
ผลไม้อะไรที่มี Manganese สูง เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย รู้หรือไม่ว่าแมงกานีส เป็นแร่ธาตุสำคัญ ที่ร่างกายต้องการในเล็กน้อย เพื่อช่วยการทำงานของเอนไซม์ การสร้างกระดูก และกระบวนการเผาผลาญพลังงาน ได้รับแมงกานีสอย่างเพียงพอ ช่วยสนับสนุนระบบประสาท และระบบภูมิคุ้มกัน
แมงกานีส (Manganese) เป็นธาตุเคมีสัญลักษณ์ Mn เลขอะตอม 25 เป็นโลหะแข็งเปราะสีเงินอมฟ้า มักพบในแร่ร่วมกับเหล็ก และใช้ในอุตสาหกรรมโลหะ เช่นการผลิตเหล็กกล้าไร้สนิม เพิ่มความแข็งแรง ทนทาน ลดการสึกหรอ รวมถึงใช้เป็นสารออกซิไดซ์ ผลิตแก้ว ปุ๋ย เซรามิก และสารกำจัดเชื้อรา
แมงกานีสถูกใช้มาตั้งแต่ยุคหิน พบแมงกานีสไดออกไซด์ ในภาพเขียนถ้ำกรีก และโรมัน ใช้ทำแก้วสี ปี 1771 Carl Wilhelm Scheele พบธาตุนี้ในแร่ pyrolusite แต่ Johan Gottlieb Gahn เป็นผู้แยกโลหะบริสุทธิ์ครั้งแรกในปี 1774 ด้วยการลดด้วยถ่าน ทำให้แมงกานีสเป็นที่รู้จัก และใช้อย่างแพร่หลาย
ในสิ่งมีชีวิต แมงกานีสจำเป็นต่อการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด ช่วยเผาผลาญพลังงาน สร้างกระดูก และป้องกันอนุมูลอิสระ ในร่างกายมนุษย์มีเฉลี่ย 12 มก. อยู่ในกระดูก ตับ ไต สมอง ขาดแมงกานีสอาจทำให้กระดูกผิดปกติ การสร้างคอลลาเจนน้อย และการสมานแผลช้า (15 สิงหาคม 2025) [1]
ที่มา: Nutrient Ranking Tool (2025) [3]
แม้แมงกานีสจากอาหารตามธรรมชาติจะปลอดภัย แต่การได้รับเกิน โดยเฉพาะจากอาหารเสริมหรือ สารสังเคราะห์ อาจทำให้เกิดอาการทางประสาท หรือผลข้างเคียง เช่นเวียนศีรษะ หงุดหงิด หรือคลื่นไส้ สำหรับผู้ที่มีโรคตับ หรือโรคทางระบบประสาท ควรระมัดระวัง
ผลไม้ที่มีแมงกานีสสูง ได้แก่ พุทราจีนอบแห้ง, มะม่วงอบแห้ง, Frozen Wild Blueberries, สับปะรด, Loganberries, องุ่น Muscadine, Blackberries, Raspberries, ทุเรียน และ Boysenberries การทานผลไม้เหล่านี้สลับกันเป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายได้รับแมงกานีสเพียงพอ ช่วยการทำงานของเอนไซม์ ระบบประสาท และการสร้างกระดูก
การได้รับแมงกานีสมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะเป็นพิษ โดยเฉพาะหากได้รับจากอาหารเสริม ระดับแมงกานีสสูงในร่างกาย อาจสะสมในสมอง ทำให้เกิดปัญหาทางระบบประสาท เช่นอาการสั่น เดินเซ ความจำและสมาธิลดลง ภาวะนี้เรียกว่า Manganism อาจมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร
การได้รับแมงกานีสไม่เพียงพอ แม้พบไม่บ่อย แต่สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยอาจทำให้การสร้างกระดูก และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบกพร่อง ส่งผลให้กระดูกเปราะ หรือเจริญเติบโตช้า มีปัญหาในการสมานแผล การสร้างคอลลาเจนลดลง และอาจมีอาการระบบประสาทผิดปกติ เช่นการทรงตัวไม่ดี ร่างกายอ่อนเพลีย