สารสกัดเซจ ช่วยอะไร ด้านฮอร์โมนและวัยทอง

สารสกัดเซจ ช่วยอะไร

สารสกัดเซจ ช่วยอะไร สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จัก กับพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าอย่างเซจ ซึ่งถูกใช้แพร่หลายในทั้งอาหาร และการดูแลสุขภาพมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เริ่มเข้าสู่วัยกลางคน และวัยทอง สมุนไพรชนิดนี้แฝงด้วยคุณประโยชน์ต่อระบบร่างกาย ทั้งในด้านสมอง ฮอร์โมน และระบบย่อยอาหาร

  • สารที่สำคัญในเซจ
  • สารสกัดเซจ ช่วยอะไร
  • ผลข้างเคียงการใช้สารสกัดเซจ

ความเป็นมา ของสมุนไพรเซจ

สารสกัดเซจ ช่วยอะไร

ในยุคโบราณ ชาวกรีกและโรมันถือว่าเซจเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ และใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการรักษาโรค เช่นการลดไข้ บรรเทาอาการหวัด และอาการของระบบย่อยอาหาร แพทย์ชื่อดังอย่าง Hippocrates ใช้เซจในการส่งเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้สูงวัย

ในยุคกลาง เซจได้รับความนิยมอย่างมาก ในยุโรปตะวันตก โดยเป็นหนึ่งในพืชหลักใน สวนสมุนไพร monastic gardens ใช้รักษาโรคต่างๆ และเสริมภูมิคุ้มกัน ในแพทย์แผนจีน เซจถูกใช้เป็นส่วนประกอบ ในการปรับสมดุลพลังงานภายใน และบำรุงไต

ในอายุรเวท เซจมีบทบาท ในการกระตุ้นการย่อยอาหาร ลดอาการแน่นท้อง และเป็นยาเย็นลดไข้ ในยุโรปยุคเรอเนสซองส์ มีคำกล่าว เชื่อว่าเซจช่วยยืดอายุ และรักษาได้เกือบทุกโรค

สารที่สำคัญในเซจ

  • Thujone เป็นสารประกอบประเภท monoterpene ketone มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท พบมากใน Salvia officinalis และ Artemisia absinthium
  • Rosmarinic Acid เป็นสารโพลีฟีนอล ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเสียหาย จากอนุมูลอิสระ
  • Carnosic Acid และ Carnosol พบในพืชตระกูล Lamiaceae เช่นโรสแมรี่ และเซจ มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมความแข็งแรงของระบบประสาท และสมอง
  • Flavonoids (เช่น Luteolin และ Apigenin) มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ช่วยปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย บางชนิดมีฤทธิ์ เลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจนอ่อนๆ
  • Essential Oils (น้ำมันหอมระเหย) ประกอบด้วย Camphor ให้กลิ่นหอมเย็น มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย 1,8-Cineole (Eucalyptol) ใช้บรรเทาอาการทางเดินหายใจ Borneol ต้านจุลชีพ และต้านการอักเสบ Tannins สารฝาดสมาน มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และช่วยห้ามเลือดในแผลเล็กๆ

ประโยชน์ สารสกัดเซจ ช่วยอะไร

  • ช่วย ปรับสมดุลฮอร์โมน วัยทอง ในช่วงวัยทองผู้หญิงมักประสบปัญหา ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกกลางคืน อารมณ์แปรปรวน เซจมีสารที่มีคุณสมบัติ เสมือนไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ งานวิจัยในยุโรป ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ที่ทานสารสกัดเซจต่อเนื่อง 8-12 สัปดาห์ มีอาการร้อนวูบวาบลดลง
  • สนับสนุนการทำงานของสมอง และความจำ เซจถูกใช้ในการแพทย์โบราณ เพื่อกระตุ้นความจำ สมาธิ ปัจจุบันมีงานวิจัยยืนยันว่า สารสำคัญในเซจ มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ acetylcholinesterase ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำ ป้องกันการเสื่อมของระบบประสาท โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีแนวโน้มเป็นอัลไซเมอร์
  • ต้านอนุมูลอิสระ และการอักเสบ เซจเป็นหนึ่งในสมุนไพร ที่มีค่าความสามารถ ในการต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นโรคหัวใจ มะเร็ง และเบาหวาน นอกจากนี้ ยังช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ และบรรเทาอาการเจ็บคอ หรือโรคเหงือก
  • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีงานวิจัยพบว่า สารสกัดเซจ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มความไว ของอินซูลิน จึงเหมาะกับผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลเป็นพิเศษ
  • บรรเทาอาการท้องอืด แน่นท้อง และส่งเสริมการย่อย ในตำรับยาแผนโบราณ เซจถูกใช้เพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย และช่วยบรรเทาอาการแน่นท้อง ท้องอืด หรือระบบย่อยอาหารทำงานช้า

ที่มา: 12 Health Benefits and Uses of Sage [1]

ผลข้างเคียงจากการใช้สารสกัดเซจ

  • อาการทางระบบประสาท: การบริโภคเซจในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการชัก และส่งผลเสีย ต่อระบบประสาทส่วนกลาง
  • ผลกระทบต่อตับ: สาร Thujone ในเซจ อาจเป็นพิษต่อตับ หากบริโภคในปริมาณสูง หรือเป็นเวลานาน
  • อาการทางเดินอาหาร: บางคนอาจประสบกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง หลังจากการบริโภคเซจ
  • ผลกระทบต่อฮอร์โมน: เซจอาจมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งอาจไม่เหมาะ สำหรับผู้ที่มีภาวะสุขภาพ ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน

ที่มา: Sage – Uses, Side Effects, and More [2]

รูปแบบอาหารเสริมสารสกัดเซจ

  • สารสกัดเซจในรูปแบบแคปซูล หรือเม็ด เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ให้ปริมาณสารสำคัญ ที่แม่นยำ มักใช้สารสกัดเข้มข้นมาตรฐานเช่น Rosmarinic acid หรือ thujone-controlled extractเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสุขภาพประจำวัน เช่นลดอาการวัยทอง หรือบำรุงความจำ
  • ชาเซจ (Sage Tea) ใช้ใบเซจแห้ง ชงกับน้ำร้อน ให้สาระสำคัญ ในระดับที่อ่อนโยนกว่าแบบแคปซูล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลระบบย่อยอาหาร หรือผ่อนคลายก่อนนอน
  • ผงเซจแบบผสม ในสูตรสมุนไพร มักพบในผลิตภัณฑ์ที่รวมสมุนไพรหลายชนิด เช่นฟีโตเอสโตรเจน หรือสมุนไพรดูแลวัยทอง หรือใช้เป็นส่วนผสมร่วมกับแบล็กโคฮอช ซอยไอโซฟลาโวน ฯลฯ
  • น้ำมันหอมระเหยเซจ (Sage Essential Oil) ใช้ภายนอก เช่นสูดดม นวด หรือใช้ใน Aromatherapy ห้ามรับประทานโดยตรง น้ำมันหอมระเหยเซจช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ คลายเครียด และกระตุ้นระบบประสาทเบาๆ

ข้อควรระวังการใช้เซจ

  • ควรควบคุมปริมาณสาร Thujone เพราะว่าสาร Thujone มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท และอาจก่อให้เกิดอาการชัก หรือเป็นพิษต่อตับ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่ระบุว่าผ่านการควบคุมปริมาณแล้ว
  • หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร เซจอาจกระตุ้นการหดตัวของมดลูก หรือยับยั้งการผลิตน้ำนม
  • ผู้ป่วยโรคลมชัก หรือระบบประสาทผิดปกติ Thujone อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการชัก
  • ผู้ที่มีภาวะไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่นผู้ที่เคยมีประวัติมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เซจอาจมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน (phytoestrogen)
  • ผู้ป่วยเบาหวาน เซจอาจลดน้ำตาลในเลือด ควรติดตามระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด เมื่อใช้ร่วมกับยาลดน้ำตาล
  • ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดใช้เซจอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ ต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือด และยาสลบ

สรุปแล้ว สารสกัดเซจ ช่วยอะไร

สารสกัดเซจคืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ในกลุ่มอาหารเสริมสำหรับผู้หญิงวัยทอง ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน บรรเทาอาการร้อนวูบวาบ ส่งเสริมสมาธิ และช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบทบาท ในด้านสุขภาพทั่วไป เช่นลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

สารสกัดเซจเหมาะกับใคร?

  • ผู้หญิงวัยทอง สนับสนุนสมดุลฮอร์โมนโดยไม่ใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการทางเลือกจากธรรมชาติแทนฮอร์โมนทดแทน (HRT)
  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องความจำ หรือสมาธิ เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการเสริมสมรรถภาพทางสมอง
  • ผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหาร เหมาะกับผู้ที่ระบบย่อยอาหารทำงานช้า หรือมีกรดเกิน
  • ผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน และต้านการอักเสบ เหมาะกับผู้ที่อ่อนเพลียง่าย หรืออยู่ในช่วงพักฟื้น
  • ผู้ที่มีปัญหาช่องปาก และเหงือก เซจมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ลดกลิ่นปาก และอาการอักเสบของเหงือก

ใครควรหลีกเลี่ยงสารสกัดเซจ?

  • หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร สารในเซจบางสายพันธุ์ อาจกระตุ้นการมีประจำเดือน และเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งบุตร นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่าเซจอาจลดการผลิตน้ำนม ในหญิงให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีภาวะเบาหวาน เซจอาจลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับยาลดน้ำตาลในเลือด
  • ผู้ที่มีภาวะไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน เซจบางสายพันธุ์ อาจมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ผู้ที่มีภาวะสุขภาพที่ไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน ควรหลีกเลี่ยงการใช้เซจ
  • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หรือต่ำ เซจอาจมีผลต่อความดันโลหิตโดย Spanish sage อาจเพิ่มความดันโลหิตในบางคนที่มีความดันโลหิตสูง ขณะที่ common sage (Salvia officinalis) อาจลดความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบประสาท เซจอาจกระตุ้นการชัก ผู้ที่มีภาวะโรคลมชัก หรือความผิดปกติของระบบประสาท ควรหลีกเลี่ยงการใช้เซจ ในปริมาณที่สูง หรือใช้เป็นเวลานาน
  • ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด เซจอาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจรบกวนการควบคุมระดับน้ำตาล ในระหว่างการผ่าตัด และหลังการผ่าตัด

ที่มา: Sage [3]

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง