สารสกัดขิง ช่วยการย่อยอาหาร ป้องกันโรคมะเร็ง

สารสกัดขิง

สารสกัดขิง เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยจากธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ในวงการสุขภาพอย่างยาวนาน ทั้งในตำรับยาโบราณ และในผลิตภัณฑ์ทันสมัย ที่เราพบเห็นในปัจจุบัน ขิงเป็นพืชสมุนไพร ที่มีคุณค่า ไม่เพียงแค่ในครัวเรือน แต่ยังครอบคลุมถึงการแพทย์ทางเลือก

สารสกัดขิง Gingerol และ Shogaol คืออะไร

สารสกัดขิง

สารสกัดจากขิง (Ginger Extract) คือผลิตภัณฑ์ ที่ได้จากการสกัดส่วนสำคัญของขิง (Zingiber officinale) ซึ่งเป็นพืชสมุนไพร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และการรักษา โดยกระบวนการสกัด จะมุ่งเน้นการดึงสารออกฤทธิ์สำคัญ เช่นจินเจอรอล และโชกาออล ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • Gingerol (จินเจอรอล) เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ในขิงสด มีลักษณะเป็นสารฟีนอล (Phenolic compound) ที่มีรสเผ็ดเฉพาะตัว มีคุณสมบัติเด่นในด้านการ ลดการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคมะเร็ง กระตุ้นการย่อยอาหาร บรรเทาอาการปวดข้อ และกล้ามเนื้อ
  • Shogaol (โชกาออล) เกิดจากการเปลี่ยนโครงสร้าง ของจินเจอรอล เมื่อขิงถูกทำให้แห้ง หรือผ่านความร้อน มีฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่เข้มข้นกว่าจินเจอรอล โดยเฉพาะในด้านการ ต้านการอักเสบ และลดความเจ็บปวด ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคข้ออักเสบ หรืออาการปวดเรื้อรัง ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์

คุณสมบัติที่โดดเด่นของ สารสกัดขิง

สารสกัดจากขิง ประกอบด้วยสารสำคัญหลายชนิด ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ทางชีวภาพที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ เช่นวิตามินบี วิตามินซี แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของร่างกายในหลายด้าน สารสกัดจากขิงมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้

  • สารสกัดขิงส่งเสริมการย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
    ป้องกันโรคมะเร็ง ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ สารสกัดจากขิงอาจช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิดมะเร็งบางชนิด เช่นมะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านม
  • ลดการอักเสบ จินเจอรอลในสารสกัดจากขิง มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคเรื้อรัง เช่นโรคข้ออักเสบ และโรคหัวใจ
  • บรรเทาอาการคลื่นไส้ สารสกัดจากขิง มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีอาการเมารถ เมาเรือ
  • ลดระดับน้ำตาลในเลือด มีงานวิจัยที่ชี้ว่า สารสกัดจากขิงอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และปรับปรุงความไวของอินซูลิน ในผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2

วิธีรับประทาน สารสกัดขิง

การบริโภคสารสกัดจากขิง ต้องคำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสม และช่วงเวลา ที่ช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ปริมาณที่แนะนำ สารสกัดจากขิง ในรูปแบบแคปซูลหรือผง: ปริมาณที่เหมาะสมคือ 250-500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยอาจแบ่งรับประทานเป็น 1-2 ครั้ง
  • หากเป็นขิงสด: ปริมาณที่แนะนำคือ 1-2 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 1-2 ชิ้นขนาดเท่าหัวแม่มือ
  • ช่วงเวลาก่อนอาหาร: เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการคลื่นไส้ หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เนื่องจากขิงช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร และลดกรดในกระเพาะอาหาร
  • ช่วงเวลาหลังอาหาร: สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด หรือลดอาการท้องอืด ควรรับประทานหลังอาหาร ประมาณ 30 นาที
  • สารสกัดจากขิงสามารถทานร่วมกับ โพรไบโอติกส์ จะช่วยปรับสมดุลลำไส้ และเสริมแบคทีเรียดี ทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น หรือทานร่วมกับ ไฟเบอร์ เพื่อเพิ่มกากใย และช่วยขับถ่าย ทำงานร่วมกับขิงในการลดท้องผูก และปรับระบบย่อยอาหารให้สมดุล

ใครห้ามกิน สารสกัดขิง อย่างเด็ดขาด

  • สารสกัดจากขิงมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ แต่การใช้ก็มีข้อควรระวัง และข้อห้าม สำหรับบางกลุ่มบุคคล ดังนี้
  • ผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ขิงมีคุณสมบัติ ในการต้านการแข็งตัวของเลือด การรับประทานขิง ร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด อาจเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดภาวะเลือดออก หรือห้อเลือดได้
  • หญิงตั้งครรภ์: มีการศึกษาที่ชี้ว่า ขิงอาจเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ และการแท้งบุตร ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคขิง หรือปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี: ขิงอาจกระตุ้นการหลั่งน้ำดี ซึ่งอาจส่งผลเสีย ต่อผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดี หรือปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ที่มา: สมุนไพรขิงกับข้อควรระวังในการรับประทาน [1]

 

ข้อควรระวังของการใช้สารสกัดขิง

  • ปริมาณการบริโภค: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แห่งสหรัฐอเมริกา แนะนำว่าไม่ควรรับประทานขิงเกิน 4 กรัมต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง ต่อระบบทางเดินอาหาร และการเกิดอาการแพ้
  • ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง: แม้ว่าขิงอาจมีประโยชน์ ต่อระบบไหลเวียนโลหิต แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
  • ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ: ขิงอาจลดระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้น ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือใช้ยาลดน้ำตาลในเลือด ควรระมัดระวัง

ที่มา: สรรพคุณขิง มีอะไรบ้าง และข้อควรระวังการบริโภค [2]

 

สารสกัดขิงช่วยลดไขมันได้จริงไหม

มีการศึกษาที่ชี้ว่า สารสกัดจากขิงมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือด เนื่องจากสารจินเจอรอล ในขิงมีฤทธิ์กระตุ้นการขับน้ำดี ช่วยย่อยอาหาร และสลายไขมัน นอกจากนี้ ขิงยังช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล จากลำไส้ และขับออกทางอุจจาระ ซึ่งส่งผลให้ลดการสะสมของไขมันในร่างกายและ ช่วยควบคุมน้ำหนัก

อย่างไรก็ตาม ควรใช้สารสกัดจากขิง ร่วมกับการรับประทานอาหารที่สมดุล และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในการลดไขมัน และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม [3]

สรุป สารสกัดขิง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ดีต่อสุขภาพ

สารสกัดจากขิงเป็นสมุนไพรธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ควรใช้อย่างระมัดระวัง และในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากขิง จะช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุด ของสมุนไพรนี้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง