
รู้ไว้ไม่เสี่ยง ผักอะไรที่มี Psoralen สูง
- Fiona
- 22 views

ผักอะไรที่มี Psoralen สูง เป็นคำถามที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะเมื่อพูดถึงสารในผัก เรามักนึกถึงเพียงสารอาหารที่มีประโยชน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พืชยังมีสารธรรมชาติอีกมากมาย ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง แม้จะมีบทบาททางธรรมชาติที่สำคัญ แต่หากได้รับในปริมาณมาก ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพได้
- โซราเลนคืออะไร?
- ข้อเสียของโซราเลน
- ผักที่มีโซราเลนสูง
สารธรรมชาติ โซราเลน คืออะไร?
โซราเลนเป็นสารธรรมชาติ ในกลุ่ม Furocoumarin ที่พบได้ในพืชบางชนิด เช่นผักชีฝรั่ง มะกรูด และมะนาว มีคุณสมบัติไวต่อแสง โดยเมื่อสัมผัสกับรังสี UVA จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ที่ส่งผลต่อเซลล์ผิวหนัง สารนี้จึงถูกนำมาใช้ ในทางการแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวดูดซับแสงได้ดีขึ้น และกระตุ้น การสร้างเม็ดสีผิว ตามธรรมชาติ
ในวงการแพทย์ผิวหนัง โซราเลนมักใช้ร่วมกับการฉายแสง UVA ในวิธีที่เรียกว่า การรักษาแบบ PUVA เพื่อบำบัดโรคสะเก็ดเงิน โรคด่างขาว และโรคผิวหนังบางชนิด โดยกลไกของโซราเลน จะช่วยลดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวที่ผิดปกติ และปรับสมดุล ของเม็ดสีในผิว ทำให้เป็นหนึ่งในวิธีการรักษา ที่ได้รับการยอมรับ (12 มีนาคม 2024) [1]
ประวัติ โซราเลน การค้นพบครั้งแรก
สารโซราเลนเป็นสารธรรมชาติในกลุ่มฟูโรคูมาริน ที่มีการใช้มานาน ตั้งแต่สมัยอียิปต์ และอินเดียโบราณ ราว 1,200–2,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยผู้คนในยุคนั้น นำพืชที่มีโซราเลนเช่น Psoralea corylifolia มาใช้รักษาโรคด่างขาว โดยให้ผู้ป่วย รับประทานสารจากพืช และออกไปสัมผัสแสงแดด เพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิว
ในยุควิทยาศาสตร์สมัยใหม่ชื่อ psoralen ถูกบันทึกไว้ครั้งแรก ในพจนานุกรม ภาษาอังกฤษปี 1933 และเริ่มมีการศึกษา คุณสมบัติทางเคมีของมัน อย่างจริงจัง ในช่วงทศวรรษ 1930–1960 นักวิทยาศาสตร์ สามารถแยกสารบริสุทธิ์จากพืช และศึกษากลไก การทำงานร่วมกับ UVA จนเกิดแนวทางการรักษาแบบ PUVA therapy (3 ตุลาคม 2025) [2]
ข้อเสียของโซราเลนมีอะไรบ้าง?
- ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น การได้รับโซราเลน ในปริมาณมาก ร่วมกับการสัมผัสแสงอาทิตย์ อาจทำให้เกิดอาการผิวไหม้ แดง หรือแสบร้อนได้ง่ายกว่าปกติ
- อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ในบางคน โซราเลนอาจทำให้เกิดผื่นคัน หรือการอักเสบของผิว โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสโดยตรง กับน้ำยาง หรือส่วนของพืช ที่มีความเข้มข้นสูง
- เสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยา ออกซิเดชันในร่างกาย เมื่อโซราเลน ได้รับแสง UV อาจกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ ซึ่งส่งผลให้เซลล์ผิว เกิดความเสียหาย หากได้รับซ้ำๆ เป็นเวลานาน
- อาจมีความเป็นพิษต่อเซลล์ เมื่อบริโภคมากเกินไป โซราเลนบางชนิด สามารถจับกับสารพันธุกรรม DNA ภายในเซลล์ได้ ซึ่งในปริมาณสูง อาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อการกลายพันธุ์ ของเซลล์
- ไม่เหมาะกับผู้มีผิวแพ้ง่าย หรือโรคผิวหนังบางประเภท ผู้ที่มีภาวะไวต่อแสง หรือโรคผิวหนังอักเสบ ควรหลีกเลี่ยง ผักที่มีโซราเลนสูง เพราะอาจทำให้อาการแย่ ลงเมื่อโดนแสงแดด
ผักที่มีโซราเลนสูงมีอะไรบ้าง?

- Parsley เป็นผักที่มีโซราเลน ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในใบสด หากรับประทานบ่อย และออกแดดทันที อาจทำให้ผิวไวต่อแสงได้ง่ายขึ้น
- Celery ส่วนลำต้น และใบ มีสารโซราเลนตามธรรมชาติ ใช้ปรุงอาหารได้ แต่ควรหลีกเลี่ยง การโดนแสงแดดจัด หลังบริโภค ในปริมาณมาก
- ผักชีลาว มีสารในกลุ่มฟูโรคูมาริน รวมถึงโซราเลน พบมากในใบ และเมล็ด มักใช้แต่งกลิ่นอาหาร แต่หากรับมากเกินไป อาจกระตุ้น ให้ผิวไวต่อแสง
- ผักตระกูลแครอท แครอทป่า มีโซราเลนในราก และใบในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในพืชป่า หรือที่ยังไม่ผ่านการปรุงสุก อาจเพิ่มความไวต่อรังสี UV เมื่อบริโภค หรือสัมผัสบ่อยๆ
ประโยชน์ของโซราเลนมีอะไรบ้าง?
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ของการรักษาด้วยแสง UVA โซราเลนทำให้ผิวหนัง ไวต่อแสงมากขึ้น เมื่อนำมาใช้ร่วมกับการฉายรังสี จะช่วยให้รังสี ซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกขึ้น และได้ผลดีกว่า การใช้แสง เพียงอย่างเดียว
- ลดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวที่ผิดปกติ ในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน โซราเลนช่วยชะลอกระบวนการสร้างเซลล์ผิว ที่เร็วกว่าปกติ ทำให้ผื่น และคราบหนาบนผิว ค่อยๆจางลง
- กระตุ้นการสร้างเม็ดสี ในผิวหนัง สำหรับผู้ที่มีโรคด่างขาว โซราเลนช่วยกระตุ้น ให้เซลล์สร้างเม็ดสี melanocytes ทำงานดีขึ้น ทำให้สีผิว กลับมาใกล้เคียงปกติ
- ช่วยรักษาโรคผิวหนังอื่นๆ การรักษาแบบ PUVA ยังใช้ได้กับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และโรคผมร่วงเป็นหย่อม เนื่องจากโซราเลน มีฤทธิ์ปรับสมดุล เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ในผิวหนัง ทำให้การอักเสบลดลง
ที่มา: Understanding Psoralens for Psoriasis (12 มิถุนายน 2024) [3]
ใครที่ควรระวังการได้รับโซราเลน?
- ผู้ที่มีผิวไวต่อแสง ผู้ที่ผิวไหม้ง่าย หรือมีประวัติแพ้แดด ควรหลีกเลี่ยง ผักที่มีโซราเลนสูง เพราะสารนี้ จะยิ่งเพิ่มความไวต่อแสง ทำให้เกิดผื่น แดง หรือรอยไหม้ได้ง่าย
- ผู้ป่วยโรคผิวหนังบางชนิด เช่นโรคด่างขาว โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เพราะโซราเลน อาจกระตุ้น ให้ผิวเกิดการอักเสบ หรือระคายเคืองมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องออกแดดจัดเป็นประจำ เช่นชาวสวน คนทำงานกลางแจ้ง หรือผู้ที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง หากรับประทาน ผักที่มีโซราเลนสูง แล้วออกแดดทันที อาจเกิดภาวะผิวไหม้แดด หรือรอยด่างได้ง่าย
- ผู้ที่มีปัญหา เกี่ยวกับตับ หรือระบบขับสารพิษ เพราะโซราเลน เป็นสารที่ต้องถูกย่อยและกำจัดโดยตับ หากตับทำงานไม่เต็มที่ อาจเกิดการสะสม ของสารนี้ได้
- สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยง การรับโซราเลน ในปริมาณมาก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยเพียงพอ เกี่ยวกับผลกระทบ ต่อทารกในครรภ์ หรือเด็กเล็ก
ผักอะไรที่มีโซราเลนสูง กล่าวโดยสรุป
ผักที่มีโซราเลนสูง ถือเป็นเรื่องที่ควรรู้ สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ เพราะแม้สารโซราเลน จะมีประโยชน์ทางการแพทย์ การได้รับจากผักบางชนิดมากเกินไป อาจทำให้ผิวไวต่อแสง และเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ผักที่มีโซราเลนสูง ได้แก่ Parsley, Celery, ผักชีลาว รวมถึง ผักตระกูลแครอทอย่าง แครอทป่า
ถ้าได้รับโซราเลนจะรักษายังไง?
หากได้รับโซราเลนมากเกินไป หรือมีอาการไวต่อแสง หลังรับประทาน ผักที่มีโซราเลนสูง ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดทันที ล้างผิวหนังด้วยน้ำสะอาด หากมีการสัมผัสน้ำมัน หรือยางจากพืช ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF สูง และหากเกิดผื่นหรืออาการแสบร้อน ควรประคบเย็น หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
ทานผักยังไงให้ปลอดภัยจากโซราเลน?
ควรเลือกกิน ในปริมาณพอเหมาะ หลีกเลี่ยงการกินผัก ที่มีโซราเลนสูง พร้อมกันหลายชนิด หรืองดการออกแดดจัดภายใน 1–2 ชั่วโมงหลังบริโภค โดยเฉพาะเมื่อกินผักสด หรือเครื่องดื่มคั้น จากพืชตระกูลส้ม และผักชีฝรั่ง การปรุงสุกช่วยลดปริมาณโซราเลนลงได้บางส่วน และควรสลับหมุนเวียน ทานผักหลากหลายชนิด
- Tags: สุขภาพ


