สารสกัดเมล็ดองุ่น Antioxidant มากกว่าวิตามินซีและอี

สารสกัดเมล็ดองุ่น

สารสกัดเมล็ดองุ่น เป็นหนึ่งในส่วนผสม ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการสุขภาพ และความงาม ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ตั้งแต่การต้านอนุมูลอิสระ ไปจนถึงการเสริมสร้างสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด ในบทความนี้ เราจะสำรวจรายละเอียด เกี่ยวกับสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ทั้งคุณประโยชน์หลายด้าน วิธีการใช้ และข้อควรระวัง

Grape Seed สารสกัดเมล็ดองุ่น คืออะไร

สารสกัดเมล็ดองุ่น

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น คือสารสกัด ที่ได้จากเมล็ดขององุ่น ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ดังนี้

  • โพลีฟีนอล เป็นกลุ่มสารประกอบทางเคมี มีคุณสมบัติ Antioxidants ที่ช่วยปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ประโยชน์ของโพลีฟีนอล ช่วยลดการอักเสบ ในร่างกาย ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และลดความเสี่ยง ต่อโรคมะเร็ง
  • โปรแอนโทไซยานิดิน เป็นสารในกลุ่ม Flavonoids มีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระความเข้มข้นสูง  ดีกว่าวิตามินซีและอี เสริมสร้างคอลลาเจน Elastin ในผิวหนัง ปกป้องเซลล์จากรังสี UV ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ปรับสมดุลการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต ป้องกันเส้นเลือดขอด และบำรุงดวงตา

เกรปซีดหรือ สารสกัดเมล็ดองุ่น ช่วยอะไร

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีสารสำคัญคือ (OPCs) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง คุณประโยชน์ของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น มีดังนี้

  • สารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ: OPCs มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ซึ่งสูงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า
    เสริมสร้างคอลลาเจน: ช่วยป้องกันการทำลายคอลลาเจนและ Elastin ในผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง และลดริ้วรอย
  • บำรุงหัวใจ และหลอดเลือด: ช่วยลดความเสี่ยง ของโรคหัวใจ และหลอดเลือด โดยการยับยั้งการเกาะตัวของคอเลสเตอรอล ที่ผนังหลอดเลือด และเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
  • ลดความดันโลหิต: มีการศึกษาแสดงว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่น สามารถช่วยลดความดันโลหิต ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงได้
  • ป้องกันการเสื่อม ของดวงตา: ช่วยป้องกันการเสื่อมของดวงตา เช่นโรคต้อกระจก และโรคจอประสาทตาเสื่อม
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ช่วยลดอาการภูมิแพ้ และหอบหืด โดยมีคุณสมบัติในการต้านสาร Histamine
  • ป้องกันมะเร็งผิวหนัง: มีการศึกษาแสดงว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง โดยลดผลกระทบจากรังสี UV
  • บำรุงตับ: ช่วยปกป้องตับจากสารพิษ และลดการอักเสบของตับ
  • สมานแผล: ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น โดยส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่

ที่มา: สารสกัดจากเมล็ดองุ่น งานวิจัยและสรรพคุณ [1]

ปริมาณการใช้สารสกัดเมล็ดองุ่น

รับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ควรทานวันละ 100–300 มิลลิกรัม เพื่อเสริมสุขภาพทั่วไป และต้านอนุมูลอิสระ ควรกินพร้อมอาหาร หรือหลังอาหาร เพื่อเพิ่มการดูดซึม และลดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร เก็บผลิตภัณฑ์ไว้ในที่แห้งและเย็น ห่างจากแสงแดด เพื่อรักษาคุณภาพของสารอาหาร

สารสกัดเมล็ดองุ่นสามารถรับประทานคู่กับ คอลลาเจนไดเปปไทด์ เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้นของผิว หรือทานคู่กับ เซราไมด์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เสริมเกราะป้องกันผิว ลดความแห้งกร้าน

สารสกัดเมล็ดองุ่น เวลาที่เหมาะสม กินตอนไหน

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำ เวลาที่เหมาะสมในการรับประทาน แนะนำให้รับประทานในตอนเช้า เพื่อให้สารต้านอนุมูลอิสระทำงานตลอดทั้งวัน สามารถรับประทานพร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาท้องผูก การดูดซึมสารอาหาร สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจลดลง [2]

การกินเมล็ดองุ่นอันตรายไหม

เมล็ดองุ่นสามารถรับประทานได้ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นโพลีฟีนอล และโปรแอนโทไซยานิดิน ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด แต่การรับประทานเมล็ดองุ่นสด เพื่อให้ได้รับสารสกัดในปริมาณ 100 มิลลิกรัมอาจเป็นเรื่องยาก

จากการศึกษาพบว่าเมล็ดองุ่น มีปริมาณสารโปรแอนโทไซยานิดิน ประมาณ 1.61 มิลลิกรัมต่อกรัม ของน้ำหนักแห้ง หากต้องการได้รับสารโปรแอนโทไซยานิดิน 100 มิลลิกรัมจากเมล็ดองุ่น จะต้องบริโภคเมล็ดองุ่นแห้งประมาณ 62 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่มาก และอาจไม่สะดวกในการบริโภค

และการรับประทานเมล็ดองุ่นสด ในปริมาณมาก อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้น เนื่องจากเมล็ดมีความแข็งและย่อยยาก ดังนั้นควรเคี้ยวให้ละเอียด หรือเพื่อความสะดวก และประสิทธิภาพ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในรูปแบบแคปซูลหรือเม็ด ซึ่งมีการระบุปริมาณที่ชัดเจน จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า [3]

ข้อควรระวัง สารสกัดเมล็ดองุ่น ผลข้างเคียง

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่การใช้ควรระมัดระวัง และทราบถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

  • การแข็งตัวของเลือด: สารสกัดจากเมล็ดองุ่น อาจชะลอการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดหยุดไหลช้า
  • การใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ผู้ที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด ไม่ควรรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
  • การผ่าตัดหรือทำฟัน: ควรหยุดรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัดหรือทำฟัน เนื่องจากอาจทำให้เลือดออกง่าย และหยุดไหลยาก
  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร: ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารสกัดจากเมล็ดองุ่น เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยที่เพียงพอ
  • ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น: อาจมีอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ คันหนังศีรษะ ผื่นขึ้น มีอาการพะอืดพะอม อาการคัน ท้องไส้ปั่นป่วน หรือท้องร่วงได้

สรุป สารสกัดเมล็ดองุ่น ปกป้องหัวใจ บำรุงผิว

สารสกัดจากเมล็ดองุ่นเป็นทางเลือกที่ดี ในการเสริมสร้างสุขภาพแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องหัวใจ บำรุงผิว หรือเพิ่มภูมิคุ้มกัน ด้วยคุณประโยชน์ในหลายด้าน ทำให้สารสกัดนี้ได้รับความนิยม หากกำลังมองหาอาหารเสริม ที่ช่วยดูแลร่างกายแบบครบวงจร สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจเป็นคำตอบที่ดี

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง