ทำความเข้าใจ ถั่วอะไรที่มี Resveratrol สูง

Fiona
28 ก.ย. 25
16:51
17 views

ถั่วอะไรที่มี Resveratrol สูง เป็นคำถามสู่การทำความเข้าใจ เรื่องโภชนาการ และสุขภาพ ในด้านที่บางคนไม่เคยรู้มาก่อน เรสเวอราทรอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่บางคนอาจคุ้นว่ามาจากไวน์แดง หรือองุ่น แต่ความจริงแล้ว มันยังซ่อนอยู่ในอาหารหลายชนิด บางทีการทานถั่ว ก็อาจจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพ ได้มากกว่าที่คิด

เรสเวอราทรอลคืออะไร
ประโยชน์ของเรสเวอราทรอล
ถั่วที่มีเรสเวอราทรอลสูง

เรสเวอราทรอลคืออะไร พบได้ในที่ไหน?

เรสเวอราทรอล เป็นสาร Polyphenol ในกลุ่ม Stilbene ที่พืชสร้างขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความเครียด เช่นการติดเชื้อ การบาดเจ็บ หรือการได้รับรังสี ultraviolet โดยปกติจะอยู่ในรูปแบบ trans-resveratrol ซึ่งถือว่ามีฤทธิ์ทางชีวภาพมากที่สุด แต่ก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบอื่นได้ ตามสภาวะแวดล้อม

เรสเวอราทรอลจึงถูกมองว่า เป็นหนึ่งในสารธรรมชาติ ที่มีบทบาทสำคัญ ในการปกป้องพืช และกลายมาเป็นที่สนใจ ในทางโภชนาการ และการแพทย์ แหล่งที่พบเรสเวอราทรอล ได้บ่อยคือ ผิวองุ่นแดง ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้ไวน์แดง ถูกพูดถึง ในฐานะแหล่งสำคัญของเรสเวอราทรอล

นอกจากนี้ยังพบเรสเวอราทรอลใน ถั่วลิสง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่นบลูเบอร์รี มัลเบอร์รี และราสป์เบอร์รี รวมถึงพืชบางชนิดอย่าง Polygonum cuspidatum ที่ถูกใช้เป็นวัตถุดิบหลัก ในการสกัดเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันเรสเวอราทรอล จึงถูกนำมาใช้ ทั้งในงานวิจัย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่เกี่ยวข้องกับการต้านอนุมูลอิสระ (21 เมษายน 2024) [1]

ประวัติ เรสเวอราทรอล การค้นพบครั้งแรก

เรสเวอราทรอล ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1939 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นชื่อ Michio Takaoka ซึ่งสามารถแยกสารนี้ ออกมาได้จากพืช Veratrum grandiflorum และตีพิมพ์ ผลการค้นพบ ลงในวารสาร Journal of the Chemical Society of Japan ถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้วงการวิทยาศาสตร์ เริ่มรู้จักสารธรรมชาติชนิดนี้

จากนั้นในปี 1963 กลุ่มนักวิจัยชาวญี่ปุ่น Nonomura, Kanagawa และ Makimoto ได้รายงานการพบเรสเวอราทรอล ในรากของพืช Polygonum cuspidatum หรือที่รู้จักกันในชื่อ ผักไผ่ญี่ปุ่น ซึ่งต่อมากลายเป็นแหล่งสกัดสำคัญ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย จนถึงปัจจุบัน

ตลอดช่วงเวลา หลังการค้นพบเรสเวอราทรอล เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 20 จนถึงต้นศตวรรษที่ 21 เมื่อมีงานวิจัยหลายชิ้น ชี้ว่าสารนี้ อาจมีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้เรสเวอราทรอล กลายเป็นอาหารเสริม ที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง จนถึงทุกวันนี้ (5 สิงหาคม 2025) [2]

ประโยชน์เรสเวอราทรอลคืออะไร?

ต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์ ช่วยลดความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ ของการเสื่อมสภาพของเซลล์ และโรคเรื้อรัง
ลดการอักเสบในร่างกาย มีคุณสมบัติ ช่วยลดการอักเสบในเนื้อเยื่อ ซึ่งช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่นโรคเกี่ยวกับข้อต่อ หรือโรคหัวใจ
ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด ช่วยลดไขมัน LDL หรือไขมันไม่ดี และเพิ่มไขมัน HDL หรือไขมันที่ดี รวมถึงลดการสะสม ไขมันในหลอดเลือด
ชะลอวัย ลดริ้วรอย เรสเวอราทรอลกระตุ้นโปรตีน SIRT1 ซึ่งมีบทบาท ในการยืดอายุเซลล์ ช่วยลดริ้วรอยและชะลอการเสื่อมของผิวพรรณ
บำรุงสมอง ระบบประสาท ช่วยปกป้องเซลล์สมอง จากความเสียหาย และส่งเสริมการทำงาน ของระบบประสาท

ที่มา: Resveratrol (20 พฤศจิกายน 2024) [3]

ถั่วอะไรบ้าง ที่มีเรสเวอราทรอลสูง?

ถั่วลิสง ปริมาณเรสเวอราทรอล 0.02 – 1.8 มก. ต่อ 100 กรัม ค่าจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์ และวิธีการปลูก ถั่วลิสงเป็นถั่วที่มีเรสเวอราทรอลมากที่สุด ในกลุ่มถั่ว งานวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ที่เปลือกหุ้มเมล็ด มากกว่าตัวเนื้อใน การคั่วอาจทำให้ปริมาณลดลง นับเป็นแหล่งเรสเวอราทรอล ที่คนทั่วไปเข้าถึงง่าย
พิสตาชิโอ ปริมาณเรสเวอราทรอล 0.01 – 0.09 มก. ต่อ100 กรัม แม้จะไม่สูงเท่าถั่วลิสง แต่พิสตาชิโอก็มีเรสเวอราทรอลอยู่บ้าง ร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่นแคโรทีนอยด์ และโพลีฟีนอล การกินพิสตาชิโอจึงช่วยเสริมคุณค่า ด้านสารต้านอนุมูลอิสระได้

ข้อเสียของเรสเวอราทรอล คืออะไร?

การดูดซึมต่ำ ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดี และถูกสลายเร็ว ทำให้สารที่เข้าสู่กระแสเลือด มีปริมาณน้อยกว่าที่รับประทานไปจริง
อาจมีผลข้างเคียง เมื่อกินมากเกิน ปริมาณสูงอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ หรือไม่สบายท้องได้
อาจกลายเป็นสารก่อ oxidation ในบางสภาวะ เรสเวอราทรอลอาจทำงานตรงข้าม คือกลายเป็นสารที่กระตุ้นความเสียหายต่อเซลล์ แทนที่จะปกป้องเซลล์
เสี่ยงต่อการรบกวนการแข็งตัวของเลือด มีฤทธิ์ยับยั้งการจับตัวของเกล็ดเลือด จึงอาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออกง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด
อาจมีปฏิกิริยากับยา เช่นยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาลดความดัน หรือยาที่ผ่านการทำงานของตับ อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง หรือเพิ่มผลข้างเคียง
ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ เรื่องความปลอดภัย ในระยะยาว การใช้เรสเวอราทรอล การใช้ในรูปแบบอาหารเสริมต่อเนื่อง ในปริมาณสูง ยังขาดหลักฐานยืนยัน ว่าปลอดภัยจริง

ปริมาณเรสเวอราทรอล ที่ควรได้รับต่อวัน

ปริมาณเรสเวอราทรอล ที่ควรได้รับต่อวัน ยังไม่มีการกำหนด มาตรฐานชัดเจน เหมือนวิตามิน หรือแร่ธาตุ เนื่องจากเป็นสาร Phytonutrients ที่ร่างกายสามารถได้รับจากอาหารทั่วไป โดยจากงานวิจัยพบว่า การบริโภคจากแหล่งธรรมชาติ ถือว่าเพียงพอ สำหรับการทำงาน ในฐานะสารต้านอนุมูลอิสระ

แต่งานวิจัยทางคลินิกบางฉบับ ใช้ปริมาณเรสเวอราทรอล ตั้งแต่ 100–500 มิลลิกรัมต่อวัน หากต้องการใช้ในรูปแบบอาหารเสริม ควรใช้ในระดับต่ำ ถึงปานกลาง และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ หรือนักโภชนาการ

สรุปแล้ว ถั่วอะไรที่มีเรสเวอราทรอลสูง

สำหรับถั่วที่โดดเด่นที่สุดคือ ถั่วลิสง ซึ่งมีเรสเวอราทรอล ในระดับสูงกว่าถั่วชนิดอื่น ส่วนพิสตาชิโอ แม้จะมีบ้าง แต่ก็ปริมาณน้อยกว่า การรับเรสเวอราทรอลจากอาหารทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ในปริมาณพอดี จึงเป็นแนวทางที่ปลอดภัยกว่าอาหารเสริม ช่วยให้เราได้ทั้งรสชาติที่อร่อย และคุณค่าทางสุขภาพไปพร้อมกัน

ใครที่ควรทานเรสเวอราทรอล?

คนที่ต้องการดูแลสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด ผู้ที่ต้องการเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อลดการอักเสบ และชะลอความเสื่อมของร่างกาย รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยง ต่อโรคเรื้อรังบางชนิด เช่นเบาหวาน อาจได้รับประโยชน์จากเรสเวอราทรอล โดยเฉพาะในรูปแบบการกินจากอาหาร ในปริมาณที่เหมาะสม

ใครที่ไม่ควรทานเรสเวอราทรอล?

ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ผู้ป่วยโรคตับ หรือไตเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว และต้องใช้ยาต่อเนื่องหลายชนิด ควรหลีกเลี่ยงการใช้เรสเวอราทรอลเสริม เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง หรือปฏิกิริยากับยา ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนตัดสินใจใช้อาหารเสริมทุกชนิด