คำถามที่น่าคิด ธัญพืชอะไรที่มี Manganese สูง

ธัญพืชอะไรที่มี Manganese สูง

ธัญพืชอะไรที่มี Manganese สูง เป็นคำถามที่น่าคิด เพราะแมงกานีสเป็นแร่ธาตุ ที่ร่างกายต้องใช้ทุกวัน เพื่อสร้างพลังงาน ปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างกระดูกข้อต่อ และสนับสนุนการทำงานของสมอง จุดสำคัญคือแมงกานีสในธัญพืช มักจะอยู่มากใน bran และ germ เราจะพาไปดูว่าธัญพืชอะไรที่มีแมงกานีสสูงบ้าง

  • แมงกานีสทำหน้าที่อะไรในร่างกาย?
  • แมงกานีสปริมาณต่อวัน
  • ธัญพืชที่มีแมงกานีสสูง

ที่มา แมงกานีส ประวัติการค้นพบ

แมงกานีสถูกกล่าวถึง ตั้งแต่สมัยโบราณ ในรูปของสารประกอบออกไซด์เช่น pyrolusite ที่ใช้ทำสีแก้ว และทำให้แก้วใส ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เริ่มมีการศึกษาอย่างจริงจัง โดยปี ค.ศ. 1740 นักเคมีชาวเยอรมัน Johann Heinrich Pott ได้รายงานการทดลองเผาแร่ pyrolusite แต่ไม่สามารถสกัดโลหะออกมาได้

ต่อมาในปี ค.ศ. 1774 Carl Wilhelm Scheele นักเคมีชื่อดังชาวสวีเดน ได้ค้นพบว่า pyrolusite ไม่ใช่สารประกอบของเหล็กตามที่เคยเชื่อ แต่มีธาตุใหม่ซ่อนอยู่ในนั้น และในปีเดียวกัน Johan Gottlieb Gahn นักเคมี และนักแร่ศาสตร์ เพื่อนร่วมงานของ Scheele ก็สามารถแยกโลหะแมงกานีสบริสุทธิ์ได้เป็นครั้งแรก

การค้นพบนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทำให้แมงกานีสถูก จัดว่าเป็นธาตุใหม่ และถูกเพิ่มเข้าไปในตารางธาตุในเวลาต่อมา นับจากนั้น แมงกานีสก็ถูกนำไปใช้ ทั้งในอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก การทำแก้ว การผลิตสารเคมี และต่อมาจึงพบว่ามีบทบาทสำคัญ ทางชีววิทยาในสิ่งมีชีวิต และแร่ธาตุจำเป็นสำหรับมนุษย์ด้วย (27 สิงหาคม 2025) [1]

แมงกานีสทำหน้าที่อะไรในร่างกาย?

  • เป็นส่วนหนึ่งของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ แมงกานีสเป็นองค์ประกอบของเอนไซม์ Mn-SOD ซึ่งช่วยแปลงอนุมูลอิสระ superoxide ให้กลายเป็นสาร ที่ไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ เช่นน้ำและออกซิเจน เพื่อช่วยลดความเสียหายต่อเซลล์ และภาวะออกซิเดชันในร่างกาย
  • ส่งเสริมสุขภาพกระดูก แมงกานีสร่วมกับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แคลเซียม สังกะสี และทองแดง ช่วยในการสร้างและรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ และหญิงหลังหมดประจำเดือน
  • ช่วยลดการอักเสบ ด้วยการทำงาน ร่วมกับระบบต้านอนุมูลอิสระ แมงกานีสช่วยลดความเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ ของการอักเสบเรื้อรัง และอาจช่วยลดอาการ ในโรคข้อเสื่อม หรือปวดข้อ เมื่อใช้ร่วมกับสารอื่นๆ
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และการทำงานของอินซูลิน มีหลักฐานบ่งชี้ว่า แมงกานีสมีบทบาท ในการผลิต หรือหลั่งอินซูลินในตับอ่อน และช่วยกระตุ้นการใช้กลูโคสในเซลล์ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือเบาหวาน ควบคุมระดับกลูโคสได้ดีขึ้น
  • ช่วยสมานแผล และสร้างคอลลาเจน แมงกานีสจำเป็นในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน โดยเฉพาะกรดอะมิโน proline ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง และเยื่อเกี่ยวพัน การมีแมงกานีสเพียงพอ ช่วยให้แผลหายเร็ว และโครงสร้างเนื้อเยื่อ ฟื้นตัวดีขึ้น
  • สนับสนุนการเผาผลาญสารอาหาร แมงกานีสช่วยกระตุ้นเอนไซม์หลายชนิด ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน และคอเลสเตอรอล ส่งผลให้ร่างกาย สามารถแปลงอาหาร เป็นพลังงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ส่งเสริมสุขภาพสมอง ระบบประสาท แมงกานีสมีบทบาท ในการทำงานของระบบประสาท เช่นช่วยในการส่งสัญญาณประสาท และปกป้องเซลล์ประสาท จากความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ และความจำ

ที่มา: 10 Evidence-Based Benefits of Manganese (20 กรกฎาคม 2023) [2]

แมงกานีสกำหนดปริมาณต่อวันเท่าไหร่?

แมงกานีสไม่มี Recommended Dietary Allowance (RDA) ที่กำหนดแบบแน่นอน เนื่องจากหลักฐานยังไม่เพียงพอ ที่จะกำหนดปริมาณที่เหมาะสมทั่วไป สำหรับคนทุกกลุ่ม แต่มีการแนะนำ Adequate Intake (AI) สำหรับแต่ละช่วงอายุ และเพศแทน เพื่อให้ได้ปริมาณที่ถือว่าเพียงพอ สำหรับการทำงานของร่างกาย

โดยสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป ที่ชายอายุมากกว่า 19 ปี ควรได้รับแมงกานีสประมาณ 2.3 มิลลิกรัม/วัน ส่วนผู้หญิงอายุเท่าเดิมควรได้ประมาณ 1.8 มิลลิกรัม/วัน และในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร อาจมีการปรับขึ้นเล็กน้อย ตามคำแนะนำเฉพาะ

ด้านบนสุดของช่วงที่ปลอดภัย สำหรับผู้ใหญ่กำหนดไว้ที่ 11 มก./วัน ซึ่งเป็นขีดที่อาจมีความเสี่ยง หากรับเกินติดต่อกันเป็นเวลานาน แม้งานวิจัยจะไม่พบผลเสียจากการได้รับแมงกานีส จากอาหารธรรมชาติเกินปกติ แต่การได้รับแมงกานีส ในรูปแบบเสริมขนาดสูง อาจเสี่ยงต่อระบบประสาทได้ (5 กุมภาพันธ์ 2025) [3]

ธัญพืชอะไรที่มีแมงกานีสสูง?

ธัญพืชอะไรที่มี Manganese สูง

ธัญพืชอะไร ที่มีแมงกานีสสูง โดยปริมาณต่อ 100 กรัม มีดังนี้

  • ข้าวโอ๊ต 4.9 มก. โดนเด่นด้วยไฟเบอร์ และแมงกานีส ช่วยให้อิ่มนาน และเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับอาหารเช้า
  • Buckwheat 1.3–1.5 มก. แม้ไม่ใช่ธัญพืชแท้ แต่จัดเป็นกึ่งธัญพืช ที่มีแมงกานีสสูง และเหมาะกับคนที่หลีกเลี่ยงกลูเตน
  • Amaranth 1.2–1.3 มก. มีโปรตีนครบ มีกรดอะมิโน และยังเป็นแหล่งแมงกานีสที่ดี เหมาะกับการทำเป็นโจ๊ก หรือสลัดธัญพืช
  • Teff 1.0–1.2 mg. ธัญพืชจากเอธิโอเปีย อุดมด้วยแร่ธาตุ รวมถึงแมงกานีส มักใช้ทำแผ่นแป้ง
  • Quinoa 1.0 mg. ได้ทั้งแมงกานีส โปรตีน และไฟเบอร์ มักใช้แทนข้าว ในมื้ออาหาร เพื่อเพิ่มความหลากหลาย
  • ข้าวกล้อง 1.0 mg. แมงกานีสส่วนใหญ่อยู่ในรำข้าว ทำให้ข้าวกล้องมีคุณค่ามากกว่าข้าวขัดสี
  • ลูกเดือย 0.6–0.7 มิลลิกรัม ธัญพืชที่ปลอดกลูเตน อุดมด้วยแมงกานีส เหมาะกับการหุงแทนข้าว หรือโรยในสลัด

ถ้าขาดแมงกานีสจะเป็นยังไง?

อาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดแมงกานีส มีดังนี้

  • กระดูกเปราะบาง เสี่ยงต่อความหนาแน่นกระดูกลดลง และกระดูกหักง่าย
  • เจริญเติบโตช้า ในเด็กอาจส่งผลต่อพัฒนาการ และการเจริญเติบโต
  • ควบคุมน้ำตาลผิดปกติ อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สมดุล
  • ปัญหาระบบประสาท มีอาการเวียนศีรษะ เดินเซ หรือการทรงตัวแย่ลง
  • สมานแผลช้า เพราะแมงกานีส มีบทบาทในการสร้างคอลลาเจน และเอนไซม์ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

ถ้าได้รับแมงกานีสมากเกินไปจะเป็นยังไง?

  • หากร่างกายได้รับแมงกานีสมากเกินไป อาจเกิดผลเสียดังนี้
  • ระบบประสาทผิดปกติ มีอาการสั่น กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง เดินลำบาก คล้ายโรคพาร์กินสัน
  • ปัญหาทางจิตประสาท เช่นหงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า หรืออารมณ์แปรปรวน
  • ระบบย่อยอาหารระคายเคือง อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง
  • สะสมในตับและไต ถ้าได้รับสูงต่อเนื่อง อาจกระทบการทำงานของอวัยวะเหล่านี้

ธัญพืชอะไรที่มีแมงกานีสสูง กล่าวโดยสรุป

ธัญพืชที่มีแมงกานีสสูง คำตอบคือ ข้าวโอ๊ต, Buckwheat, Amaranth, Teff, Quinoa, ข้าวกล้อง และลูกเดือยควรทานเป็นประจำ และหมุนเวียนกันไป เพียงเท่านี้ ก็สามารถได้รับประโยชน์ จากอาหารแมงกานีส ในอาหารทุกมื้อได้ โดยไม่ต้องใช้อาหารเสริม แถมได้ไฟเบอร์ วิตามิน และสารพฤกษเคมีอีกด้วย

แมงกานีสควรทานกับอะไร?

แมงกานีสควรทานร่วมกับอาหาร ที่มีโปรตีนคุณภาพดี และวิตามินซี เช่นถั่ว ปลา เนื้อไม่ติดมัน ผักและผลไม้รสเปรี้ยว เพราะช่วยเสริมการดูดซึม และการทำงานของแมงกานีส ในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน และการสร้างคอลลาเจน

แมงกานีสไม่ควรทานกับอะไร?

แมงกานีสไม่ควรทานพร้อมกับชา กาแฟ หรืออาหารที่มี Tannins และ phytates สูงเกินไป เพราะสารเหล่านี้ จะรบกวนการดูดซึม นอกจากนี้การได้รับแร่ธาตุบางชนิดในปริมาณมาก เช่นเหล็ก แคลเซียม หรือฟอสเฟต อาจแย่งการดูดซึมกับแมงกานีสได้เช่นกัน ควรแยกเวลากินจากแมงกานีส เพื่อไม่ให้ร่างกายดูดซึมได้น้อยลง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง