
ผลข้างเคียง ผักอะไรที่มี Mimosine สูง
- Fiona
- 26 views

ผักอะไรที่มี Mimosine สูง เป็นคำถามที่ฟังดูน่าสงสัย และไม่คุ้นเคยสำหรับหลายคน เพราะชื่อของสารมิโมซีน ไม่ได้ถูกพูดถึงบ่อย เหมือนวิตามิน หรือแร่ธาตุ แต่สารชนิดนี้ กลับเป็นสิ่งที่ธรรมชาติซ่อนอยู่ ในพืชบางประเภท หากบริโภคมากเกินไป อาจมีผลข้างเคียงที่ควรระวัง จึงควรสนใจ ที่จะทำความรู้จักสารนี้ให้ลึกขึ้น
- มิโมซีนคืออะไร?
- อันตรายจากมิโมซีน
- ผักที่มีมิโมซีนสูง?
สารมิโมซีน คืออะไร?
มิโมซีนคือกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในพืช สารนี้มีโครงสร้าง คล้ายกับกรดอะมิโน Tyrosine แต่ไม่ถูกนำไปสร้างเป็นโปรตีนในร่างกาย มิโมซีนมีคุณสมบัติละลายน้ำได้ และมักพบมากในเมล็ด ใบ และลำต้นของพืชบางชนิด พืชสร้างสารชนิดนี้ขึ้น เพื่อใช้เป็นกลไกป้องกันตัวจากแมลง และสัตว์กินพืช
แม้มิโมซีนจะเป็นสารธรรมชาติ แต่เมื่อสิ่งมีชีวิตอื่น บริโภคเข้าไป ในปริมาณมาก อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น การยับยั้งการเจริญของเซลล์ ขนร่วง หรือส่งผลต่อระบบเผาผลาญ ในร่างกายของสัตว์ และมนุษย์ บางกรณี ปฏิกิริยานี้ เกิดจากการที่มิโมซีน สามารถรบกวนกระบวนการแบ่งเซลล์ และการสร้างดีเอ็นเอในระดับเซลล์ได้ (19 พฤษภาคม 1962) [1]
ประวัติ มิโมซีน การค้นพบครั้งแรก
มิโมซีนหรือที่เคยเรียกว่า Leucenol ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1937 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศส Marcel Mascré ซึ่งสามารถสกัดสารชนิดนี้ จากเมล็ดของ Leucaena glauca การค้นพบนี้ ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Comptes Rendus และถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการทำความเข้าใจ สารประกอบกรดอะมิโน ที่ไม่ใช่โปรตีนชนิดหนึ่ง
ซึ่งมีโครงสร้าง คล้ายกับไทโรซีน ในเวลาต่อมา นักวิทยาศาสตร์ เริ่มให้ความสนใจ ศึกษาคุณสมบัติ และผลกระทบ ของมิโมซีน ในพืชตระกูลถั่ว รวมถึงบทบาททางชีวเคมี ที่อาจเกี่ยวข้อง กับกลไกการป้องกันตัวของพืช ต่อมาในปี 1945 นักเคมีชาวอเมริกัน Roger Adams และคณะได้ศึกษาลักษณะทางเคมีของมิโมซีนอย่างละเอียด
และได้ตีพิมพ์ผลงานในวารสาร Journal of the American Chemical Society โดยยืนยันโครงสร้าง ที่มีหมู่ pyridone เป็นเอกลักษณ์ การศึกษานี้ ช่วยเปิดทางให้วงการวิทยาศาสตร์ เข้าใจกลไก ของสารในระดับโมเลกุลมากขึ้น รวมถึงผลต่อสิ่งมีชีวิต ซึ่งต่อมา ได้กลายเป็นพื้นฐาน ของการวิจัยด้านพิษวิทยา (3 กรกฎาคม 2025) [2]
อันตรายจากมิโมซีน มีอะไรบ้าง?
- ทำให้ผม และขนร่วง มิโมซีนมีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ จึงอาจทำให้เซลล์รากขน และรากผมหยุดเจริญ ส่งผลให้เกิดภาวะผมร่วง หรือขนหลุดร่วงได้ หากได้รับในปริมาณมาก หรือติดต่อกันนาน
- กระทบต่อการทำงาน ของต่อมไทรอยด์ การได้รับมิโมซีนมากเกินไป อาจไปรบกวนการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ ทำให้เกิดภาวะคอพอก หรือไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- เป็นพิษต่อระบบเลือด และตับ มิโมซีนมีคุณสมบัติ ในการจับธาตุเหล็ก ทำให้ร่างกายขาดธาตุเหล็ก ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง และอาจทำให้เอนไซม์ในตับ ทำงานผิดปกติ
- อาจเป็นพิษต่อเซลล์ มิโมซีนสามารถยับยั้ง การสังเคราะห์ดีเอ็นเอ และโปรตีนในเซลล์ ทำให้เกิดความเสียหาย ต่อเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ หากได้รับในปริมาณสูงต่อเนื่อง
ผักอะไรบ้าง ที่มีมิโมซีนสูง?

กระถิน เป็นพืชที่มีมิโมซีน สูงที่สุดในกลุ่มผัก ที่เราพบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในเมล็ด และใบอ่อน ที่มักนำมากินเป็นผักเคียง โรยส้มตำ หรือใส่ในอาหารพื้นบ้าน สารมิโมซีนในกระถิน อาจมีมากถึง 2–5% ของน้ำหนักแห้ง หากกินดิบในปริมาณมาก อาจทำให้ผมร่วง หรือมีผลต่อไทรอยด์ได้
ไมยราบ แม้จะไม่ใช่ ผัก เพื่อสุขภาพ ที่เรากินกันทั่วไป แต่เป็นพืชที่พบมิโมซีน รองจากกระถิน พบมากในราก ใบ และเมล็ด โดยทั่วไปไม่ใช่ผักที่นิยมกิน แต่บางพื้นที่ นิยมใช้ในสมุนไพรพื้นบ้าน การบริโภคในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการอ่อนแรง หรือกระทบต่อระบบประสาท เนื่องจากมิโมซีน สามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์ และขัดขวางการดูดซึม สารอาหารบางชนิดได้
งานวิจัยมิโมซีน ทำให้เซลล์หยุดแบ่งตัว
นักวิทยาศาสตร์ชื่อ Kulp และ Vulliet ศึกษาในปี 1996 พบว่ามิโมซีน ซึ่งเป็นสารจากพืชกระถิน และไมยราบ สามารถทำให้เซลล์มะเร็งเต้านม หยุดแบ่งตัวได้ เพราะมันจะไปขัดขวาง ช่วงที่เซลล์กำลังจะสร้างดีเอ็นเอ ทำให้เซลล์ไม่สามารถเจริญต่อได้ สาเหตุที่เกิดขึ้นคือ มิโมซีนมีฤทธิ์จับเหล็กธาตุเหล็กเอาไว้
เมื่อเซลล์ไม่มีธาตุเหล็ก ก็ไม่สามารถสร้างดีเอ็นเอ และโปรตีน ที่จำเป็นต่อการแบ่งตัวได้ แต่ถ้าเติมธาตุเหล็กกลับเข้าไป ผลของมิโมซีน ก็จะหายไปทันที สารนี้ออกฤทธิ์ โดยการแย่งธาตุเหล็กจากเซลล์ การค้นพบนี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ เข้าใจว่ามิโมซีน อาจใช้ศึกษา หรือควบคุมการเจริญของเซลล์ ในทางการแพทย์ได้ในอนาคต (สิงหาคม 1996) [3]
ประโยชน์ของมิโมซีน คืออะไร?
- ใช้ในการศึกษาวงจรเซลล์ มิโมซีนสามารถหยุดการแบ่งเซลล์ ในระยะก่อนสร้างดีเอ็นเอได้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ ใช้สารนี้ เพื่อศึกษากระบวนการ ควบคุมการเจริญของเซลล์ ในห้องทดลอง
- ช่วยในการวิจัยมะเร็ง เพราะมิโมซีน สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ได้ จึงถูกนำมาศึกษา เพื่อทำความเข้าใจกลไก การหยุดการเจริญของเซลล์มะเร็ง และใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา ยาต้านมะเร็งในอนาคต
- มีบทบาทในธรรมชาติของพืช พืชบางชนิด เช่นกระถิน และไมยราบ ผลิตมิโมซีนขึ้นมา เพื่อป้องกันแมลง และสัตว์กินพืช เป็นกลไกธรรมชาติ ช่วยให้พืชอยู่รอด ในสิ่งแวดล้อมที่มีศัตรูพืชมาก
- ใช้เป็นสารต้นแบบ ในการศึกษาการจับธาตุเหล็ก มิโมซีนมีคุณสมบัติ ในการจับธาตุเหล็ก จึงถูกใช้ในการทดลอง เพื่อทำความเข้าใจกลไก ของสารจับโลหะ ในระบบชีวภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรค และกระบวนการทางเคมี ในร่างกายหลายชนิด
สรุปแล้ว ผักอะไรที่มีมิโมซีนสูง
มิโมซีนเป็นสารธรรมชาติ ในกลุ่มกรดอะมิโน ที่พบมากในพืช โดยเฉพาะกระถิน และไมยราบ ซึ่งเป็นพืชที่มีมิโมซีนสูงที่สุด สารนี้มีทั้งคุณและโทษ ในทางโภชนาการ หากบริโภคมากเกินไป โดยไม่ผ่านการปรุงให้สุก อาจส่งผล ต่อสุขภาพ เช่นผมร่วง คอพอก หรือการทำงานของตับ และไทรอยด์ผิดปกติได้ การกินผักที่มีมิโมซีน ควรทานในปริมาณพอดี
ได้รับมิโมซีนเท่าไหร่ ถึงเป็นอันตราย?
มิโมซีนถือเป็นสารพิษจากธรรมชาติ ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ หากได้รับในปริมาณมาก อาจเป็นอันตราย โดยทั่วไปพบว่าการบริโภคใบ หรือเมล็ดกระถิน ที่มีมิโมซีนมากกว่า 0.2–0.3% ของน้ำหนักตัว ต่อวัน ประมาณ 150–200 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม จะเริ่มเกิดผลเสีย เช่น ผมร่วง เบื่ออาหาร หรือไทรอยด์โต
ใครที่ควรระวัง มิโมซีน เป็นพิเศษ?
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ ต่อมไทรอยด์ หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เด็กเล็ก และ ผู้ที่มีภาวะขาดสารอาหาร หรือธาตุเหล็ก ควรหลีกเลี่ยงการกินพืช ที่มีมิโมซีนสูง เพราะมิโมซีน จะไปรบกวนการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ และการใช้ธาตุเหล็กในร่างกาย ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ซีด หรือผมร่วงได้ง่าย
- Tags: สุขภาพ


