นึกไม่ถึง ผลไม้อะไรที่มี Linamarin สูง

ผลไม้อะไรที่มี Linamarin สูง

ผลไม้อะไรที่มี Linamarin สูง อาจเป็นคำถาม ที่น้อยคนนักจะนึกถึง แต่ลินามารินมีความเกี่ยวข้อง กับสารประกอบธรรมชาติ ที่ซ่อนอยู่ในพืช และผลไม้บางชนิด ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Cyanogenic Glycosides การทำความเข้าใจว่าผลไม้ชนิดใดมีสารนี้ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ เพื่อทราบความปลอดภัยด้านอาหาร ในชีวิตประจำวัน

  • ลินามารินคืออะไร?
  • ผลไม้อะไรที่มีลินามารินสูง?
  • ผลกระทบจากการได้รับลินามาริน

สารพิษลินามาริน คืออะไร?

ผลไม้อะไรที่มี Linamarin สูง

ลินามารินคือสารธรรมชาติ ในกลุ่มไซยาโนเจนิกไกลโคไซด์ ที่พบได้ในพืชหลายชนิด มักพบในมันสำปะหลัง, ถั่ว Lima, flaxseed และผลไม้บางชนิด สารลินามาริน สามารถถูกย่อยสลายโดย Enzyme หรือจุลินทรีย์ในลำไส้ กลายเป็น hydrogen cyanide ซึ่งมีพิษต่อร่างกาย หากได้รับในปริมาณมาก อาจเกิดอันตรายได้

ด้วยเหตุนี้ พืชที่มีลินามารินสูง จึงจำเป็น ต้องผ่านการเตรียมอาหาร อย่างเหมาะสม เช่นการล้าง แช่น้ำ ต้ม หรือหมัก เพื่อช่วยลดระดับสารพิษ ให้อยู่ในปริมาณที่ปลอดภัย การปรุงที่ถูกต้อง จึงเป็นกุญแจสำคัญ ที่ทำให้เรา สามารถรับประทานพืชเหล่านี้ได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (25 พฤศจิกายน 2018) [1]

ประวัติ ลินามาริน การค้นพบ

สารลินามาริน ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1903 โดยนักเคมี Dunstan และ Henry ขณะสกัดสารจากถั่วลิมา ซึ่งในตอนนั้น ถูกเรียกว่า phaseolunatin ก่อนที่จะได้รับการระบุว่า แท้จริงแล้ว คือลินามาริน ที่อยู่ในกลุ่มไซยาโนเจนิกไกลโคไซด์ การค้นพบนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้วงการวิทยาศาสตร์ สนใจศึกษาสารนี้มากขึ้น

ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 20 นักวิจัยได้หันมาศึกษา สารลินามารินอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชอาหารหลัก ในหลายประเทศเขตร้อน พบว่าลินามาริน เป็นแหล่งไซยาโนเจนิกไกลโคไซด์หลัก ของมันสำปะหลัง และเมื่อถูกย่อยสลาย จะปล่อยไฮโดรเจนไซยาไนด์ ที่มีพิษออกมา

ทำให้การค้นพบ ในช่วงปีดังกล่าว ไม่เพียงแต่มีความสำคัญ ทางชีวเคมี แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงความปลอดภัยทางอาหาร และสุขภาพของผู้บริโภค จึงมีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านกลไกการสังเคราะห์ และผลกระทบ อันตรายต่อร่างกายของมนุษย์ (25 ตุลาคม 2024) [2]

งานวิจัยสารลินามาริน ต้านมะเร็ง

งานวิจัยปีใน 2024 ศึกษาความเป็นไปได้ ของสารลินามาริน ในฐานะสารต้านมะเร็ง โดยใช้การคำนวณเชิงทฤษฎี เพื่อตรวจสอบ กระบวนการสลายตัว ของลินามารินผ่านเอนไซม์ β-glucosidase ในร่างกายมนุษย์ นักวิจัยยังได้ออกแบบอนุพันธ์ ของลินามาริน เพื่อเปรียบเทียบศักยภาพ ในการปล่อยไฮโดรเจนไซยาไนด์

ที่มีผลต่อการทำลายเซลล์มะเร็ง ซึ่งการทำความเข้าใจกลไกเหล่านี้ ช่วยเปิดโอกาส ในการพัฒนาสารต้นแบบ ที่มีคุณสมบัติทางยามากขึ้น ผลการวิเคราะห์ ชี้ว่าอนุพันธ์บางชนิด โดยเฉพาะแบบ α-anomeric มีแนวโน้ม สลายตัวได้ง่ายกว่า และมีประสิทธิภาพสูงกว่า

ขึ้นอยู่กับโครงสร้าง และคุณสมบัติของกลุ่ม ที่แตกตัวออกจากโมเลกุล งานวิจัยจึงสรุปว่า อนุพันธ์ของลินามาริน ที่มีการออกแบบอย่างเหมาะสม อาจถูกนำไปพัฒนาต่อ เป็นแนวทางใหม่ ของการสร้างยาต้านมะเร็งในอนาคตได้ (19 มกราคม 2024) [3]

ผลไม้อะไร ที่มีลินามารินสูง?

Ackee เป็นผลไม้พื้นเมือง ในแอฟริกาตะวันตก โดยเฉพาะไนจีเรีย และกานา ภายหลังถูกนำไปปลูกมาก ในจาเมกา และแถบแคริบเบียน จุดเด่นคือผลสุก จะเปิดออกเองตามธรรมชาติ ภายในมีเนื้อสีเหลืองครีม ที่รับประทานได้ แต่ถ้ายังไม่สุก จะมีสารพิษไซยาโนเจนิกไกลโคไซด์ โดยเฉพาะ ลินามารินและ hypoglycin A

อีกชนิดคือพืชในสกุล Passiflora หรือสกุลเสาวรส เป็นผลไม้เขตร้อน ที่นิยมรับประทานกันทั่วไป ในการวิเคราะห์ บางงานวิจัย พบว่ามีลินามาริน ในปริมาณเล็กน้อย โดยเฉพาะในส่วนใบ และเมล็ด ส่วนเนื้อผล ที่เรากินกัน มักมีระดับต่ำมาก จนถือว่าปลอดภัย แต่ก็จัดเป็นหนึ่งในผลไม้ ที่ตรวจพบสารนี้ได้เช่นกัน

ผลกระทบ จากการได้รับลินามาริน

  • กระตุ้นการปล่อยไฮโดรเจนไซยาไนด์ รบกวนการทำงานของเอนไซม์ ที่ใช้ในกระบวนการหายใจ ในระดับเซลล์ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน
  • อาการเฉียบพลัน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มึนงง เวียนศีรษะ หายใจหอบ ใจสั่น
  • อาการรุนแรง เมื่อได้รับมาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง เกร็ง ชัก หมดสติ หรือเสียชีวิต จากการขาดออกซิเจนเฉียบพลัน
  • การได้รับเรื้อรัง ปริมาณน้อย เช่นจากการรับประทานมันสำปะหลัง ที่ปรุงไม่ถูกวิธี มาเป็นเวลานาน อาจเกิดโรคประสาทเรื้อรัง เช่นอัมพาตขาเฉียบพลัน ที่มักพบบางชุมชน ในประเทศแอฟริกา
  • ผลต่อระบบต่อมไทรอยด์ สารไซยาไนด์ที่ปล่อยออกมา อาจรบกวนการดูดซึมไอโอดีน ทำให้เสี่ยงคอพอกในผู้ที่ได้รับต่อเนื่อง

ได้รับลินามารินเท่าไหร่ ถึงอันตราย?

ลินามารินเอง ไม่ใช่พิษโดยตรง แต่เมื่อผ่านระบบ การย่อยอาหาร ภายในร่างกาย จะปล่อยก๊าซไฮโดรเจนไซยาไนด์ออกมา ซึ่งเป็นตัวการ ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ งานวิจัยด้านพิษวิทยา ระบุว่าการได้รับไซยาไนด์ ในระดับ 0.5–3.5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สามารถทำให้เกิดพิษได้

หากได้รับสูงถึง 3–5 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม อาจถึงขั้นเสียชีวิต ปริมาณที่เป็นอันตราย จึงขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว ของผู้บริโภค และความเข้มข้น ของสารในอาหาร ในพืชอย่างมันสำปะหลังสด โดยเฉพาะบางสายพันธุ์ อาจมีไซยาไนด์ จากลินามารินสูงถึง 50–400 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม หากกินสดๆ ไม่กี่ร้อยกรัม ก็เป็นอันตรายได้

สรุปแล้ว ผลไม้อะไรที่มีลินามารินสูง

ผลไม้ที่มีการรายงานพบสารนี้คือ Ackee และเสาวรส แม้ผลไม้ส่วนใหญ่ จะมีปริมาณต่ำมาก แต่ถ้ารับประทาน ในรูปแบบที่ไม่สุก หรือไม่ผ่านการปรุงที่เหมาะสม ก็อาจเป็นอันตรายได้ การรู้จักวิธีเตรียมอาหารที่ถูกต้อง จึงเป็นหัวใจสำคัญ เพราะช่วยให้เราสามารถรับประทานผลไม้เหล่านี้ ได้อย่างปลอดภัย

ใครควรระวัง สารลินามาริน?

กลุ่มที่ควรระวัง การได้รับลินามารินเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายกำจัดสารพิษได้ช้า รวมถึงผู้ที่ขาดสารอาหาร ซึ่งทำให้ร่างกาย ไวต่อพิษไซยาไนด์มากขึ้น นอกจากนี้ คนที่บริโภคมันสำปะหลังเป็นอาหารหลัก ในปริมาณมาก และไม่ได้ผ่านการปรุงอย่างถูกวิธี ก็มีความเสี่ยงสูง

ทานผลไม้ยังไง ให้ลดลินามาริน?

วิธีที่ช่วยลดปริมาณลินามาริน สำหรับผลไม้ ควรรับประทานแบบสุก ไม่ควรกินดิบ สำหรับมันสำปะหลังไม่ได้เป็นผลไม้ แต่เป็นพืชที่มีสารลินามารินสูงที่สุด ควรแช่ในน้ำข้ามคืน แล้วนำไปต้มทิ้งน้ำ หรือนำไปหมัก ตากแห้ง เนื่องจากน้ำและความร้อน จะช่วยล้าง และทำลายเอนไซม์ ที่ทำให้เกิด hydrogen cyanide

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง