง แต่ยังไม่เป็นเบาหวาน สามารถใช้ สารสกัด มะระขี้นก เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ลดความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
  • ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 โดยเฉพาะผู้ที่ยังควบคุมอาการด้วยการรับประทานยา สามารถใช้สารสกัดมะระขี้นกเสริม เพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • ผู้ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ภาวะนี้มักเกิดในผู้ที่มีไขมันสะสม บริเวณหน้าท้อง หรือมีน้ำหนักเกิน สารสกัดมะระขี้นกช่วยเพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการ ควบคุมน้ำหนัก และดูแลระบบเผาผลาญ มะระขี้นกช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และไขมันสะสมในตับ จึงอาจช่วยควบคุมความอยากอาหาร และส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญพลังงาน เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน มีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป การดูแลตัวเองตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการ ด้วยสมุนไพรธรรมชาติ เช่นมะระขี้นก อาจช่วยชะลอ หรือป้องกันโรคในระยะยาว
  • ผู้ที่ต้องการดูแลตับ และลดไขมันในเลือด มีงานวิจัยสนับสนุนว่า สารสกัดมะระขี้นกช่วยลดไขมันสะสมในตับ และลดระดับไขมันบางชนิดในเลือด จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ หรือไขมันในเลือดสูงเล็กน้อย
Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง