จัดอันดับ ผักอะไรที่มี Fiber สูง รวมไว้ที่นี่

ผักอะไรที่มี Fiber สูง

ผักอะไรที่มี Fiber สูง หลายคนที่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ มักได้ยินคำว่าไฟเบอร์ หรือใยอาหารอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในการดูแลระบบขับถ่าย การควบคุมน้ำหนัก หรือการลดคอเลสเตอรอล แต่ยังมีอีกหลายคนที่อาจยังไม่เข้าใจว่าไฟเบอร์คืออะไร สำคัญอย่างไร และผักชนิดไหนที่มีไฟเบอร์สูง บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับไฟเบอร์

  • ไฟเบอร์คืออะไร?
  • ประโยชน์ของไฟเบอร์
  • ผักอะไรที่มีไฟเบอร์สูง?

ไฟเบอร์ ส่วนประกอบจากพืช คืออะไร?

ไฟเบอร์ (Dietary fiber) คือส่วนประกอบจากพืช ที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยสลายได้โดยสมบูรณ์ ประกอบด้วยโพลิแซ็กคาไรด์ ที่ไม่ใช่แป้ง เช่นเซลลูโลส อินูลิน เพคติน ไฟเบอร์นี้ช่วยเร่งการเคลื่อนตัวของอาหาร และของเสียผ่านระบบทางเดินอาหาร โดยไม่ถูกดูดซึมในลำไส้เล็ก ทำให้ช่วยเรื่องการขับถ่าย

ไฟเบอร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ (Soluble fiber) เมื่อเจอน้ำจะกลายเป็นเจล ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน ลดคอเลสเตอรอล และไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ (Insoluble fiber) ช่วยเพิ่มกากอาหาร เร่งการเคลื่อนตัวในลำไส้เล็ก (พฤษภาคม 2022) [1]

ไฟเบอร์ที่ควรได้รับต่อวันเท่าไหร่?

ปริมาณไฟเบอร์ที่ควรได้รับต่อวัน ผู้หญิงควรได้รับไฟเบอร์ประมาณ 25 กรัมต่อวัน ผู้ชายควรได้รับไฟเบอร์ประมาณ 38 กรัมต่อวันอย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้น ความต้องการไฟเบอร์ จะลดลงเล็กน้อย เช่นผู้หญิงอายุเกิน 50 ปี ประมาณ 21 กรัม/วัน และผู้ชายอายุเกิน 50 ปี ประมาณ 30 กรัม/วัน

คำแนะนำเหล่านี้อิงตาม Dietary Guidelines for Americans และ Institute of Medicine ซึ่งพบว่าคนส่วนใหญ่ ได้รับไฟเบอร์เพียงครึ่งหนึ่ง ของปริมาณที่แนะนำ จึงควรเพิ่มผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และพืชตระกูลถั่ว ในอาหารประจำวัน เพื่อให้ได้ใยอาหารอย่างเพียงพอ ต่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว (24 พฤษภาคม 2025) [2]

ประโยชน์ของไฟเบอร์ ช่วยอะไร?

  • ช่วยให้ขับถ่ายดีขึ้น ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ ช่วยเพิ่มปริมาณ และความชื้นของอุจจาระ ทำให้อุจจาระนุ่ม เคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้ง่ายขึ้น จึงลดอาการท้องผูก และป้องกันริดสีดวงทวาร รวมถึงลดความเสี่ยง ของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในระยะยาว
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ จะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาล หลังมื้ออาหาร ไม่พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล
  • ลดคอเลสเตอรอล ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ เช่นเบต้ากลูแคนในข้าวโอ๊ต หรือเพคตินในผลไม้ จะจับกับกรดน้ำดี และไขมันส่วนเกินในลำไส้ ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก ไฟเบอร์ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น โดยเฉพาะไฟเบอร์ที่พองตัวในลำไส้ จะช่วยลดปริมาณอาหาร ที่บริโภคลงในแต่ละมื้อ เหมาะกับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก หรือต้องการควบคุมปริมาณพลังงาน
  • บำรุงลำไส้ และแบคทีเรียดี ไฟเบอร์บางชนิด เช่นอินูลิน หรือฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์ (FOS) ทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก ช่วยเป็นอาหารให้แบคทีเรียดีในลำไส้ ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงผนังลำไส้ และส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม
  • ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง การรับประทานไฟเบอร์ อย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่เหมาะสม มีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยง ของโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหลอดเลือด และมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ควบคุมระดับความดันโลหิต อาหารที่มีไฟเบอร์สูง มักมีโพแทสเซียมสูง และโซเดียมต่ำ ช่วยในการควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยง โรคหลอดเลือดหัวใจ

8 อันดับ ผักอะไรที่มีไฟเบอร์สูง?

ผักอะไรที่มี Fiber สูง
  1. ถั่วลันเตาสุก ให้ไฟเบอร์สูงสุดประมาณ 9 กรัมต่อ 1 ถ้วย (160 กรัม) อุดมด้วยโปรตีนจากพืช ช่วยให้อิ่มนาน และเสริมการขับถ่าย
  2. บรอกโคลีสุก มีไฟเบอร์ประมาณ 5 กรัมต่อ 1 ถ้วย (156 กรัม) เป็นแหล่งของไฟเบอร์ ทั้งชนิดละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ ร่วมกับวิตามิน C และ K
  3. Turnip greens ต้ม 1 ถ้วยให้ไฟเบอร์ราว 5 กรัม (144 กรัม) ใยอาหารคุณภาพ พร้อมวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
  4. Brussels sprouts มีไฟเบอร์ประมาณ 5 กรัมต่อถ้วย (156 กรัม) ไฟเบอร์สูงพร้อมวิตามิน C, K และสารกลูโคซิโนเลต ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง
  5. ข้าวโพดหวานสุก ให้ไฟเบอร์ประมาณ 4 กรัมต่อ 1 ถ้วย (157 กรัม)
  6. มันฝรั่งสุกพร้อมเปลือก ให้ไฟเบอร์ประมาณ 4 กรัมต่อหัว (173 กรัม) เปลือกเป็นแหล่งไฟเบอร์ ชนิดไม่ละลายน้ำสูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
  7. กะหล่ำปลีดิบ มีไฟเบอร์ประมาณ 2 กรัมต่อถ้วย (107 กรัม) เหมาะทั้งทานดิบ หรือลวกเพื่อรักษาใยอาหาร
  8. แครอทดิบ 1 หัวกลาง ให้ไฟเบอร์ประมาณ 5 กรัมต่อหัว (61 กรัม) มีเพคติน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี

ที่มา: Chart of high-fiber foods (23 พฤศจิกายน 2023) [3]

วิธีทานผักให้ได้ไฟเบอร์สูงสุด

  • กินผักสด หรือปรุงสุก แบบไม่ใช้น้ำมันมาก: เช่นลวก ต้ม นึ่ง จะช่วยรักษาไฟเบอร์ไว้
  • ไม่ปอกเปลือกผัก หรือผักหัวบางชนิด: เช่นแครอท มันเทศ เพราะเปลือกมีไฟเบอร์มาก
  • กินหลากหลายชนิด ในแต่ละวัน: เพื่อให้ได้ทั้งไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ
  • เสริมด้วยผลไม้ และธัญพืช: เพื่อเสริมใยอาหารให้ครบถ้วนทั้งวัน

ข้อควรระวังการทานผักไฟเบอร์สูง

  • เพิ่มไฟเบอร์ อย่างค่อยเป็นค่อยไป การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง หรือแก๊สในลำไส้ ให้ร่างกายมีเวลาปรับตัว โดยค่อยๆเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ ในแต่ละมื้อ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไฟเบอร์จะทำงานได้ดีที่สุด เมื่อมีน้ำช่วยพา เคลื่อนผ่านระบบทางเดินอาหาร หากดื่มน้ำน้อย อาจทำให้ไฟเบอร์แข็งตัว และเพิ่มความเสี่ยงท้องผูก
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ ควรปรึกษาแพทย์ เช่นผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือมีประวัติทางเดินอาหารผิดปกติ ไฟเบอร์บางชนิด อาจกระตุ้นอาการ ให้แย่ลงในบางราย

สรุปแล้ว ผักอะไรที่มี Fiber สูง

ผักที่มีไฟเบอร์สูง หลากหลายชนิดสามารถนำมาปรุงให้อร่อยได้ในทุกมื้อ เช่นบรอกโคลี ผักโขม แครอท กะหล่ำปลี หรือถั่วแขก ไฟเบอร์จากผักเหล่านี้ ช่วยส่งเสริมการขับถ่าย ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด และบำรุงลำไส้ให้แข็งแรง การเลือกทานผักให้หลากหลาย จะทำให้ร่างกายได้รับใยอาหารอย่างเพียงพอ

ไฟเบอร์ไม่ควรทานกับอะไร?

การรับประทานไฟเบอร์ ไม่ควรทานร่วมกับยาบางชนิด เช่นยาลดคอเลสเตอรอล ยารักษาเบาหวาน หรือยาธาตุเหล็ก ควรแยกเวลาอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมง เพราะไฟเบอร์ อาจรบกวนการดูดซึม ของยาเหล่านั้น ทำให้ประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้ ควรรับประทานไฟเบอร์ ร่วมกับน้ำปริมาณมาก เพื่อลดอาการท้องอืด ท้องผูก

กินผักยังไงให้ได้ไฟเบอร์สูงสุด?

การกินผักให้ ได้ไฟเบอร์สูงสุด ควรเลือกผักสด ที่ไม่ผ่านการแปรรูปมากนัก รับประทานทั้งเปลือก เช่นแครอท มันฝรั่ง หรือแตงกวา และควรบริโภคผักหลากหลายชนิด ทั้งชนิดที่มีไฟเบอร์ละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ เช่นบรอกโคลี กะหล่ำปลี ถั่วลันเตา หน่อไม้ฝรั่ง และควรกินแบบสด ลวก หรือนึ่งแทนการทอด

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง