
ธัญพืชอะไรที่มี Vitamin B1 คือคำถามที่ดูธรรมดา แต่สำคัญกว่าที่คิด เพราะคำตอบไม่ได้มีแค่เรื่องชนิดธัญพืชเท่านั้น แต่มีตั้งแต่กระบวนการแปรรูป วิธีหุงต้ม การจับคู่กิน บทความนี้จะพาไล่ตั้งแต่ที่มา หน้าที่ ประโยชน์ ปริมาณที่ควรได้ต่อวัน ไปจนถึงรวมลิสต์ธัญพืชวิตามินบีหนึ่งสูง
วิตามินบีหนึ่งหรือ Thiamine เริ่มเป็นที่สนใจ จากการพบโรคเหน็บชา ในผู้ที่ทานข้าวขัดสี ในปลายศตวรรษที่ 19 โดยแพทย์ชาวดัตช์ Christiaan Eijkman ได้ทดลองกับไก่ในปี ค.ศ. 1897 และพบว่าไก่ที่กินข้าวขัดสี มีอาการคล้ายเหน็บชา แต่เมื่อให้กินข้าวกล้องอาการกลับดีขึ้น สันนิษฐานว่ามีสารสำคัญในเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว
ต่อมาในปี ค.ศ. 1910 Umetaro Suzuki นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นสามารถสกัดสารจากรำข้าว ที่มีฤทธิ์รักษาเหน็บชาได้ และในปี ค.ศ. 1912 Casimir Funk ได้บัญญัติคำว่า vitamine ขึ้นมาเพื่ออธิบายสารต้านการขาดสารอาหาร รวมถึงวิตามินบีหนึ่งด้วย
ความก้าวหน้าสำคัญเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1926 เมื่อ Barend Jansen และ Willem Donath แยกสารบริสุทธิ์จากรำข้าวได้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1934 Robert Runnels Williams นักเคมีชาวอเมริกัน ได้หาสูตรโครงสร้างทางเคมีของ Thiamine และในปี ค.ศ. 1936 เขาสามารถสังเคราะห์สารนี้ได้สำเร็จ ในห้องปฏิบัติการ (21 สิงหาคม 2025) [1]
ที่มา: 6 Health Benefits of Thiamine (15 มกราคม 2024) [2]
สำหรับทารก วิตามินบีหนึ่งที่ควรได้รับต่อวันอยู่ในระดับต่ำ โดยทารกอายุ 0–6 เดือน ต้องการเพียงประมาณ 0.2 มิลลิกรัมและเพิ่มขึ้นเป็น 0.3 มิลลิกรัมในช่วงอายุ 7–12 เดือน เมื่อเข้าสู่วัยเด็ก ความต้องการจะค่อยๆ สูงขึ้น เด็กอายุ 1–3 ปีควรได้รับราว 0.5 มิลลิกรัมต่อวัน และเมื่อโตเป็น 4–8 ปีเพิ่มเป็น 0.6 มิลลิกรัมต่อวัน
สำหรับวัยรุ่น ความต้องการจะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วัยรุ่นอายุ 9–13 ปีควรได้รับประมาณ 0.9 มิลลิกรัมต่อวันและเมื่อเข้าสู่วัย 14–18 ปี เพศชายต้องการสูงกว่า คือประมาณ 1.2 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนเพศหญิงควรได้รับราว 1.0 มิลลิกรัมต่อวัน
ในกลุ่มผู้ใหญ่ อายุ 19–50 ปี ผู้ชายควรได้รับประมาณ 1.2 มิลลิกรัมต่อวันขณะที่ผู้หญิงควรได้รับ 1.1 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ปริมาณที่ต้องการจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อรองรับพัฒนาการของทารก ส่วนผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 51 ปีขึ้นไป ผู้ชาย 1.2 มิลลิกรัมและผู้หญิง 1.1 มิลลิกรัม (9 กุมภาพันธ์ 2023) [3]
ธัญพืชที่มีวิตามินบีหนึ่งสูงคือ โฮลเกรนและส่วนที่ถูกขัดออก เช่นจมูกข้าวสาลี รำข้าวสาลี ข้าวกล้อง โอ๊ต ลูกเดือย ควินัว Teff ข้าวฟ่าง Rye และข้าวบาร์เลย์ ใช้วิธีลดการต้มทิ้งน้ำ งดชากาแฟพร้อมมื้อที่มีธัญพืช และเพิ่มเทคนิคแช่น้ำ ทำให้งอก หรือหมัก ทำเมนูหมุนเวียนให้หลากหลาย เท่านี้ก็จะได้ประโยชน์จากธัญพืชเต็มๆ
โดยทั่วไปแล้วหากรับประทานอาหารครบถ้วน และหลากหลาย ร่างกายมักได้รับวิตามินบีหนึ่งเพียงพอ จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งอาหารเสริม ยกเว้นในกลุ่มที่มีความเสี่ยง หรือผู้ที่ได้รับโภชนาการไม่ครบถ้วน ซึ่งในกรณีเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาการเสริมวิตามินบีหนึ่งอย่างเหมาะสม
วิตามินบีหนึ่งควรทานร่วมกับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันดี เนื่องจากวิตามินบีหนึ่งมีบทบาทหลัก ในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงาน เสริมด้วยแหล่งโปรตีน เช่นเนื้อไม่ติดมัน ถั่ว เมล็ดพืช รวมถึงไขมันดีจากอะโวคาโด หรือถั่วเปลือกแข็ง เพื่อช่วยการดูดซึมและการทำงาน