
ระวังไว้ก่อน ผักอะไรที่มี Oxalic acid สูง
- Fiona
- 13 views

ผักอะไรที่มี Oxalic acid สูง เป็นคำถามที่หลายคนไม่เคยสงสัย เพราะเรามักมองว่าผักทุกชนิด ล้วนดีต่อสุขภาพ แต่ความจริงแล้ว ธรรมชาติของพืช มีสารประกอบเคมี หลากหลายชนิด ที่ทั้งให้ประโยชน์ และอาจส่งผลต่อร่างกาย ซึ่งกรดออกซาลิก เป็นหนึ่งในสาร ที่พบได้ทั่วไป ในผักใบเขียวหลายชนิด
- กรดออกซาลิก คืออะไร?
- อันตรายของกรดออกซาลิก
- ผักที่มีกรดออกซาลิกสูง
สารธรรมชาติ กรดออกซาลิก คืออะไร?
กรดออกซาลิกคือกรดอินทรีย์ ตามธรรมชาติ ที่พบได้ในพืชหลายชนิด เช่นผักใบเขียว บีทรูท และถั่วบางประเภท มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว ละลายน้ำได้ และมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ในธรรมชาติ พืชสร้างกรดชนิดนี้ ขึ้นเพื่อป้องกันแมลง และปรับสมดุลแร่ธาตุภายในเซลล์ แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ กรดออกซาลิกสามารถจับกับ แคลเซียม และแร่ธาตุอื่น
ประวัติ กรดออกซาลิก การค้นพบครั้งแรก
กรดออกซาลิกถูกค้นพบครั้งแรก ในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 โดยเริ่มจากปี 1745 ที่ Herman Boerhaave สามารถแยกเกลือ จากพืชในสกุล Oxalis หรือที่รู้จักกันในชื่อ wood sorrel ต่อมาในปี 1773 François Pierre Savary นักเคมีชาวสวิส สามารถสกัดกรดออกซาลิกบริสุทธิ์ ออกจากพืชดังกล่าวได้เป็นครั้งแรก
และในปี 1776 Carl Wilhelm Scheele กับ Torbern Olof Bergman จากสวีเดน สามารถสังเคราะห์กรดออกซาลิกได้จากน้ำตาล โดยใช้กรดไนตริกเข้มข้น จากนั้นในปี 1784 Scheele ได้ยืนยันว่ากรดน้ำตาล ที่เขาผลิตขึ้นนั้น เป็นสารชนิดเดียวกัน กับกรดออกซาลิกจากธรรมชาติ
ต่อมาในปี 1787 Antoine Lavoisier และ Louis de Morveau ได้บัญญัติชื่อ Oxalic acid ขึ้นอย่างเป็นทางการ ในระบบการตั้งชื่อกรด ของยุคนั้น ส่วนในปี 1824 Friedrich Wöhler ได้ประสบความสำเร็จ ในการสังเคราะห์กรดออกซาลิก จากปฏิกิริยา ระหว่างไซยาโนเจน และแอมโมเนีย เป็นหนึ่งในการสร้างสารอินทรีย์ ขึ้นจากสารอนินทรีย์ (16 ตุลาคม 2025) [1]
อันตรายของกรดออกซาลิก คืออะไร?
- ลดการดูดซึมแร่ธาตุสำคัญ กรดออกซาลิกสามารถจับตัวกับแคลเซียม หรือเหล็กในทางเดินอาหาร ทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุเหล่านี้ได้น้อยลง แม้จะกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่นผักโขม หรือผักใบเขียวบางชนิด แต่หากมีกรดออกซาลิกมาก ก็จะทำให้ประสิทธิภาพ การดูดซึมแคลเซียมลดลง
- เพิ่มความเสี่ยงนิ่วในไต เมื่อร่างกายมีกรดออกซาลิกมากเกินไป มันจะรวมตัวกับแคลเซียม ในปัสสาวะกลายเป็น แคลเซียมออกซาเลต ซึ่งเป็นชนิดของนิ่ว ที่พบบ่อยที่สุด หากดื่มน้ำน้อย หรือมีปัสสาวะเข้มข้น จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดนิ่วในไต
- เป็นอันตรายต่อผู้มีปัญหาลำไส้ หรือการย่อยอาหาร ผู้ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ เคยผ่าตัดลำไส้ หรือมีจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล จะดูดซึมกรดออกซาลิก เข้าสู่ร่างกายมากกว่าปกติ ทำให้มีโอกาส เกิดการสะสม ของออกซาเลตในไต และเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ที่มา: Oxalate Oxalic Acid (25 ตุลาคม 2023) [2]
ผักอะไรที่มีกรดออกซาลิกสูง?

ผักที่มีกรดออกซาลิกสูงปริมาณต่อ 100 กรัม มีดังนี้
- Parsley มีกรดออกซาลิกสูงมากประมาณ 1,700 มิลลิกรัม แม้มักใช้เป็นผักโรยหน้า แต่หากรับประทานปริมาณมาก ก็อาจเพิ่มภาระต่อไตได้
- Purslane มีกรดออกซาลิกประมาณ 1,300 มิลลิกรัม เป็นผักพื้นบ้าน ที่มีรสเปรี้ยวอ่อนๆ และมีปริมาณกรดออกซาลิกสูงมาก
- ผักโขม พบได้ประมาณ 600–970 มิลลิกรัม เป็นผักยอดนิยม แต่มีกรดออกซาลิกสูง คนที่เป็นนิ่วในไตควรจำกัดปริมาณ
- Beet greens มีออกซาเลตประมาณ 600–900 มก. ซึ่งสูงกว่ารากบีทรูท จึงควรหลีกเลี่ยงการกินดิบ ในปริมาณมาก
- Swiss chard อยู่ในช่วง 500–900 มก. เป็นผักใบใหญ่ คล้ายคะน้า มีรสออกขมเล็กน้อย และมีกรดออกซาลิกสูง
- Beetroot ส่วนของราก มีกรดออกซาลิกประมาณ 870 มก. แม้จะมีประโยชน์ต่อหัวใจ แต่ควรรับประทานพอเหมาะ
ใครที่ควรระวังกรดออกซาลิก?
สำหรับผู้ที่ควรระมัดระวัง การบริโภคกรดออกซาลิก ได้แก่ผู้ป่วยโรคไต เพราะร่างกายของผู้ป่วยในกลุ่มนี้ ไม่สามารถขับสารประเภทนี้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่การตกตะกอนของ แคลเซียมออกซาเลต ภายในไต ทำให้มีความเสี่ยง ต่อการเกิดนิ่วในไต หรือภาวะไตวายเฉียบพลันมากขึ้น (19 มกราคม 2018) [3]
ทานผักให้ปลอดภัยจากกรดออกซาลิก?
ควรเลือกรับประทานผัก ที่มีกรดออกซาลิก ในระดับต่ำถึงปานกลาง เช่นบรอกโคลี ผักกาด แครอท หรือแตงกวา และหลีกเลี่ยงการกินผัก ที่มีออกซาเลตสูงซ้ำๆ เช่นผักโขม บีทรูท หรือพาร์สลีย์ในปริมาณมาก การต้ม หรือลวกผัก แล้วเทน้ำทิ้ง สามารถช่วยลดปริมาณกรดออกซาลิกได้กว่า 30–80%
นอกจากนี้ควรกินผัก ร่วมกับอาหาร ที่มีแคลเซียม เช่นเต้าหู้ งา หรือนม เพื่อให้แคลเซียม จับกับออกซาเลตในลำไส้ และลดการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับออกซาเลตส่วนเกิน และกินผักหลากหลายชนิด หมุนเวียนกัน จะปลอดภัยที่สุด
ผักอะไรที่มีกรดออกซาลิกสูง กล่าวโดยสรุป
ผักที่มีกรดออกซาลิกสูง ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัว จนเลี่ยงทุกชนิด แต่ควรรู้จักและเลือกกินอย่างพอดี เพราะสารนี้ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ที่พบได้ทั่วไปในผักใบเขียวหลายชนิด เช่นผักโขม พาร์สลีย์ หรือใบบีทรูท หากบริโภคในปริมาณพอดี ลวกหรือต้ม เพื่อลดปริมาณออกซาเลต กินคู่กับอาหารที่มีแคลเซียม และควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับออก
ได้รับกรดออกซาลิกเท่าไหร่ถึงอันตราย?
โดยทั่วไป ร่างกายสามารถรับกรดออกซาลิก ได้ในปริมาณเล็กน้อย จากอาหารโดยไม่เกิดอันตราย แต่ถ้าได้รับมากกว่า 10–15 กรัมต่อวัน อาจเป็นพิษถึงชีวิตได้ เพราะกรดออกซาลิก จะจับกับแคลเซียมในเลือด ทำให้เกิดภาวะแคลเซียมต่ำเฉียบพลัน หัวใจเต้นผิดจังหวะ และไตวายเฉียบพลันได้
ถ้าได้รับออกซาลิกมากเกิน จะรักษายังไง?
หากร่างกายได้รับกรดออกซาลิกมากเกินไป จนเกิดอาการเป็นพิษ เช่นคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เวียนศีรษะ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที การรักษาจะเน้นลดการดูดซึม แพทย์อาจให้ดื่มนม หรือรับแคลเซียม อาจต้องให้น้ำเกลือ หรือฟอกไต รักษาเน้นการดูแลตามอาการ และควบคุมสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย จนกว่าจะฟื้นตัว
- Tags: สุขภาพ


