
ประโยชน์ ของการทานผลไม้ ผลไม้ถือเป็นสารอาหารจากธรรมชาติที่ทั้งอร่อย และเต็มไปด้วยคุณค่าโภชนาการ ตั้งแต่สมัยโบราณ มนุษย์ก็ใช้เป็นแหล่งพลังงานหลัก ไม่เพียงเพราะรสชาติหวานหอม และทานง่าย แต่ยังเพราะผลไม้ให้สารอาหารสำคัญ ที่ช่วยหล่อเลี้ยงร่างกาย
ในเชิงพฤกษศาสตร์ ผลไม้คือส่วนของพืชมีดอก ซึ่งเกิดจากรังไข่ที่สุกแล้ว และมีเมล็ด โดยมีบทบาทหลัก ในการปกป้อง และแพร่กระจายเมล็ดพันธุ์ ในภาษาทั่วไป ผลไม้มักหมายถึงส่วนที่มีรสหวาน หรือเปรี้ยว ทานได้สด ซึ่งต่างจากนิยามทางพฤกษศาสตร์ที่กว้างกว่า
การเพาะปลูกผลไม้ เริ่มขึ้นในช่วงยุคหินใหม่ เมื่อมนุษย์เปลี่ยนจากการเก็บของป่า มาสู่การตั้งรกราก และเพาะปลูกพืชอย่างเป็นระบบ หลักฐานที่สำคัญคือ การปลูกผลไม้จำพวกแตง ในเมโสอเมริกาเมื่อราว 9,300 ปีก่อนคริสตกาล และการเพาะปลูกกล้วย ที่เกาะนิวกินีระหว่าง 8,000–5,000 ปีก่อนคริสตกาล
ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน ต้นมะกอก ถูกเพาะปลูกตั้งแต่ช่วง 8,000–6,000 ก่อนคริสตกาลใน Levant และถูกขยายการเพาะปลูกผ่านโฟนิคส์และชาวกรีก ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา เริ่มมีการแลกเปลี่ยนพืชผล เช่นมะเขือเทศ มันฝรั่ง มะเขือม่วง เข้าสู่ยุโรป และโลกใหม่ ผ่านการสำรวจของยุโรป (8 สิงหาคม 2025) [1]
แนะนำว่าควรบริโภคผลไม้วันละ 2 หน่วยบริโภค ควบคู่กับผักวันละ 2 หน่วยบริโภค เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารเพียงพอ โดยปริมาณ 1 หน่วยผลไม้ หมายถึงผลไม้ขนาดกลาง 1 ผล เช่นแอปเปิล ส้ม ลูกแพร์ หรือกล้วยขนาดกลาง 1 ผล (ประมาณ 120–130 กรัม)
หรือผลไม้หั่น เช่น มะละกอ แตงโม 1 ถ้วย (130 กรัม) หรือองุ่นประมาณ 10 เม็ด (50 กรัม) เป็นต้น แนวทางนี้เน้นให้จัดอาหารแต่ละมื้อ ให้มีผลไม้ และผักครึ่งจาน เพื่อให้ถึงปริมาณที่เพียงพอ การทานผลไม้และผักในปริมาณที่เหมาะสมทุกวัน ยังช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง (4 กรกฎาคม 2025) [2]
ใยอาหารจากผลไม้และผัก มีส่วนช่วยลดการเกิดของโรคหัวใจ และภาวะอ้วน จากงานวิจัยโดย Slavin & Lloyd ปี 2012 การทบทวนโดย Alahmari ปี 2024 พบว่าใยอาหารช่วยดูแลระบบกระบวนการเผาผลาญสารอาหารภายในร่างกาย และสุขภาพโดยรวม ใยอาหารจากแหล่งพืช ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
ไฟเบอร์มีประโยชน์ต่อหัวใจ ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาล ช่วยรู้สึกอิ่ม ควบคุมน้ำหนัก การศึกษาล่าสุดพบว่าการบริโภคใยอาหารมากกว่า 20.8 กรัมต่อวัน มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอ้วนที่ต่ำลง อย่างมีนัยสำคัญ และอัตราการเสียชีวิตโดยรวมต่ำที่สุด เมื่อบริโภคอยู่ที่ประมาณ 26.3 กรัมต่อวัน (6 กรกฎาคม 2012) [3]
ผลไม้ไม่เพียงแต่เป็นของหวานที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แต่ยังเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยป้องกันโรค บำรุงสุขภาพ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิต การทานผลไม้หลากหลายชนิด ในปริมาณที่เหมาะสมทุกวัน จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สมองปลอดโปร่ง และผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการดูแลสุขภาพ
ผลไม้เป็นแหล่งสารอาหารสำคัญ ที่มีทั้งวิตามินหลากชนิด เช่นวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินอี รวมถึงแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และแมงกานีส อุดมไปด้วยใยอาหาร นอกจากนี้ยังมีน้ำตาลธรรมชาติ ที่ให้พลังงาน และสารต้านอนุมูลอิสระ
เลือกผลไม้สดตามฤดูกาล เพื่อให้ได้สารอาหารเต็มที่ และราคาย่อมเยา ควรล้างผลไม้ให้สะอาดก่อนทานเพื่อลดสารเคมีตกค้าง หลีกเลี่ยงผลไม้เชื่อม หรือแปรรูปที่มีน้ำตาลสูง ควรทานผลไม้ให้หลากหลาย ไม่ทานอยู่เพียงชนิดเดียว เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน