
รู้เท่าทัน ผลไม้อะไรที่มี Tomatine สูง
- Fiona
- 16 views

ผลไม้อะไรที่มี Tomatine สูง อาจเป็นคำถามที่ทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะโทมาทีนไม่ได้เป็นสารอาหาร ที่ร่างกายต้องการ แต่เป็นสารธรรมชาติในกลุ่มอัลคาลอยด์ ที่พืชบางชนิดสร้างขึ้น เพื่อป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะในพืชตระกูล Solanaceae ซึ่งสารโทมาทีน มีทั้งด้านที่เป็นประโยชน์ และด้านที่ควรระวัง
- โทมาทีนคืออะไร?
- ผลไม้ที่มีโทมาทีนสูง
- อันตรายของโทมาทีน
สารโทมาทีนคืออะไร?
โทมาทีนคือสารธรรมชาติในกลุ่ม glycoalkaloid ที่พบมากในต้น ใบ และผลดิบของพืชมะเขือ โดยเฉพาะมะเขือเทศ สารนี้ประกอบด้วยโครงสร้างสองส่วน คือส่วนที่เป็นอัลคาลอยด์ และส่วนของน้ำตาล ซึ่งเชื่อมต่อกัน ด้วยพันธะไกลโคไซด์ โทมาทีนทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน ตามธรรมชาติของพืช
ช่วยต่อต้านเชื้อรา แมลง และสิ่งมีชีวิตที่มากัดกินพืช กลไกหลัก คือการรบกวนเยื่อหุ้มเซลล์ ของศัตรูพืช และสามารถยับยั้งการทำงาน ของเอนไซม์บางชนิด ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท ในแง่ของความปลอดภัย การได้รับโทมาทีนในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้องได้ (26 ตุลาคม 2022) [1]
ประวัติ โทมาทีน การค้นพบครั้งแรก
โทมาทีนถูกกล่าวถึง มาตั้งแต่ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมื่อยุโรปเริ่มรู้จักมะเขือเทศครั้งแรก โดยนักพฤกษศาสตร์ ชาวอังกฤษชื่อ John Gerard ได้บันทึกไว้ในหนังสือ Grete Herball ว่ามะเขือเทศ เป็นพืชมีพิษ เพราะในเวลานั้น ยังไม่เข้าใจว่าสารอัลคาลอยด์ เช่นโทมาทีน เป็นกลไกป้องกันตัวตามธรรมชาติของพืช
ต่อมาในปี ค.ศ. 1837 มีการผลิตยาเม็ดในสหรัฐอเมริกา อ้างว่าสารจากมะเขือเทศ มีสรรพคุณช่วยระบบน้ำดี ถือเป็นช่วงที่มะเขือเทศ เริ่มถูกนำมาใช้ ในเชิงสมุนไพร และการแพทย์พื้นบ้าน ช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 นักวิทยาศาสตร์ของ USDA สามารถแยกสารโทมาทีน ออกจากมะเขือเทศสายพันธุ์ปลูก และพันธุ์ป่าได้สำเร็จ
เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาทางเคมี และชีววิทยา เกี่ยวกับสารนี้อย่างจริงจัง ทำให้โทมาทีน ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม glycoalkaloids เช่นเดียวกับสารโซลานีนในมันฝรั่ง และกลายเป็นหัวข้อสำคัญ ในงานวิจัยด้านพิษวิทยา พฤกษเคมี และคุณสมบัติทางชีวภาพ ของพืชตระกูลมะเขือ ในเวลาต่อมา (3 ตุลาคม 2025) [2]
ผลไม้อะไรที่มีโทมาทีนสูง?

- มะเขือเทศดิบ เป็นแหล่งของโทมาทีนที่สูงที่สุด โดยเฉพาะในผลดิบ หรือสีเขียวก่อนสุก สารนี้ช่วยป้องกันผลจากเชื้อรา และแมลง แต่เมื่อผลสุกสีแดงแล้ว ปริมาณโทมาทีน จะลดลง เหลือเพียงเล็กน้อย ทำให้ปลอดภัย ต่อการบริโภคมากขึ้น
- มะเขือเทศเชอร์รี่ดิบ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ถ้ายังไม่สุกดี โทมาทีนก็มีอยู่ในระดับใกล้เคียงกับมะเขือเทศใหญ่ เนื่องจากยังอยู่ในระยะป้องกันตัวเองตามธรรมชาติของพืช
- มะเขือพวง ในทางพฤกษศาสตร์ จัดเป็นผลไม้ ในตระกูลเดียวกัน ที่มีโทมาทีน และอัลคาลอยด์ใกล้เคียงกัน ใช้ในอาหารไทยอย่างแกงป่า และน้ำพริก มีรสขมเล็กน้อย ซึ่งมาจากสารเหล่านี้นั่นเอง
- มะเขือเปราะและมะเขือยาว แม้จะมีโทมาทีน ในระดับต่ำกว่ามะเขือเทศดิบ แต่ยังคงมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะในผลอ่อน ที่ยังไม่แก่จัด การปรุงสุก ช่วยลดระดับโทมาทีนลงได้
งานวิจัย โทมาทีนยับยั้งเซลล์มะเร็ง
งานวิจัยศักยภาพของโทมาทีน จากมะเขือเทศ ในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง รายงานว่า α-tomatine ซึ่งเป็นสารสำคัญชนิดหนึ่ง ในมะเขือเทศ มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด HL-60 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักวิจัยพบว่า สารนี้สามารถกระตุ้น ให้เซลล์มะเร็งตายแบบ apoptosis
โดยไม่ขึ้นกับเอนไซม์ในกลุ่ม caspase ซึ่งต่างจากกลไกการตายของเซลล์ทั่วไป การทดลองในสัตว์ ยังพบว่าเมื่อฉีดโทมาทีน เข้าไปในหนูทดลอง ที่ปลูกเซลล์มะเร็ง ขนาดของเนื้องอก ลดลงอย่างชัดเจน โดยไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง จึงอาจมีศักยภาพ ในการพัฒนาเป็นสารต้านมะเร็งตามในอนาคต แต่ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม (22 มกราคม 2015) [3]
อันตรายของโทมาทีน คืออะไร?
- ระคายเคือง ต่อระบบทางเดินอาหาร หากได้รับในปริมาณมากและผ่านระบบ การย่อยอาหาร อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือท้องเสีย เนื่องจากโทมาทีน มีฤทธิ์รบกวนเยื่อบุในกระเพาะ และลำไส้
- กระทบต่อการทำงานของเซลล์ โทมาทีนสามารถจับกับสเตอรอล ในเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้โครงสร้างเซลล์เสียสมดุล และอาจทำให้เซลล์แตก หรือทำงานผิดปกติ
- มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ในปริมาณสูงมาก สารนี้อาจยับยั้งการทำงาน ของเอนไซม์ acetylcholinesterase ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะ อ่อนแรง หรือสับสนได้
- เป็นพิษต่อสัตว์บางชนิด โทมาทีนมีความเป็นพิษ ต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด เช่นหนูหรือแมว หากบริโภคผลดิบจำนวนมาก อาจเกิดอาการชัก หรืออาเจียนรุนแรง
- เสี่ยงหากรับจากผลดิบมากเกินไป มะเขือเทศ หรือมะเขือ ที่ยังไม่สุกดี มีระดับโทมาทีนสูง การรับประทานบ่อยหรือมากเกินไป อาจก่อผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะในเด็ก และผู้ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ
ข้อดีของโทมาทีน คืออะไร?
- ต้านเชื้อรา และแบคทีเรียตามธรรมชาติ โทมาทีนช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อรา และจุลชีพบางชนิด จึงมีบทบาทสำคัญ ในการป้องกันผลมะเขือเทศ จากการเน่าเสีย ในธรรมชาติ
- ช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืช สารนี้ทำหน้าที่เป็นกลไก ป้องกันตัวของพืช ลดการถูกกัดกินจากแมลง หรือสัตว์ขนาดเล็ก
- มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ในห้องทดลอง การศึกษาพบว่าโทมาทีน โดยเฉพาะในรูปแบบ α-tomatine สามารถยับยั้งการเจริญ ของเซลล์มะเร็ง และกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตายได้
- ลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย โทมาทีนสามารถจับกับโมเลกุลคอเลสเตอรอล ทำให้ร่างกายดูดซึมคอเลสเตอรอลได้น้อยลง อาจช่วยในการควบคุมระดับไขมันในเลือด
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และอนุมูลอิสระ สารนี้ช่วยลดกระบวนการอักเสบ และต้านความเสียหายของเซลล์ จากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นประโยชน์ ต่อสุขภาพโดยรวม เมื่อได้รับในปริมาณเหมาะสม
สรุปแล้ว ผลไม้อะไรที่มีโทมาทีนสูง
ผลไม้ที่มีโทมาทีนสูงที่สุด คือมะเขือเทศดิบ และผลไม้ในตระกูลมะเขืออื่นๆ เช่นมะเขือเทศเชอร์รี่ดิบ มะเขือพวง มะเขือเปราะ และมะเขือยาว โดยเฉพาะในช่วงที่ผลยังไม่สุกดี การได้รับสารโทมาทีนมากเกินไปจากการบริโภคผลดิบ อาจก่ออาการระคายเคืองทางเดินอาหาร หรือผลข้างเคียงได้
ได้รับโทมาทีนเท่าไหร่ถึงอันตราย?
ค่าประมาณ ที่เริ่มมีผลต่อร่างกาย อยู่ที่ราว 2–5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งหมายความว่าผู้ใหญ่หนัก 60 กิโลกรัม จะเริ่มเสี่ยง เมื่อได้รับมากกว่า 120–300 มิลลิกรัมขึ้นไป มะเขือเทศดิบทั่วไป มีโทมาทีนเฉลี่ยเพียง 500 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัมของน้ำหนักผล ดังนั้นต้องกินมะเขือเทศดิบจำนวนมาก จึงจะถึงระดับอันตราย
ใครที่ควรระวังโทมาทีนเป็นพิเศษ?
กลุ่มคนที่ควรระวัง การได้รับโทมาทีนมากเกินไป ได้แก่ เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีโรคกระเพาะ หรือลำไส้อักเสบ ผู้ที่เป็นโรคตับหรือไต และผู้ที่มีภาวะไวต่ออัลคาลอยด์ เพราะร่างกายของกลุ่มนี้ อาจกำจัดสารได้ช้ากว่าปกติ นอกจากนี้ผู้ที่นิยมรับประทานมะเขือเทศดิบ มะเขือพวง ในปริมาณมาก ก็ควรระวังเช่นกัน
- Tags: สุขภาพ


