
ชวนค้นหา ถั่วอะไรที่มี Pyridoxine สูง
- Fiona
- 14 views

ถั่วอะไรที่มี Pyridoxine สูง เป็นคำถามที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะการมองหาแหล่งสารอาหาร ที่ซ่อนอยู่ในของกินง่ายๆรอบตัว มักทำให้เราค้นพบคุณค่าที่มากกว่าที่คิด ไพริดอกซีนเป็นหนึ่งในสารอาหาร ที่เกี่ยวกับกระบวนการทำงานสำคัญ หลายอย่างในร่างกาย รู้ไหมว่าถั่วที่เราคุ้นเคย ไม่ได้ให้เพียงโปรตีน หรือไขมันดีเท่านั้น
- ไพริดอกซีนคืออะไร
- ประโยชน์ของไพริดอกซีน
- ถั่วที่มีไพริดอกซีนสูง
ไพริดอกซีนคืออะไร พบในไหน?

ไพริดอกซีน คือหนึ่งในรูปแบบของวิตามินบี 6 ซึ่งยังมีอีกสองชนิด คือไพริดอกซอล และไพริดอกซามีน เมื่อเข้าสู่ร่างกาย วิตามินบี 6 เหล่านี้ จะถูกเปลี่ยนเป็นสารออกฤทธิ์ ที่ชื่อว่า pyridoxal-5-phosphate ซึ่งทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์สำคัญ ช่วยให้เอนไซม์หลายชนิดทำงานได้
โดยเฉพาะในกระบวนการเผาผลาญกรดอะมิโน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน รวมถึงการสร้างสารสื่อประสาท ที่เกี่ยวข้องกับสมอง และระบบประสาท ทำให้ไพริดอกซีนมีบทบาทสำคัญ ต่อทั้งพลังงาน และการทำงานของร่างกายโดยรวม สำหรับแหล่งอาหาร ไพริดอกซีนสามารถพบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถั่วชนิดต่างๆ
เนื้อสัตว์อย่างตับ ไก่ และปลา รวมถึงกล้วย และผักผลไม้บางชนิด นอกจากนี้ ยังมีการเสริมในธัญพืช และอาหารแปรรูป เพื่อให้คนทั่วไป ได้รับในปริมาณที่เพียงพอ การเลือกกินอาหารหลากหลาย จึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ร่างกายได้รับไพริดอกซีน อย่างเพียงพอ ต่อความต้องการในชีวิตประจำวัน (17 สิงหาคม 2023) [1]
ประวัติ ไพริดอกซีน การค้นพบ
ไพริดอกซีนถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1934 จากการศึกษา ที่มุ่งทำความเข้าใจ บทบาทของวิตามินบีต่อร่างกาย ไม่กี่ปีต่อมา ในปี 1938 นักวิทยาศาสตร์สามารถแยกสารไพริดอกซีน ออกมาได้สำเร็จ และในปี 1939 ก็สามารถสังเคราะห์ไพริดอกซีนขึ้น ในห้องปฏิบัติการเป็นครั้งแรก ถือเป็นก้าวสำคัญเกี่ยวกับการศึกษา
การค้นพบในช่วงทศวรรษ 1930 ไม่เพียงช่วยให้เรารู้จักโครงสร้าง และคุณสมบัติของไพริดอกซีนเท่านั้น แต่ยังเปิดประตู สู่การทำความเข้าใจว่า มันมีบทบาทสำคัญ ต่อการเผาผลาญ การทำงานของระบบประสาท และสุขภาพโดยรวมของมนุษย์อย่างไร
ต่อมาในศตวรรษที่ 20 ไพริดอกซีนจึงถูกนำมาใช้ในทางคลินิก เพื่อช่วยแก้ภาวะขาด และรักษาโรคที่เกี่ยวข้อง ทำให้ไพริดอกซีนกลายเป็นหนึ่งในสารอาหาร ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน (18 กันยายน 2025) [2]
ประโยชน์ไพริดอกซีนคืออะไร?
- ช่วยพัฒนาสมอง และระบบประสาท ไพริดอกซีนมีส่วนสำคัญ ในการสร้างสารสื่อประสาท ที่ใช้ส่งสัญญาณ ระหว่างเซลล์ประสาท ทำให้สมอง และระบบประสาท ทำงานได้อย่างราบรื่น จึงมีผลต่อความจำ อารมณ์ และการทำงาน ของสมองโดยรวม
- เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ไพริดอกซีนช่วยสนับสนุนการสร้างเม็ดเลือดขาว และสาระสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน หากร่างกายขาด อาจทำให้ป่วยง่าย หรือฟื้นตัวช้า จากการติดเชื้อ
- บรรเทาอาการแพ้ท้อง ในหญิงตั้งครรภ์ ไพริดอกซีนมักถูกใช้ เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา เพื่อลดอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ช่วงแรก ทำให้ผู้หญิงหลายคนรู้สึกดีขึ้น และใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น
- ช่วยรักษาภาวะโลหิตจางบางชนิด โดยเฉพาะ sideroblastic anemia ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือด ที่ผิดปกติ ไพริดอกซีนสามารถช่วยให้ร่างกายสร้าง Hemoglobinได้ดีขึ้น ลดอาการอ่อนเพลีย และซีด ที่เกิดจากโรคนี้
ที่มา: Vitamin B-6 (13 สิงหาคม 2025) [3]
ถั่วอะไรบ้างที่มีไพริดอกซีนสูง?
ถั่วที่มีไพริดอกซีนสูง ปริมาณต่อ 100 กรัม มีดังนี้
- พิสตาชิโอ มีไพริดอกซีนประมาณ 1.7 มก. พิสตาชิโอถือเป็นถั่ว ที่มีไพริดอกซีนสูงที่สุดในกลุ่มถั่ว ช่วยเสริมการทำงานของสมอง และภูมิคุ้มกัน กินเล่นเป็นของว่างก็ได้ หรือโรยบนสลัด และโยเกิร์ตก็ดีต่อสุขภาพ
- เฮเซลนัท มีไพริดอกซีน ประมาณ 0.6 มก. นอกจากรสชาตินัวๆ หอมมันแล้ว เฮเซลนัทยังให้ไพริดอกซีน ในระดับที่ดี ช่วยเสริมการเผาผลาญพลังงาน และสนับสนุนการสร้างเม็ดเลือด
- วอลนัท มีไพริดอกซีนประมาณ 0.5 มก. วอลนัทมีโอเมก้า 3 สูง และมีไพริดอกซีนไม่น้อย การกินวอลนัทช่วยทั้งเรื่องสมอง หัวใจ และการทำงานของระบบประสาท
- ถั่วลิสง มีไพริดอกซีน 0.5 mg. เป็นถั่วหาง่าย เป็นแหล่งโปรตีน พร้อมไพริดอกซีน ที่ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน ได้มีประสิทธิภาพ
- อัลมอนด์ มีไพริดอกซีน 0.1 mg. แม้จะไม่มาก แต่การกินอัลมอนด์เป็นประจำ ก็ช่วยเสริมไพริดอกซีน พร้อมทั้งได้ใยอาหาร และไขมันดี ที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจ
ไพริดอกซีนปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
ปริมาณไพริดอกซีน ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ขึ้นอยู่กับอายุ และเพศ โดยทั่วไป เด็กเล็กต้องการเพียง 0.1–0.5 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนวัยรุ่น และผู้ใหญ่ ต้องการมากขึ้นประมาณ 1.3–1.7 มิลลิกรัม ผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ ควรได้รับเพิ่มเป็นประมาณ 1.9 มิลลิกรัม และช่วงให้นมบุตรควรได้รับราว 2.0 มิลลิกรัมต่อวัน
ใครที่ควรทานไพริดอกซีนเสริม?
คนที่ควรได้รับการเสริมไพริดอกซีน คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงขาดสารอาหาร เช่นผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง และต้องฟอกไต ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ผู้ใช้ยาบางชนิด ที่รบกวนการดูดซึมเช่น isoniazid หรือ hydralazine รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตรที่ร่างกายต้องการมากกว่าปกติ ผู้สูงอายุที่การดูดซึมสารอาหารลดลง
สรุปแล้ว ถั่วอะไรที่มีไพริดอกซีนสูง
ถั่วที่มีไพริดอกซีนสูง พิสตาชิโอคือถั่วที่โดดเด่นที่สุด รองลงมาคือเฮเซลนัท วอลนัท ถั่วลิสง และอัลมอนด์ ซึ่งแม้จะให้ในปริมาณต่างกัน แต่ล้วนเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติ ที่ช่วยเติมไพริดอกซีนได้อย่างดี การเลือกถั่วมาเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหาร เป็นการดูแลสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารจำเป็นอย่างเพียงพอ
ถ้าขาดไพริดอกซีน จะเป็นยังไง?
ถ้าร่างกายขาดไพริดอกซีน อาจทำให้เกิดอาการหลายอย่าง เช่นอ่อนเพลีย ซึมเศร้า หงุดหงิด สับสน ชาปลายมือปลายเท้า หรือมีอาการชักในบางราย นอกจากนี้ ยังอาจพบภาวะโลหิตจาง ผื่นผิวหนังอักเสบ และภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้ การขาดมักเกิดในคนที่มีโรคประจำตัว หรือใช้ยาที่รบกวนการทำงานของไพริดอกซีน
ถ้าได้รับไพริดอกซีนเกิน จะเป็นยังไง?
ถ้าได้รับไพริดอกซีนมากเกินไป โดยเฉพาะจากการทานอาหารเสริม ในปริมาณสูงต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดอาการพิษ เช่นชาปลายมือ ปลายเท้า เสียการทรงตัว ระบบประสาททำงานผิดปกติ และอาจมีอาการคลื่นไส้หรือไวต่อแสง การเสริมเกิน 100 มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลานานๆ อาจเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทได้
- Tags: สุขภาพ


