
ผลไม้อะไรที่มี Antioxidants สูง เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระ มีบทบาทสำคัญในการปกป้องร่างกาย จากความเสียหาย ของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เซลล์เสื่อมสภาพ และก่อโรคเรื้อรัง การเลือกทานผลไม้ ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเป็นวิธีช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และชะลอความเสื่อมของร่างกาย
แนวคิดเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ เริ่มต้นขึ้น ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยในปี 1922 นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Moureu และ Dufraisse ใช้คำว่า “antioxygènes” เพื่ออธิบายสารที่ช่วยยับยั้งการเกิด oxidation ในอุตสาหกรรม เช่น การทำให้น้ำมัน ไม่เหม็นหืน และการป้องกันการเสื่อมสภาพ ของวัสดุบางชนิด
ในทศวรรษ 1920s มีการค้นพบว่า Vitamin E สามารถทำหน้าที่ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในไขมัน ถือเป็นก้าวสำคัญ ที่เชื่อมโยงสารต้านอนุมูลอิสระ กับสิ่งมีชีวิต และโภชนาการ ในปี 1969 นักวิจัย McCord และ Fridovich ค้นพบเอนไซม์ Superoxide Dismutase ซึ่งเป็นเอนไซม์ตัวแรกในร่างกาย ที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ
การค้นพบนี้ ยืนยันว่าร่างกาย มีระบบป้องกันตัวเอง จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ โดยธรรมชาติ ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระ ได้รับการยอมรับว่า เป็นองค์ประกอบสำคัญ ในการปกป้องเซลล์ และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง (1 สิงหาคม 2025) [1]
ที่มา: Health Benefits of-Antioxidants (21 เมษายน 2025) [2]
สำหรับปริมาณ ของสารต้านอนุมูลอิสระต่อวัน ยังไม่มีการกำหนดค่าที่แน่นอน แต่แนะนำให้บริโภคผัก และผลไม้หลากสี อย่างน้อยวันละ 400–500 กรัม เพื่อให้ได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะ Vitamin C, Vitamin E และ polyphenols ซึ่งเป็นสารสำคัญ ในการต้านอนุมูลอิสระ
ที่มา: 14 Healthy Foods High in-Antioxidants (14 กุมภาพันธ์ 2024) [3]
สารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้ ในปริมาณที่พอดี ไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่หากใช้อาหารเสริม ในปริมาณสูงอาจเกิดผลข้างเคียง เช่นการทานวิตามินอีมากเกินไป อาจทำให้เลือดออกง่ายหรือ beta-carotene ในปริมาณสูง อาจไม่เหมาะกับผู้สูบบุหรี่ ดังนั้นควรเน้นการได้รับจากอาหารธรรมชาติเป็นหลัก
ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ Blueberries, Strawberries, Goji berries และ Raspberries ผลไม้เหล่านี้ ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ เสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง การรับประทานเป็นประจำ และหลากหลาย จะช่วยให้ร่างกาย ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ครบถ้วนและเพียงพอ
ร่างกายสร้างอนุมูลอิสระ จากหลายปัจจัย เช่นการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การได้รับแสงแดดจัด หรือรังสี UV การเผชิญมลภาวะ และสารเคมี ความเครียดเรื้อรัง การนอนหลับไม่เพียงพอ รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว น้ำตาลสูง หรืออาหารแปรรูปเป็นประจำ
ผู้ที่ควรเน้นการรับประทานอาหาร ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นพิเศษ ได้แก่ คนที่มีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง และผู้ที่มีภาวะเครียด จากการทำงาน หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงผู้สูงอายุที่เซลล์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และมีภูมิคุ้มกันลดลง ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ