วิตามิน E ยี่ห้อไหนดี ราคา พร้อมแหล่งจำหน่าย

วิตามิน E ยี่ห้อไหนดี

วิตามิน E ยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามที่เริ่มพบได้บ่อยขึ้น ในกลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพ และความงาม เพราะในยุคที่เราต้องเผชิญกับความเครียด มลภาวะ และพฤติกรรมที่เร่งรีบ วิตามินและสารอาหารเสริม จึงกลายมาเป็นทางเลือก ในการดูแลตัวเองจากภายใน หนึ่งในวิตามินที่ได้รับความสนใจก็คือวิตามินอี

  • แนะนำ วิตามิน E ยี่ห้อไหนดีจากเว็บไซต์ต่างๆ
  • ราคาวิตามิน E แต่ละยี่ห้อ
  • แหล่งซื้อวิตามิน E แต่ละยี่ห้อ

วิตามิน E ยี่ห้อไหนดี จากในหลายๆ เว็บไซต์

วิตามินอีคือสารอาหารประเภทไขมัน ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สำคัญ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุ ของความเสื่อมต่างๆ ทั้งในระดับผิวพรรณ และอวัยวะภายใน บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ลดเลือนรอยแผลเป็น เสริมระบบภูมิคุ้มกัน

วิตามิน E มีกี่ชนิด วิตามินอีมีทั้งหมด 8 ชนิด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ Tocopherols และ Tocotrienols ซึ่งแต่ละกลุ่มมี 4 รูปแบบย่อย ได้แก่ อัลฟา, เบต้า, แกมมา และเดลตา โดยอัลฟาโทโคฟีรอล เป็นรูปแบบที่ร่างกายดูดซึม และใช้ได้ดีที่สุด ซึ่งนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและบำรุงผิว

วิตามินอียี่ห้อไหนดี จากในหลายๆเว็บไซต์ มีการเปรียบเทียบกันทั้งในเรื่องของราคา ปริมาณสารสกัด ความบริสุทธิ์ และคุณภาพของแหล่งผลิต โดยบทความนี้ จะพาไปดูว่าแต่ละแบรนด์ มีจุดเด่นอย่างไร เหมาะกับใคร และควรเลือกซื้อจากที่ไหน จึงจะคุ้มค่าที่สุด

1. iHerb

Swanson

Swanson วิตามิน E-400 ขนาด 180.2 มก. (400 IU) บรรจุแคปซูลนิ่ม 60 แคปซูล คำอธิบาย สารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่จำเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมวิตามิน ให้การปกป้องจากสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อให้หัวใจและเนื้อเยื่อสำคัญแข็งแรง ต่อสู้กับอนุมูลอิสระทั่วร่างกาย เพื่อสุขภาวะโดยรวม

คุณภาพที่ได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ปี 1969 วิตามิน E ของ Swanson E-400 ช่วยปกป้องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด แต่ก็ให้ประโยชน์มากกว่านั้นมาก คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยปกป้องเนื้อเยื่อสำคัญทั่วร่างกาย จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ แคปซูลนิ่มดูดซึมสูงของเราให้วิตามิน E 180 มก. ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

ข้อมูลเฉพาะ

  • บรรจุ: 60 Capsules
  • ส่วนผสมอื่นๆ: เจลาติน, กลีเซอรีนจากผัก, น้ำบริสุทธิ์ (ปราศจากไอออน) อาจมีซัลไฟต์
  • คำเตือน สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น โปรดปรึกษาผู้ให้บริการด้านการแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์นี้หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ หากกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร รับประทานยา หรือมีโรคประจำตัว เก็บให้พ้นมือเด็ก ห้ามใช้หากซีลฉีกขาด เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ห้ามแช่เย็น
  • วิธีใช้งาน: ใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้รับประทานวันละ 1 แคปซูลพร้อมน้ำ
  • แหล่งจำหน่าย: iHerb
  • ราคา: 169.34 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568)

ที่มา: Swanson วิตามิน E-400 ขนาด 180.2 มก. [1]

2. Shopee

NOW FOODS

วิตามินอี Advanced GAMMA E Complex 300 MG 120 Softgels by NOW FOODS NOW® Advanced Gamma E Complex เป็นอาหารเสริมวิตามินอี แบบเต็มสเปกตรัม ที่มีแกมมาโทโคฟีรอล และมีโทโคฟีรอล และโทโคไตรอีนอลที่สมดุล แกมมา-โทโคฟีรอล ซึ่งอุดมสมบูรณ์มากที่สุด ในอาหารของวิตามินอี

มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากความสามารถเฉพาะตัว ในการล้างพิษ และกำจัดสายพันธุ์ไนโตรเจน ที่ทำปฏิกิริยา ซึ่งเป็นอนุมูลอิสระ รูปแบบทำลายโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์นี้ยังมีโทโคฟีรอลผสม และโทโคไตรอีนอล ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติดังต่อไปนี้ เดลต้า-โทโคฟีรอล, เบต้า-โทโคฟีรอล, แกมมา-โทโคไตรอีนอล

แอลฟา-โทโคไตรอีนอล, เดลตา-โทโคไตรอีนอล, เบตา-โทโคไตรอีนอล ไม่มีกลูเตน ปราศจากนม ปราศจากไข่ โคเชอร์ ฮาลาล ไม่ผลิตด้วยส่วนผสมของข้าวสาลี กลูเตน นม ไข่ ปลาหรือหอย ผลิตในโรงงาน GMP ที่แปรรูปส่วนผสมอื่นๆ ที่มีสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้

ข้อมูลเฉพาะ

  • บรรจุ: 120 Softgels
  • ส่วนประกอบอื่นๆ: ซอฟเจลแคปซูล เจลาตินจากวัว ปราศจาก BSE, กลีเซอรีน, น้ำ, และน้ำมันรำข้าว ประกอบด้วยถั่วเหลือง
  • ข้อควรระวัง: สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น ปรึกษาแพทย์หากตั้งครรภ์/ให้นมบุตร กำลังใช้ยา หรือมีอาการป่วย เก็บให้พ้นมือเด็ก ผลิตภัณฑ์นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงสีตามธรรมชาติ เก็บในที่แห้งและเย็นหลังจากเปิดใช้
  • วิธีใช้งาน: รับประทาน 1 ซอฟเจลทุกวัน โดยควรทานร่วมกับอาหาร เพื่อการดูดซึมที่ดีขึ้น หรือตามคำแนะนำของแพทย์
  • แหล่งจำหน่าย: Shopee
  • ราคา: 1,175 บาท ลดเหลือ 1,125 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568)

ที่มา: วิตามินอี Advanced GAMMA E Complex 300 MG [2]

3. Lazada

Blackmores

Blackmores Vitamin E บรรจุ 100 เม็ด ของแท้นำเข้า ประโยชน์ของวิตามินอี (Vitamin E) จากธรรมชาติ ช่วยปกป้องเซลล์ ของระบบหัวใจ และหลอดเลือด เซลล์สมอง เซลล์ผิวหนัง โดยวิตามินอี จะสามารถป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ และยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น

ช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ที่ไปเลี้ยงหัวใจ และป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้หลอดเลือดที่ไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันความผิดปกติ ของระบบประสาท ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคพาร์กินสันได้

การรับประทานวิตามินอี (Vitamin E) เป็นประจำ ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง ที่ต่อมลูกหมาก และเต้านม ป้องกันการแตกของเม็ดเลือด ป้องกันการอุดตันของเม็ดเลือด ต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการอักเสบ

ข้อมูลเฉพาะ

  • บรรจุ: 100 เม็ด
  • วิธีใช้งาน: รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหารมื้อใดก็ได้ ควรดื่มน้ำตามเยอะๆ
  • แหล่งจำหน่าย: Lazada
  • ราคา: 995 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568)

ที่มา: Blackmores Vitamin E บรรจุ 100 เม็ด [3]

สรุปแล้ว วิตามิน E ยี่ห้อไหนดี

หากพิจารณาเปรียบเทียบจาก ราคา ปริมาณสารออกฤทธิ์ คุณภาพสารสกัด ความปลอดภัย และแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ แบรนด์ที่โดดเด่น และคุ้มค่าที่สุดคือ Swanson Vitamin E-400 จาก iHerb เพราะให้ปริมาณวิตามินอี 400 IU (180 มก.) ต่อแคปซูล ซึ่งถือว่าเพียงพอ สำหรับการเสริมในแต่ละวัน

ด้วยราคาเพียง 169.34 บาท ต่อ 60 เม็ด หรือเฉลี่ยเพียง 2.82 บาทต่อเม็ด จึงเหมาะสำหรับการรับประทานอย่างต่อเนื่อง ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรอง และระบุส่วนผสมอย่างชัดเจน ไม่มีสารก่อภูมิแพ้รุนแรง

วิตามินอีช่วยอะไรร่างกายบ้าง?

  • ต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง และความเสื่อมของเซลล์
  • บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้าน ริ้วรอย และจุดด่างดำ
  • ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการ ของโรคผิวหนังบางประเภท เช่นผื่นแพ้ ผิวแห้ง
  • เสริมระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
  • ช่วยในการไหลเวียนของเลือด ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ลดความเสี่ยงของลิ่มเลือด และโรคหัวใจ
  • บำรุงสายตา ลดความเสื่อมของจอประสาทตา โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
  • เสริมสุขภาพผม และเล็บ ลดผมร่วง ผมแห้งแตกปลาย และช่วยให้เล็บแข็งแรงขึ้น

อาจช่วยเรื่องฮอร์โมน และการเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะในผู้หญิง ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและส่งเสริมการทำงานของระบบสืบพันธุ์

วิตามินอีควรทานร่วมกับอะไร?

  • ไขมันดี เช่นน้ำมันมะกอก avocado ถั่ว วิตามินอีละลายในไขมัน ควรทานร่วมกับอาหารที่มีไขมันดี เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้เต็มที่
  • Vitamin C ช่วยเสริมฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และทำงานร่วมกันในการชะลอความเสื่อมของเซลล์
  • Selenium แร่ธาตุที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของวิตามินอี ในกระบวนการปกป้องเซลล์
  • คอลลาเจน วิตามินอีช่วยลดการสลายตัวของคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์ยาวนานขึ้น
  • CoQ10 เสริมการทำงานของวิตามินอี ในการบำรุงหัวใจ และชะลอความชรา ในระดับเซลล์

วิตามินอีมีผลเสียอะไรบ้าง?

  • เสี่ยงเลือดออกผิดปกติ วิตามินอีมีผลในการต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือด หากทานมากเกินไป อาจเสี่ยงเลือดออกง่าย หรือช้ำง่าย
  • คลื่นไส้ เวียนศีรษะ หรือปวดหัว อาการไม่พึงประสงค์ เกี่ยวกับระบบประสาท พบได้หากรับเกินขนาดต่อเนื่อง
  • อาจรบกวนการดูดซึมของวิตามินอื่น เช่นวิตามินเค ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด
  • อาจกระทบกับยาบางชนิด เช่นยาต้านการแข็งตัวของเลือด (warfarin) หรือยาละลายลิ่มเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ร่วมกัน
  • ไม่เหมาะกับคนบางกลุ่ม ผู้ป่วยโรคตับ ไต หรือคนที่ต้องรับการผ่าตัดเร็วๆนี้ ควรหลีกเลี่ยง หรือลดขนาดวิตามินอี
Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง