เช็กลิสต์ ผลไม้อะไรที่มี Lycopene สูง

ผลไม้อะไรที่มี Lycopene สูง

ผลไม้อะไรที่มี Lycopene สูง เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ช่วยให้ร่างกาย ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ ในกลุ่มเดียวกับเบต้าแคโรทีน แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นVitamin Aจุดเด่นของไลโคปีนคือสีแดงสด ในผลไม้หลายชนิด และมีคุณสมบัติ ในการป้องกันเซลล์ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และมะเร็ง

  • ประโยชน์ของไลโคปีน
  • ไลโคปีนควรได้รับต่อวันเท่าไหร่?
  • ผลไม้อะไรบ้าง ที่ไลโคปีนสูง?

ประวัติ ไลโคปีน การค้นพบครั้งแรก

การศึกษาเกี่ยวกับไลโคปีน เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1873 เมื่อมีรายงาน การแยกสารประกอบนี้จากพืช European yam (Tamus communis) เป็นครั้งแรก และต่อมาในปี 1875 การแยกไลโคปีนจากมะเขือเทศ ได้รับการบันทึกไว้ด้วยเช่นกัน

ไม่นานหลังจากนั้น ในปี 1910 นักเคมีชาวสวิส Richard M. Willstätter และ Heinrich H. Escher ก็แยกไลโคปีนจากมะเขือเทศอีกครั้ง และกำหนดโครงสร้างของมันได้ ซึ่งเห็นได้ว่าเป็น Carotene isomers จากนั้นถึงช่วงปี 1931 มีการกำหนดโครงสร้างโมเลกุล ของไลโคปีน และคุณสมบัติทางเคมีที่สำคัญ

ต่อมาในปี 1950 นักเคมี Paul Karrer และทีมสามารถสังเคราะห์ไลโคปีน ในห้องทดลองได้สำเร็จ หลังจากนั้น ไลโคปีนก็กลายเป็นหัวข้อการวิจัย ที่ได้รับความสนใจ ด้านคุณสมบัติ Antioxidants ระหว่างปี 1999–2009 มีงานวิจัย เกี่ยวกับผลของไลโคปีน ต่อสุขภาพ เช่นความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ (18 กรกฎาคม 2025) [1]

ประโยชน์ของผลไม้ ที่มีไลโคปีนสูง

  • เป็นสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ โดยสามารถช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรังหลายชนิด รวมถึงมะเร็ง และโรคหัวใจ
  • ลดความเสี่ยง ของโรคมะเร็งบางประเภท งานวิจัยแสดงว่าไลโคปีน อาจช่วยลดความเสี่ยง ของมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง และยังมีข้อมูลว่า อาจลดการเกิดโรค เกี่ยวกับการอักเสบในร่างกายได้ด้วย
  • บำรุงหัวใจ หลอดเลือด มีหลักฐานบางส่วน บ่งชี้ว่าไลโคปีน อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี) และลดความดันโลหิต ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษา ยังมีความหลากหลาย และยังต้องการหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อยืนยันผลอย่างชัดเจน
  • ประโยชน์เฉพาะสำหรับผู้ชาย สำหรับผู้ชาย ไลโคปีนอาจช่วยลดความเสี่ยง ของมะเร็งต่อมลูกหมาก บำรุงสุขภาพหัวใจ และยังมีงานวิจัยที่เชื่อว่า อาจช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ และคุณภาพสเปิร์ม อย่างไรก็ตาม การค้นพบยังไม่มากพอ และผลการวิจัย ยังมีความหลากหลาย

ที่มา: Health Benefits of Lycopene (15 ตุลาคม 2024) [2]

ไลโคปีนควรได้รับต่อวันเท่าไหร่?

ปัจจุบันยัง ไม่มีการกำหนดปริมาณไลโคปีน ที่เป็นมาตรฐานต่อวัน (RDA) อย่างเป็นทางการ เหมือนวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ แต่จากงานวิจัย ข้อมูลโภชนาการ พบว่าปริมาณที่มักใช้ ในการศึกษา เกี่ยวกับสุขภาพหัวใจ และการป้องกันโรคมะเร็ง อยู่ที่ประมาณ 6–15 มิลลิกรัมต่อวัน

ผลไม้อะไรบ้าง ที่ไลโคปีนสูง?

ผลไม้อะไรที่มี Lycopene สูง
  • ฝรั่งสีชมพู 1 ถ้วยมีไลโคปีนประมาณ 8,587 µg
  • มะเขือเทศปรุงสุก 1 ถ้วยมีไลโคปีนที่ประมาณ 7,298 มคก.
  • แตงโม 1 ถ้วยมีไลโคปีนประมาณ 6,979 µg
  • เกรปฟรุตสีชมพู 1 ถ้วยมีไลโคปีนประมาณ 3,264 ไมโครกรัม
  • มะละกอ 1 ถ้วยมีไลโคปีน 2,651 ไมโครกรัม
  • พริกหวานสีแดงปรุงสุก 1 ถ้วยมีไลโคปีนที่ประมาณ 513 มคก.
  • ลูกพลับญี่ปุ่น 1 ผลมีไลโคปีน 267 mcg.
  • มะม่วง 1 ถ้วยมีไลโคปีน 5 mcg.

ที่มา: Top 10 Foods Highest in Lycopene (10 พฤศจิกายน 2024) [3]

วิธีทานผลไม้ให้ได้ไลโคปีนสูงสุด

  • เลือกผลไม้สด ที่มีไลโคปีนสูง เช่นมะเขือเทศ แตงโม ฝรั่ง เกรปฟรุตสีชมพู มะละกอ และลูกพลับ เพราะเป็นแหล่งสำคัญ ของไลโคปีน ตามธรรมชาติ
  • ทานคู่กับไขมันดี ไลโคปีนละลายในไขมัน เช่น ทานพร้อมน้ำมันมะกอกเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มการดูดซึม เข้าสู่ร่างกาย ได้ดีกว่าการทานเปล่าๆ
  • เลือกผลไม้สุกจัด ไลโคปีนในผลไม้ จะมีมากขึ้น เมื่อผลสุก เช่นมะเขือเทศสีแดงจัด หรือมะละกอสุก สีของเนื้อผลไม้เข้ม ยิ่งมีแนวโน้มว่าจะมีไลโคปีนมาก
  • ทานในรูปแบบน้ำปั่น หรือน้ำผลไม้ การบดหรือคั้นน้ำ จะช่วยทำให้ผนังเซลล์แตกออก เพิ่มการปลดปล่อยไลโคปีน ให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น
  • ทานอย่างสม่ำเสมอ และหลากหลาย ควรทานผลไม้ที่มีไลโคปีนสลับกัน ไม่จำเป็นต้องทานชนิดเดียวทุกวัน เพื่อให้ได้ทั้งไลโคปีน และสารอาหารอื่นๆ

ข้อควรระวังการทานไลโคปีนจากผลไม้

  • ปริมาณมากเกินไป แม้จะมาจากผลไม้ แต่ถ้าทานมากเกินไป อาจทำให้เกิด lycopenemia คือผิวมีสีส้ม คล้ายอาการจากแคโรทีนได้
  • คนที่มีโรคประจำตัวบางชนิด หากมีปัญหา เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ควรระวัง เพราะมีรายงานว่า การเสริมไลโคปีน ในปริมาณสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก
  • ไลโคปีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ไม่ควรคิดว่าเป็น ยาป้องกันโรค เพียงอย่างเดียว ควรทานควบคู่ กับอาหารที่สมดุล
  • หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร ควรรับจากผลไม้สดตามปกติ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมไลโคปีน ในปริมาณสูง โดยไม่ปรึกษาแพทย์

ผลไม้อะไรที่มีไลโคปีนสูง กล่าวโดยสรุป

ผลไม้ที่มีไลโคปีนสูง ได้แก่ ฝรั่งสีชมพู มะเขือเทศ แตงโม เกรปฟรุตสีชมพู มะละกอ พริกหวานสีแดง ลูกพลับญี่ปุ่น และมะม่วง การรับประทานผลไม้เหล่านี้ เป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกาย ได้รับไลโคปีนเพียงพอ ดีต่อสุขภาพหัวใจ ผิวพรรณ และช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง

ไลโคปีนไม่ควรกินกับอะไร?

ไลโคปีน ไม่ควรทานร่วมกับ ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเลือดออก ไม่ควรทานพร้อมกับ อาหารเสริมไลโคปีนหรือ beta carotene ในปริมาณสูง เนื่องจากอาจเกิดการสะสม ควรหลีกเลี่ยงการทาน พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะลดประสิทธิภาพการดูดซึม

ถ้ารับไลโคปีนมากเกิน จะเป็นยังไง?

การรับไลโคปีนมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะ ที่เรียกว่า lycopenemia ซึ่งทำให้ผิวหนัง เปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง คล้ายแคโรทีน โดยไม่อันตรายร้ายแรง แต่เป็นสัญญาณ ของการสะสมในร่างกาย นอกจากนี้ การรับประทานในปริมาณสูงเกิน อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่นคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดท้อง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง