รู้หรือไม่ว่า ธัญพืชอะไรที่มี Magnesium สูง

ธัญพืชอะไรที่มี Magnesium สูง

ธัญพืชอะไรที่มี Magnesium สูง หลายคนคุ้นกับธาตุเหล็ก หรือแคลเซียม แต่กลับมองข้ามแมกนีเซียม ทั้งที่จริงแล้วคือแร่ธาตุพื้นฐาน ที่อยู่เบื้องหลังพลังงาน การควบคุมกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ความดันโลหิต และการสร้างโปรตีนของร่างกาย รู้หรือไม่ว่าธัญพืช เป็นหนึ่งในแหล่งอาหารสำคัญ โดยเฉพาะส่วนรำ และจมูกของเมล็ด

  • ประโยชน์ของแมกนีเซียม
  • ธัญพืชอะไรที่มี Magnesium สูง
  • ปริมาณแมกนีเซียมที่แนะนำต่อวัน

แร่ธาตุ Magnesium คืออะไร?

แมกนีเซียม คือแร่ธาตุที่จำเป็น ต่อการทำงานของร่างกายมนุษย์ โดยมีบทบาทสำคัญ ต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือด ระบบประสาท กล้ามเนื้อ และกระดูก รวมถึงการควบคุมระดับแคลเซียม และน้ำตาลในเลือด และมีส่วนช่วย ในการผลิตโปรตีน มีส่วนให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี ภายในร่างกายมากกว่า 300 กระบวนการ

แมกนีเซียมจึงเป็นแร่ธาตุสำคัญ ที่ช่วยให้ร่างกาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้การทำงานของระบบประสาท เป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพกล้ามเนื้อ ระบบหัวใจ หรือกระบวนการสร้างโปรตีน ซึ่งหากร่างกายขาดแมกนีเซียม อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ (3 มิถุนายน 2025) [1]

ประวัติ การค้นพบแมกนีเซียมครั้งแรก

แมกนีเซียมมีชื่อมาจากเมือง Magnesia ในกรีก และเริ่มถูกศึกษาอย่างจริงจังในปี 1755 เมื่อนักเคมีชาวสก็อต Joseph Black แสดงให้เห็นว่า magnesia alba หรือแมกนีเซียมออกไซด์นั้น ไม่ใช่แคลเซียมออกไซด์ แต่เป็นสารประกอบใหม่ ที่แตกต่างออกไป

จากนั้นในปี 1808 Sir Humphry Davy นักเคมีชาวอังกฤษใช้วิธี electrolysis กับแมกนีเซียมออกไซด์ และบางครั้ง ผสมกับปรอทออกไซด์ ยืนยันได้ว่า มันคือออกไซด์ ของโลหะใหม่ แม้จะยังไม่สามารถแยกแมกนีเซียมโลหะ ในรูปบริสุทธิ์ได้ก็ตาม

ต่อมาในปี 1831 Antoine-Alexandre-Brutus Bussy นักเคมีชาวฝรั่งเศส ประสบความสำเร็จในการผลิตแมกนีเซียม ในรูปโลหะบริสุทธิ์ นับเป็นการค้นพบ ที่ทำให้แมกนีเซียม กลายเป็นธาตุ ที่ได้รับการยอมรับ และถูกนำไปศึกษาต่อ ทั้งในเชิงเคมี และการใช้งานจริงในเวลาต่อมา (11 สิงหาคม 2025) [2]

แมกนีเซียมมีประโยชน์ยังไงต่อร่างกาย?

  • ช่วยดูแลหัวใจ และควบคุมความดันโลหิต แมกนีเซียมควบคุมการเต้นของหัวใจ ให้เป็นปกติ ลดความเสี่ยงความดันโลหิตสูง และช่วยให้ระบบหลอดเลือด ทำงานได้ดี
  • บำรุงกระดูก มีบทบาทในการสร้าง และรักษาความแข็งแรง ของกระดูก ช่วยลดโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุน เมื่ออายุมากขึ้น
  • ช่วยการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ แมกนีเซียมช่วยให้กล้ามเนื้อหด และคลายตัวได้ดี รวมถึงช่วยให้สัญญาณประสาทสื่อสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีความเกี่ยวข้องกับพลังงาน และการเผาผลาญ เป็นตัวช่วยสำคัญ ของเอนไซม์กว่า 300 ชนิด ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงาน การสังเคราะห์โปรตีน และการซ่อมแซมสารพันธุกรรม
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีส่วนช่วยให้ร่างกายใช้กลูโคสได้เหมาะสม ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น แมกนีเซียมช่วยปรับสมดุล สารสื่อประสาท ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย และนอนหลับลึกขึ้น
  • ลดความเครียด และความวิตกกังวล มีส่วนช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด ทำให้ร่างกาย และจิตใจสงบลง
  • ที่มา: The Surprising Health Benefits of Magnesium (6 กันยายน 2022) [3]

ธัญพืชอะไรบ้าง ที่มีแมกนีเซียมสูง?

ธัญพืชอะไรที่มี Magnesium สูง

ธัญพืชที่มีแมกนีเซียมสูงต่อปริมาณ 100 กรัม มีดังนี้

  • รำข้าวสาลีมีแมกนีเซียม 550 มก. รำข้าวสาลีมีแมกนีเซียม ที่สูงมาก เหมาะกับการนำมาเติมในขนมปัง หรือธัญพืช ผสมโยเกิร์ต ช่วยเสริมใยอาหารไปพร้อมกัน
  • ควินัวมีแมกนีเซียม 197 มก. กรัม ธัญพืชโบราณ ที่ได้รับความนิยม ในอาหารสุขภาพ มีทั้งโปรตีน และแมกนีเซียมสูง ช่วยเสริมพลังงาน และดูแลกล้ามเนื้อ
  • ข้าวโอ๊ตมีแมกนีเซียม 177 มก. ข้าวโอ๊ตอุดมด้วยแมกนีเซียม และเบต้ากลูแคน ที่ดีต่อหัวใจ เหมาะทำเป็นโจ๊กข้าวโอ๊ตหรือใส่ใน Smoothies
  • ข้าวฟ่างมีแมกนีเซียม 114 มก. เป็นธัญพืชที่ย่อยง่าย ให้พลังงาน และมีแมกนีเซียม ช่วยปรับสมดุลระบบประสาท และการนอนหลับ
  • ข้าวไรย์มีแมกนีเซียม 110 มก. มักใช้ทำขนมปังโฮลเกรน มีรสชาติเข้มข้น ให้ทั้งใยอาหารและแมกนีเซียม ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ข้าวบาร์เลย์มีแมกนีเซียม 79 มก. มีใยอาหารละลายน้ำสูง และแมกนีเซียม ที่ช่วยดูแลหัวใจ เหมาะสำหรับทำซุป หรือโจ๊กข้าวบาร์เลย์
  • ข้าวกล้องมีแมกนีเซียม 44 มก. เป็นตัวเลือกที่หาทานได้ง่าย ในชีวิตประจำวัน แม้ปริมาณแมกนีเซียมไม่สูงมาก แต่ก็เป็นแหล่งพลังงานที่ดี และไม่ผ่านการขัดสี

แมกนีเซียมควรได้รับต่อวันกี่มิลลิกรัม?

  • ผู้ชาย วัยผู้ใหญ่ อายุ 19–30 ปี ควรได้รับแมกนีเซียมประมาณ 400 มก./วัน
  • ผู้ชายอายุ 31 ปีขึ้นไป ควรได้รับแมกนีเซียมประมาณ 420 มก./วัน
  • ผู้หญิง วัยผู้ใหญ่ อายุ 19–30 ปี ควรได้รับแมกนีเซียมประมาณ 310 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ผู้หญิงอายุ 31 ปีขึ้นไป ควรได้รับแมกนีเซียม 320 มิลลิกรัมต่อวัน
  • หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับแมกนีเซียม 350–360 milligrams ต่อวัน
  • หญิงให้นมบุตร ควรได้รับแมกนีเซียม 310–320 milligrams ต่อวัน

การแปรรูปมีผลต่อแมกนีเซียมยังไง?

การแปรรูปธัญพืช มีผลอย่างมาก ต่อปริมาณแมกนีเซียม เพราะแมกนีเซียมส่วนใหญ่ จะอยู่ในรำ และจมูกข้าว เมื่อผ่านการขัดสี เพื่อให้ได้ข้าวขาว ปริมาณแมกนีเซียม จะหายไปมากกว่า 50–70% นอกจากนี้ การต้มในน้ำมากๆ แล้วเทน้ำทิ้ง ยังทำให้แมกนีเซียม ละลายออกไป รวมถึงการใช้ความร้อนสูง ก็อาจทำให้สูญเสียแร่ธาตุ

หากอยากได้รับแมกนีเซียม จากธัญพืชมากขึ้น ควรเลือกธัญพืช แบบโฮลเกรนเต็มเมล็ด เพราะยังคงมีรำ และจมูกข้าว ที่เป็นแหล่งสะสม ของแมกนีเซียม ต่างจากธัญพืชที่ผ่านการขัดสี ซึ่งมักสูญเสียแร่ธาตุ ไปเกือบทั้งหมด นอกจากนี้การหุง แทนการต้มแล้วเทน้ำทิ้ง จะช่วยเก็บรักษาแมกนีเซียมเอาไว้ได้มากกว่า

อีกวิธีหนึ่ง ที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแมกนีเซียม จากธัญพืชได้ดี ก็คือการทำให้เมล็ดงอก หรือผ่านการหมัก เช่นทำขนมปัง Sourdough หรือธัญพืชงอก เพราะจะช่วยลดสาร Phytate ที่ขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุ

ธัญพืชอะไรที่มีแมกนีเซียมสูง กล่าวโดยสรุป

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญ ที่ช่วยให้หัวใจ กล้ามเนื้อ ระบบประสาท และกระดูกทำงานได้สมบูรณ์ อีกทั้งยังมีบทบาท ในกระบวนการสร้างพลังงาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ธัญพืชเช่น รำข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ควินัว ข้าวฟ่าง และข้าวไรย์ ถือเป็นแหล่งอาหารที่ดีของแมกนีเซียม

แมกนีเซียมควรกินคู่กับอะไร?

การกินแมกนีเซียม ควรกินคู่กับอาหารที่มีไขมันดี เพราะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุได้ดีขึ้น รวมถึงการกินร่วมกับโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จากธัญพืชไม่ขัดสี จะช่วยเสริมการทำงาน ด้านพลังงาน และการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ วิตามินบีรวม และวิตามินดี ก็เป็นตัวช่วย ให้แมกนีเซียมทำงานได้ดียิ่งขึ้น

แมกนีเซียมไม่ควรกินกับอะไรบ้าง?

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือการกินแมกนีเซียม พร้อมกับคาเฟอีน ในชาและกาแฟ หรือแอลกอฮอล์ เพราะจะรบกวนการดูดซึม อีกทั้งไม่ควรกินพร้อมกับอาหารที่มี Phytate หรือสาร Tannins สูงในปริมาณมาก เพราะอาจลดประสิทธิภาพการดูดซึม และการทานแมกนีเซียม พร้อมกับแคลเซียม หรือซิงค์ ก็อาจแย่งการดูดซึมได้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง