การทาน วิตามิน อาหารเสริม จำเป็นไหม

วิตามิน อาหารเสริม จำเป็นไหม

วิตามิน อาหารเสริม จำเป็นไหม ในยุคที่การดูแลสุขภาพ เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ผู้คนหันมาสนใจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ พบทั่วไปตามท้องตลาด ทั้งแบบเม็ด แคปซูล ผงชงดื่ม หรือแม้แต่ในรูปแบบกัมมี่ ที่รับประทานง่าย คำถามที่ตามมาคือ เราจำเป็นต้องกินวิตามินหรืออาหารเสริมเหล่านี้ไหม

  • วิตามินสารอาหารเสริม คืออะไร?
  • วิตามินทานเสริม จำเป็นแค่ไหน?
  • ประโยชน์ของวิตามินอาหารเสริม

วิตามินสารอาหารเสริม คืออะไร?

วิตามินและอาหารเสริมคือผลิตภัณฑ์ ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสารอาหาร ที่อาจขาดในอาหารประจำวันที่รับประทาน เช่นวิตามิน ธาตุอาหาร สมุนไพร กรดอะมิโน โพรไบโอติก และสารสกัดจากพืชหรือสัตว์ โดยมาในรูปแบบต่างๆ เช่นเม็ด แคปซูล ผง หรือของเหลว ซึ่งไม่ได้ถูกจัดให้เป็นอาหารหลักหรือยา

โดยทั่วไปไม่ผ่านการตรวจสอบ จากองค์การ FDA ก่อนจำหน่าย ผู้ผลิตมีหน้าที่รับรองความปลอดภัยเอง และสินค้าจะถูกควบคุมเฉพาะ เมื่อมีปัญหาหรือร้องเรียนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำนักงานอาหารและยาในสหรัฐอเมริกา กำหนดว่าการเรียกชื่อผลิตภัณฑ์ว่าอาหารเสริม ต้องมีข้อมูลว่าเป็น dietary supplement

วิตามินและอาหารเสริมมีบทบาทเสริม ในกรณีที่ร่างกายอาจไม่รับสารอาหารเพียงพอ จากการกินปกติ แต่อย่างไรก็ดี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ใช่อาหารหลัก และไม่ใช่ยารักษาโรค หากต้องการใช้ควรพิจารณาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ [1]

ใครบ้างที่ควรทานวิตามิน อาหารเสริม?

  • ผู้สูงอายุ: มักดูดซึมวิตามิน B12 หรือแคลเซียมได้น้อยลง
  • ผู้ตั้งครรภ์: ต้องการกรดโฟลิก และธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น
  • คนกินมังสวิรัติ หรือวีแกน: อาจขาด วิตามิน B12 และโอเมก้า-3 จากสัตว์
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง: เช่นเบาหวาน หรือโรคไต อาจมีข้อจำกัด ในการกินอาหารบางประเภท
  • คนที่รับประทานอาหารไม่หลากหลาย: เช่นกินอาหารฟาสต์ฟู้ดบ่อย

วิตามินอะไร ที่คนไทยมักขาด?

วิตามินดี คือวิตามินที่คนไทยมักขาด แม้ประเทศไทยจะมีแสงแดดตลอดปี แต่กลับมีคนไทยถึงเกือบครึ่งหนึ่ง ที่มีระดับวิตามินดีต่ำกว่ามาตรฐานโดยไม่รู้ตัว สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรม หลีกเลี่ยงแดด การทาครีมกันแดดตลอดเวลา หรือมีสีผิวเข้ม ซึ่งดูดซึมแสง UV ได้น้อย

ส่งผลให้ผิวหนังผลิตวิตามินดีไม่เพียงพอ แม้จะได้รับแสงแดดอยู่บ้างก็ตาม การไม่ตรวจระดับวิตามินดีในเลือด ทำให้หลายคนไม่ทราบ ว่าตนอยู่ในภาวะเสี่ยง วิตามินดีมีบทบาทสำคัญมากกว่าที่คิด ไม่เพียงแค่ช่วยดูดซึมแคลเซียม เพื่อสร้างกระดูกที่แข็งแรง แต่ยังเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน การทำงานของระบบประสาท

และการควบคุมอารมณ์ มีงานวิจัยที่ชี้ว่า ผู้ที่มีระดับวิตามินดีต่ำ อาจมีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจสูงขึ้น และอาจมีภาวะซึมเศร้าได้มากกว่า คนที่มีระดับวิตามินดีเพียงพอ สะท้อนให้เห็นว่า วิตามินดีไม่ได้มีผลแค่ต่อกระดูกเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยรวม [2]

วิตามินทานเสริม จำเป็นแค่ไหน?

สำหรับคนที่มีสุขภาพดี และรับประทานอาหารอย่างหลากหลายครบถ้วน การเสริมวิตามิน ในชีวิตประจำวัน มักไม่มีความจำเป็น หลายงานวิจัย ไม่พบหลักฐานว่าอาหารเสริม ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ มะเร็ง หรือช่วยให้อายุยืนขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

จึงมีคำแนะนำว่า การเน้นรับประทานอาหารสดจากธรรมชาติให้หลากหลาย ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการได้รับสารอาหารครบถ้วน อย่างไรก็ตาม มีบางกลุ่ม ที่อาจจำเป็นต้องได้รับอาหารเสริม เช่นผู้สูงอายุที่ดูดซึมวิตามินได้ลดลง ผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่กระทบการดูดซึม ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ หรือผู้ที่ได้รับแสงแดดน้อย

ซึ่งอาจขาดวิตามิน B12 หรือวิตามิน D ในกรณีเหล่านี้ อาหารเสริมช่วยให้ร่างกายทำงานได้สมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณี ที่ไม่สามารถแก้ด้วยอาหารปกติ และควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ผู้เชี่ยวชาญจาก Harvard แนะนำให้ใช้เฉพาะเมื่อจำเป็น และควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเริ่มทานอาหารเสริมใดๆ [3]

วิตามิน อาหารเสริม มีประโยชน์ยังไง?

  • ช่วยป้องกันภาวะขาดสารอาหาร ในผู้ที่รับประทานไม่เพียงพอ ในบางกรณี เช่นเด็กที่กินยาก ผู้สูงอายุที่เบื่ออาหาร หรือผู้ป่วยเรื้อรัง อาจรับประทานอาหารไม่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ทำให้ขาดวิตามินหรือแร่ธาตุสำคัญ วิตามินและอาหารเสริม จึงสามารถช่วยเติมเต็มได้
  • สนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย หลังการเจ็บป่วยหรือผ่าตัด หลังเจ็บป่วยหรือผ่าตัด ร่างกายต้องการสารอาหารมากขึ้นเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน และเสริมสร้างพลังงาน วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามิน C ธาตุเหล็กและ Zinc
  • เพิ่มพลังงาน และลดความเมื่อยล้า ในผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมอาหาร ในผู้ที่มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เช่นโรคลำไส้แปรปรวน หรือผู้ที่เคยผ่าตัดบางส่วนของลำไส้ อาจดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่
  • ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ วิตามินบางชนิด เช่นวิตามิน C, D และแร่ธาตุอย่าง Zinc และ Selenium มีบทบาทในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกาย โดยช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ชะลอความเสื่อมของเซลล์ จากสารต้านอนุมูลอิสระ ในกลุ่มวิตามิน C, E, Zinc อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหนึ่งของความเสื่อมเซลล์ และโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นมะเร็ง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ

ทานอาหารเสริม มีข้อควรระวังอะไร?

  • วิตามิน A, D, E และ K เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน วิตามินกลุ่มนี้จะถูกเก็บสะสม ไว้ในร่างกายได้ โดยเฉพาะในตับ และเนื้อเยื่อไขมัน หากรับประทาน เกินความต้องการของร่างกาย เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดภาวะพิษสะสมได้ อาจทำให้คลื่นไส้ เวียนศีรษะ กระดูกเปราะ หรือส่งผลต่อไต และหัวใจ
  • ธาตุเหล็กเกินความจำเป็น อาจทำให้ท้องผูก หรือสะสมในตับ แม้ธาตุเหล็กจะสำคัญ ต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง แต่ถ้าได้รับในปริมาณที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่มีภาวะโลหิตจาง อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก คลื่นไส้ หรือมีการสะสมของธาตุเหล็กในตับ และอวัยวะอื่น
  • วิตามิน B6 ในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการชา ตามปลายมือปลายเท้า การใช้วิตามิน B6 มากกว่า 100 มก./วัน ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการชา หรืออ่อนแรง ที่มือและเท้า ซึ่งหากไม่หยุดใช้ อาการอาจลุกลามหรือกลายเป็นภาวะถาวรได้
  • อาหารเสริมบางชนิด อาจรบกวนการทำงานของยารักษาโรค เช่นวิตามิน K สามารถลดประสิทธิภาพของยาวาร์ฟาริน แคลเซียมอาจรบกวนการดูดซึมยาปฏิชีวนะ และสมุนไพรอย่างโสม หรือแปะก๊วย ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก เมื่อใช้ร่วมกับยา เช่นแอสไพริน ยาต้านเกล็ดเลือด

สรุปแล้ว วิตามินอาหารเสริม จำเป็นไหม

วิตามิน อาหารเสริม จำเป็นไหม

วิตามินและอาหารเสริม มีประโยชน์เมื่อใช้ถูกวิธี โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความต้องการพิเศษ หรือภาวะขาดสารอาหาร อย่างไรก็ตาม สำหรับคนทั่วไปที่มีสุขภาพดี และกินอาหารครบ 5 หมู่ การได้รับวิตามินจากอาหารธรรมชาติ ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การเสริมควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน

อาหารเสริม แทนอาหารหลักได้ไหม?

คำตอบคือไม่ได้ อาหารเสริมไม่ได้มีสารอาหารครบเหมือนในอาหารจริง อาหารที่มาจากธรรมชาติ ยังมีสารพฤกษเคมี (phytonutrients) เอนไซม์ และใยอาหาร ซึ่งไม่สามารถบรรจุในรูปแบบเม็ดได้ทั้งหมด การใช้วิตามิน ควรเป็นการเสริม ไม่ใช่การทดแทนมื้ออาหาร ที่ควรรับประทานอย่างหลากหลาย

ใช้อาหารเสริม ยังไงให้ปลอดภัย?

อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เลือกยี่ห้อที่มีมาตรฐาน อย. GMP หรือการรับรองอื่น หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่กล่าวอ้างเกินจริง เช่นรักษาโรคได้ภายใน 7 วัน เลือกตามความจำเป็น ไม่ใช้รวมหลายชนิดโดยไม่รู้ปริมาณสารแต่ละตัว หากรับประทานหลายชนิดพร้อมกัน ควรดูปริมาณสารแต่ละชนิดไม่ให้เกินขนาด

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง