เรื่องน่ารู้ ธัญพืชอะไรที่มี Anthocyanins สูง

ธัญพืชอะไรที่มี Anthocyanins สูง

ธัญพืชอะไรที่มี Anthocyanins สูง เป็นคำถามที่น่าสนใจ เพราะแอนโทไซยานิน คือสารสีธรรมชาติ เรามักได้ยินชื่อแอนโทไซยานินในผลไม้ตระกูลเบอร์รี แต่จริงๆแล้ว ธัญพืชหลายชนิดก็มีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะธัญพืชที่มีสีเข้ม ในบทความนี้ เราจะพาไปดูว่ามีธัญพืชอะไรบ้าง

  • Anthocyanins คืออะไร?
  • ประโยชน์ของแอนโทไซยานิน
  • ธัญพืชที่มีแอนโทไซยานินสูง

สาร Anthocyanins คืออะไร?

แอนโทไซยานิน คือสารพฤกษเคมี ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่พบมากในผลไม้ และผักที่มีสีแดง ม่วง น้ำเงิน หรือชมพู เช่นบลูเบอร์รี แบล็กเบอร์รี องุ่นแดง และกะหล่ำปลีม่วง สารนี้ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดการอักเสบ และยังมีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกายได้

งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การทานอาหาร ที่มีแอนโทไซยานินสูง สัมพันธ์กับการลดความเสี่ยง ของโรคหัวใจ เพราะสามารถช่วยปรับสมดุลไขมันในเลือด ลดการอักเสบของหลอดเลือด และยังอาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง ในผู้สูงอายุ อีกทั้งยังมีแนวโน้ม ว่าช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน และควบคุมน้ำตาลในเลือด (3 กันยายน 2024) [1]

ประวัติ การค้นพบแอนโทไซยานินครั้งแรก

ในปี 1835 นักเภสัชกรชาวเยอรมัน Ludwig Clamor Marquart ได้ตั้งชื่อสารที่ทำให้ดอกไม้มีสีฟ้าว่า Anthokyan ในงานเขียนเรื่อง Die Farben der Blüthen ซึ่งภายหลังวิวัฒนาการมาเป็นคำว่า Anthocyanin ตามศัพท์ภาษากรีกที่แปลว่า สีของดอกไม้ นับเป็นครั้งแรก ที่มีการใช้คำนี้ เพื่อลักษณะเฉพาะของเม็ดสีในพืช

ต่อมาในยุคต้นศตวรรษที่ 20 นักเคมีชาวเยอรมัน Richard Willstätter เป็นผู้ที่สามารถแยกสาร Anthocyanin จากดอกไม้ Centaurea cyanus (Cornflower) และระบุโครงสร้าง ของสารกลุ่มนี้ได้เป็นครั้งแรก ในปี 1913 โดยแยกสาร cyanidin 3,5-diglucoside ซึ่งถือเป็นโครงสร้าง Anthocyanin แรกที่ระบุอย่างเป็นทางการ (5 กันยายน 2025) [2]

ประโยชน์ของแอนโทไซยานิน คืออะไร?

  • ต้านอนุมูลอิสระ แอนโทไซยานินทำหน้าที่เป็น free-radical scavenger ช่วยดักจับ และยับยั้งการเกิดออกซิเดชัน ที่ทำลายเซลล์ จึงช่วยลดความเสี่ยง ของโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อม เช่นโรคหัวใจ และมะเร็ง
  • ลดการอักเสบ มีผลยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase และควบคุมการส่งสัญญาณของ cytokines ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ ช่วยป้องกันภาวะอักเสบเรื้อรัง ที่เป็นสาเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับ กระบวนการเผาผลาญพลังงาน และสารอาหารในร่างกาย เช่นเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ภาวะดื้ออินซูลิน
  • บำรุงหัวใจ หลอดเลือด แอนโทไซยานินช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด ลดการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ปรับสมดุลความดันโลหิต และลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • ป้องกันเบาหวาน และควบคุมระดับน้ำตาล งานวิจัยบางส่วน พบว่าแอนโทไซยานิน สามารถเพิ่มความไวต่ออินซูลิน และช่วยควบคุมระดับกลูโคสในเลือด
  • ป้องกันมะเร็ง มีหลักฐานว่า สามารถยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็งหลายชนิด ช่วยกระตุ้นการทำงาน ของยีนต้านมะเร็ง และยับยั้งการก่อตัว ของสารก่อมะเร็ง
  • บำรุงสายตา และระบบประสาท แอนโทไซยานินมีส่วนช่วย เพิ่มการไหลเวียนเลือดในดวงตา ลดความเสื่อมของจอประสาทตา และอาจช่วยปกป้องสมอง จากภาวะเสื่อม เช่นอัลไซเมอร์
  • เสริมภูมิคุ้มกัน มีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยช่วยปรับสมดุลการหลั่งสาร ที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน

ที่มา: Anthocyanidins and anthocyanins (13 สิงหาคม 2017) [3]

ธัญพืชอะไรที่มีแอนโทไซยานินสูง?

ธัญพืชอะไรที่มี Anthocyanins สูง
  • ข้าวสีนิล (Black rice, Forbidden rice) มีปริมาณแอนโทไซยานินรวม 150–250 มก./100 กรัม บางพันธุ์อาจเกิน 300 มก. ข้าวสีนิล มี cyanidin-3-glucoside เป็นสารเด่น ทำให้มีสีม่วงดำเข้ม ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง นิยมใช้ทำข้าวเหนียวดำ หรือขนมไทย
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ (Riceberry) มีปริมาณแอนโทไซยานินรวม 120–200 มก./100 g. เป็นพันธุ์ข้าวของไทย ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ มีสาร cyanidin และ peonidin ที่โดดเด่น ช่วยลดการอักเสบ และอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ข้าวกล้องแดง (Red rice) มีปริมาณแอนโทไซยานิน 50–100 มก./100 กรัม สีแดงเกิดจาก anthocyanins และ proanthocyanidins รวมกัน ให้รสออกมันและกลิ่นหอม มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด
  • ข้าวฟ่างสีดำ และสีแดง (Sorghum) มีปริมาณแอนโทไซยานินรวม 80–150 mg./100 ก. โดยพันธุ์ที่เปลือกสีเข้มจะสูงกว่า ข้าวฟ่างเป็นธัญพืชโบราณ ที่มีสารโพลีฟีนอลหลากหลาย รวมถึง tannins และ anthocyanins ให้ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง นิยมใช้ทำแป้ง ขนมปัง หรือโจ๊ก
  • ข้าวบาร์เลย์สีม่วง (Purple barley) มีปริมาณแอนโทไซยานิน 20–60 mg./100 ก มีเม็ดสีม่วงอ่อนถึงเข้ม ให้ทั้งไฟเบอร์สูง และสารต้านอนุมูลอิสระ นิยมใช้ในซีเรียล และสลัด

เก็บธัญพืชยังไงให้รักษาแอนโทไซยานิน?

ควรเก็บธัญพืชสีเข้ม เช่นข้าวสีนิล ข้าวไรซ์เบอร์รี่ หรือข้าวฟ่าง ในภาชนะทึบแสง ที่ปิดสนิท ป้องกันการสัมผัสกับแสง อากาศ และความชื้น เพราะแอนโทไซยานิน ไวต่อออกซิเจน และแสงแดด เก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง เช่นตู้เก็บอาหาร หรือในตู้เย็นช่องธรรมดา จะช่วยชะลอการสลาย ของสารสำคัญได้ยาวนานขึ้น

ปรุงยังไงไม่ให้สูญเสียแอนโทไซยานิน?

การปรุงที่ดีที่สุด คือใช้ความร้อนปานกลาง และระยะเวลาสั้น เช่นการนึ่ง เพื่อถนอมสารสำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการต้ม แล้วเทน้ำทิ้ง เพราะแอนโทไซยานินละลายน้ำได้ง่าย หากต้องต้ม ควรเก็บน้ำต้มไว้ทำซุป นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใส่ผงฟู หรือใช้น้ำด่าง เพราะจะทำให้ปริมาณแอนโทไซยานินลดลง

ธัญพืชอะไรที่มีแอนโทไซยานินสูง กล่าวโดยสรุป

ธัญพืชที่มีแอนโทไซยานินสูง ได้แก่ ข้าวสีนิล ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้องแดง ข้าวฟ่างสีดำ ข้าวฟ่างสีแดง และข้าวบาร์เลย์สีม่วง ธัญพืชเหล่านี้ควรกินในรูปโฮลเกรน และปรุงอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระครบถ้วน เมื่อกินร่วมกับผักผลไม้โปรตีน จะยิ่งดีต่อสุขภาพโดยรวม

แอนโทไซยานินควรกินกับอะไร?

การดูดซึมแอนโทไซยานินจะดีขึ้น เมื่อกินร่วมกับอาหาร ที่มีวิตามินซีสูง เช่นส้ม กีวี หรือพริกหวาน เพราะช่วยคงโครงสร้างเม็ดสี ไม่ให้สลายง่าย นอกจากนี้ การทานคู่กับไขมันดีในปริมาณเล็กน้อย จะช่วยเสริมการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระในระบบทางเดินอาหาร

แอนโทไซยานินไม่ควรกินกับอะไร?

ควรหลีกเลี่ยงการกินพร้อมกับนม หรือผลิตภัณฑ์นมในปริมาณมาก เพราะโปรตีน และแคลเซียมในนม อาจจับกับสารโพลีฟีนอล และลดการออกฤทธิ์ของแอนโทไซยานินได้ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการปรุงด้วยความร้อนสูงเป็นเวลานาน อาจทำให้สารแอนโทไซยานินเสื่อมสลายเร็วขึ้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง