อยากชะลอวัยต้องรู้ ผักอะไรที่มี Antioxidants สูง

ผักอะไรที่มี Antioxidants สูง

ผักอะไรที่มี Antioxidants สูง ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น คำว่าสารต้านอนุมูลอิสระ กลายเป็นสิ่งที่เราพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง ในบทความสุขภาพทั่วไป หรือโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่สนใจ ในเรื่องการชะลอวัย ป้องกันโรคเรื้อรัง หรือเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง

  • สารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร?
  • ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

Antioxidants คืออะไร ค้นพบเมื่อไหร่?

สารต้านอนุมูลอิสระ คือสารที่ช่วยยับยั้ง หรือชะลอกระบวนการออกซิเดชัน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาทางเคมี ที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย อนุมูลอิสระเหล่านี้ เป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียร และสามารถทำลายเซลล์ โปรตีน และดีเอ็นเอ ทำให้เกิดความเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรังหลายชนิด

เช่นโรคมะเร็ง เบาหวาน และโรคหัวใจ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสียหายเหล่านี้ โดยการให้หรือรับอิเล็กตรอน ทำให้อนุมูลอิสระมีความเสถียร และไม่ทำปฏิกิริยาต่อเนื่อง แนวคิดเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระ เริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยถูกใช้ในทางอุตสาหกรรม เพื่อชะลอการเสื่อมของผลิตภัณฑ์

อย่างไรก็ตาม การศึกษาบทบาท ของสารต้านอนุมูลอิสระ ในสิ่งมีชีวิต เริ่มในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อนักวิทยาศาสตร์ เริ่มค้นพบว่าสารอาหารบางชนิด เช่นวิตามิน และสารพฤกษเคมี มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และสามารถส่งผลดี ต่อสุขภาพของมนุษย์ในระยะยาว (1 สิงหาคม 2025) [1]

สารต้านอนุมูลอิสระในผักมีกี่ประเภท?

  • Vitamin C ช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในเลือด และเนื้อเยื่อ
  • วิตามินอี มีบทบาทสำคัญ ในการปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์
  • Beta-carotene เปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย และช่วยลดการอักเสบ
  • Lutein และ zeaxanthin ดีต่อดวงตา ลดความเสี่ยง ของโรคจอประสาทตาเสื่อม
  • Polyphenols กลุ่มสารพฤกษเคมี ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง
  • Anthocyanin เม็ดสีม่วงแดงในผักผลไม้ ที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์

สาร Antioxidants มีประโยชน์ยังไง?

  • ลดความเสียหายของเซลล์ จากอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระ มีบทบาทสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระ เข้าไปทำลายเซลล์ เนื้อเยื่อ และดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่ง ของความเสื่อมในร่างกาย และการเกิดโรคเรื้อรัง
  • ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง การบริโภคอาหาร ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่นโรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน และโรคทางระบบประสาท
  • ต้านการอักเสบ สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด โดยเฉพาะโพลีฟีนอล และฟลาโวนอยด์ในผักผลไม้ ช่วยลดการอักเสบ ในระดับเซลล์ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน ของโรคหลายประเภท
  • ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ความเครียดจากอนุมูลอิสระ เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญ ของการแก่ชรา การรับประทานสารต้านอนุมูลอิสระ จากอาหารธรรมชาติ สามารถช่วยชะลอกระบวนการนี้ และส่งผลดี ต่อผิวพรรณ สมอง และการทำงานของอวัยวะต่างๆ
  • เสริมภูมิคุ้มกัน สารต้านอนุมูลอิสระช่วยสนับสนุนการทำงาน ของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ลดความเสียหายที่เกิดจากความเครียด หรือมลพิษในร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา: Antioxidants Explained in Simple Terms (12 กรกฎาคม 2023) [2]

ผักอะไรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง?

ผักอะไรที่มี Antioxidants สูง

สารต้านอนุมูลอิสระมีหน่วยวัดเป็น μmol โดยวัดปริมาณของสารในทางเคมี โดยเป็นหน่วยย่อยของ mol ใช้บอกจำนวนโมเลกุล ของสารในระบบเมตริก ต่อ 100 g. ผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ปริมาณต่อ 100 กรัม มีดังนี้

  • Artichoke ปรุงด้วยการนึ่ง 7,904 จัดเป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก เหมาะสำหรับการล้างพิษ และบำรุงตับ
  • Russet Potatoes ปรุงด้วยการอบ 4,649 เป็นแหล่งของพลังงาน และสารต้านอนุมูลอิสระ ในปริมาณที่สูง
  • มันเทศอบ 1,199 อุดมด้วยเบตาแคโรทีน และไฟเบอร์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระระดับดี
  • ผักโขมสด 1,056 มีลูทีน และซีแซนทีน ช่วยปกป้องดวงตา และต้านอนุมูลอิสระ
  • มะเขือม่วง 1,039 สารแอนโธไซยานินในเปลือก ให้ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ
  • หน่อไม้ฝรั่งสด 2,021 หน่อไม้ฝรั่งนึ่ง 1,480 เพราะความร้อนอาจทำลายสารบางชนิดลงได้
  • กะหล่ำปลีม่วงสด 788 กะหล่ำปลีม่วงปรุงสุก 2,350 การปรุงสุก ช่วยปลดปล่อยสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด
  • หัวหอมใหญ่สด 823 หัวหอมใหญ่ปรุงสุก 1,281 เกิดจากสารฟลาโวนอยด์ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เมื่อผ่านความร้อน
  • บรอกโคลีสด 700 บรอกโคลีปรุงสุก 982 บรอกโคลีปรุงสุกแล้ว ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารซัลโฟราเฟนได้ดีขึ้น
  • มะเขือเทศสด 552 มะเขือเทศปรุงสุก 415 สารไลโคปีนแม้จะเพิ่มขึ้นเมื่อปรุงสุก แต่สารต้านอนุมูลอิสระโดยรวมลดลง

ที่มา: Antioxidant Superstars (10 กันยายน 20008) [3]

วิธีทานผัก เพื่อให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระ

  • เน้นผักสด หรือปรุงด้วยความร้อนต่ำ เช่นลวก หรือนึ่ง เพื่อรักษาสารอาหารไม่ให้สูญเสียจากความร้อนมากเกินไป
  • บริโภคหลากหลายสี เพราะสีต่างๆ สะท้อนถึงชนิดของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่แตกต่างกัน เช่นเขียวจากลูทีน เหลืองส้มจากเบตาแคโรทีน ม่วงแดงจากแอนโธไซยานิน
  • จับคู่กับไขมันดี เช่นน้ำมันมะกอกหรือ avocado เพื่อช่วยดูดซึมวิตามิน ที่ละลายในไขมัน เช่นวิตามินเอ ดี อี เค
  • หลีกเลี่ยงการปรุงด้วยน้ำมันทอดซ้ำ เพราะไขมันที่ผ่านการเผาไหม้ อาจเพิ่มอนุมูลอิสระ

อะไรที่ทำลายสารต้านอนุมูลอิสระในผัก?

  • การเก็บไว้นานเกินไป ผักที่ถูกเก็บไว้นาน โดยเฉพาะในอุณหภูมิห้อง หรือในที่ที่มีแสงแดด อาจทำให้วิตามินที่ไวต่อแสง และอากาศ เช่นวิตามิน C และเบตาแคโรทีน สลายตัวลงตามเวลา ยิ่งผักเก็บไว้นานหลายวัน ก่อนรับประทาน คุณค่าทางโภชนาการ ก็ยิ่งลดลง
  • การล้าง หรือแช่น้ำนาน วิตามินที่ละลายน้ำได้ เช่นวิตามิน C และกรดโฟลิก มีแนวโน้มจะละลายออกไป เมื่อผักถูกแช่ในน้ำนาน หรือใช้น้ำล้างแรงเกินไป การหั่นผักก่อนแช่ หรือปล่อยให้แช่น้ำนานหลายชั่วโมง จะยิ่งเร่งการสูญเสียสารอาหาร
  • การปรุงด้วยความร้อนสูง การปรุงผักด้วยวิธีผัด ทอด หรืออบที่อุณหภูมิสูง ทำให้วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด ถูกทำลายได้ง่าย เช่นวิตามิน C ซึ่งไวต่อความร้อนมาก วิธีการนึ่ง หรือลวก จะช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการได้ดีกว่า
  • สารเคมี หรือยาฆ่าแมลงตกค้างในผัก สารเคมีที่ตกค้าง จากการเพาะปลูก เช่นยาฆ่าแมลง หรือปุ๋ยสังเคราะห์ ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หากสะสมมาก แต่ยังอาจมีปฏิกิริยา กับสารต้านอนุมูลอิสระในผัก ทำให้โครงสร้างของสารเหล่านั้น เปลี่ยนแปลง หรือหมดฤทธิ์ไปบางส่วน

สรุปแล้ว ผักอะไรที่มี Antioxidants สูง

หากกำลังมองหาวิธีป้องกันความเสื่อมของร่างกายโดยวิธีธรรมชาติ การเลือกรับประทานผัก ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ถือเป็นทางเลือกที่ดี โดยผักอย่างเคล บรอกโคลี ผักโขม กะหล่ำม่วง บีทรูท แครอท และพริกหวาน ล้วนเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก ควรรับประทานอย่างสม่ำเสมอ และหลากหลาย

มีข้อควรระวังอะไรในการทานผัก?

แม้ผักจะดีต่อสุขภาพ แต่การบริโภคมากเกินไป หรือไม่หลากหลาย อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิด เช่นธาตุเหล็กจากสัตว์ และผักบางชนิดมีสารออกซาเลต ที่รบกวนการดูดซึมแร่ธาตุ หากรับประทานในปริมาณมากเป็นประจำ ควรหมุนเวียนผักหลายชนิด และปรุงอย่างเหมาะสม

อะไรที่เพิ่มอนุมูลอิสระในร่างกาย?

สิ่งที่เพิ่มอนุมูลอิสระในร่างกาย ได้แก่พฤติกรรมและปัจจัยต่างๆ เช่นการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ อากาศเป็นพิษ มลภาวะทางสิ่งแวดล้อม รังสียูวีจากแสงแดด การรับประทานอาหารแปรรูป หรือไขมันทรานส์มากเกินไป ความเครียดเรื้อรัง การนอนหลับไม่เพียงพอ รวมถึงการออกกำลังกายมากเกินพอดี

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง