
ดีไอเอ็ม เคล็ดลับดูแลสมดุลฮอร์โมนให้แข็งแรง
- Fiona
- 29 views

ดีไอเอ็ม เป็นสารธรรมชาติ ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ในแวดวงสุขภาพ และการดูแลร่างกาย ด้วยคุณสมบัติ ที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน ของฮอร์โมนในร่างกาย คุณค่าของดีไอเอ็มไม่ได้จำกัดเพียงแค่เป็นส่วนประกอบของอาหารเท่านั้น ยังมีบทบาทสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพ ในด้านต่างๆ อีกมากมาย
ดีไอเอ็ม (Diindolylmethane) ในผักตระกูลกะหล่ำ
Dim เป็นสารประกอบธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายย่อยสลาย Indole-3-Carbinol ซึ่งพบในผักตระกูลกะหล่ำ เช่นบรอกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และคะน้า ดีไอเอ็มเป็นที่รู้จักในฐานะ สารที่มีบทบาทสำคัญ ในการช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และมีประโยชน์ในด้านสุขภาพหลายประการ [1]
Dim ช่วยเรื่องอะไร
- ดีไอเอ็มช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน มีคุณสมบัติเด่น ในการปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจน ในร่างกาย โดยสามารถเปลี่ยนฮอร์โมนเอสโตรเจน ให้เป็น 2-hydroxyestrone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์อ่อน และปลอดภัยกว่า ลดระดับของ 16-alpha-hydroxyestrone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความเสี่ยงสูง ต่อการเกิดมะเร็ง
- สนับสนุนสุขภาพของผู้หญิงได้เช่นเดียวกับ อีฟนิ่งพริมโรส ลดอาการ Premenstrual Syndrome (PMS) หรืออาการก่อนมีประจำเดือน เช่นอารมณ์แปรปรวน และอาการบวมน้ำ ช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้อง กับภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่นภาวะถุงน้ำในรังไข่ (PCOS) หรืออาการวัยทอง
- ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง ดีไอเอ็มมีศักยภาพ ในการช่วยป้องกันมะเร็ง ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เช่นมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย จากการศึกษาพบว่า ดีไอเอ็มช่วยลดความเสี่ยง ของมะเร็งโดยการกระตุ้นเอนไซม์ ที่ขจัดสารพิษจากร่างกาย และยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็ง ในระยะเริ่มต้น
- ลดการอักเสบ ดีไอเอ็มมีคุณสมบัติ ในการต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- สนับสนุนการลดน้ำหนัก ดีไอเอ็มมีบทบาท ในการสนับสนุนกระบวนการเผาผลาญไขมัน และปรับสมดุลฮอร์โมน ที่ส่งผลต่อการสะสมไขมัน โดยเฉพาะในบริเวณหน้าท้อง
ที่มา: What Are DIM Supplements [2]
กลไกการทำงานของ ดีไอเอ็ม
- ปรับเปลี่ยน Metabolism ของเอสโตรเจน ดีไอเอ็มส่งเสริมการสร้างเอสโตรเจน ชนิดที่ปลอดภัยกว่า โดยช่วยลดผลกระทบ ของเอสโตรเจน ชนิดที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- กระตุ้นการทำงาน ของเอนไซม์ในตับ ดีไอเอ็มช่วยกระตุ้นเอนไซม์ Phase I และ Phase II ในตับ ซึ่งมีหน้าที่ในการขจัดสารพิษ และสารเคมี ที่เป็นอันตรายออกจากร่างกาย
- ต้านอนุมูลอิสระ ดีไอเอ็มมีคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ ที่เกิดจากความเครียดออกซิเดชัน
คำแนะนำการรับประทาน ดีไอเอ็ม
- ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนเริ่มรับประทาน ดีไอเอ็มควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม กับสุขภาพ และสภาวะร่างกาย
- ปฏิบัติตามคำแนะนำ บนฉลากผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดีไอเอ็มแต่ละยี่ห้อ อาจมีคำแนะนำการรับประทาน ที่แตกต่างกัน ควรอ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก อย่างเคร่งครัด
- รับประทานพร้อมอาหาร การรับประทาน ดีไอเอ็มพร้อมอาหาร อาจช่วยลดการระคายเคือง ต่อระบบทางเดินอาหาร และเพิ่มการดูดซึม ของสารอาหาร
- เวลาที่เหมาะสม ในการรับประทาน หากไม่มีคำแนะนำเฉพาะเจาะจงจากแพทย์ หรือบนฉลากผลิตภัณฑ์ การรับประทานดีไอเอ็ม พร้อมอาหารมื้อหลัก เช่นอาหารเช้า หรืออาหารเย็น ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม
- ปริมาณที่แนะนำ ปริมาณการรับประทานดีไอเอ็มที่แนะนำ สำหรับผู้ใหญ่คือ 100-150 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม กับสภาวะสุขภาพ
ที่มา: Diindolylmethane-Uses [3]
แหล่งอาหารที่ให้ Dim ตามธรรมชาติ

- บรอกโคลี เป็นแหล่งของดีไอเอ็มที่สำคัญ หากรับประทานบรอกโคลีประมาณ 1-ถ้วยตวง (91 กรัม) จะได้รับดีไอเอ็มประมาณ 20–25 milligram โดยการนึ่งไฟอ่อนๆ จะช่วยคงคุณค่าของดีไอเอ็มได้ดี
- กะหล่ำปลี หากรับประทานในปริมาณ 1-ถ้วยตวง (89 กรัม) จะให้ดีไอเอ็มประมาณ 15–20 milligram กะหล่ำปลีสามารถนำไปทำสลัด หรือปรุงเป็นอาหารประเภทอื่น เพื่อเพิ่มสารอาหารได้
- กะหล่ำดอก ในปริมาณ 1-ถ้วยตวง (107 กรัม) จะมีดีไอเอ็มประมาณ 10–15 mg. การนำกะหล่ำดอกมาปรุงอาหาร เช่นการอบหรือนึ่ง เป็นวิธีที่ช่วยรักษาสารอาหารได้ดี
- ผักคะน้า เป็นอีกหนึ่งแหล่งของดีไอเอ็มที่หาง่าย โดยการรับประทานคะน้าประมาณ 1 ถ้วย (67 กรัม) จะได้รับดีไอเอ็มประมาณ 5–10 mg.
- Brussels Sprout หรือกะหล่ำปลีจิ๋ว เป็นแหล่งของดีไอเอ็มที่ดี โดยการบริโภคประมาณ 1 ถ้วย (88 กรัม) จะให้ดีไอเอ็มประมาณ 15–20 มิลลิกรัมการนำมาผัดหรือย่าง สามารถเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
- ร็อกเก็ต (Arugula) แม้ปริมาณดีไอเอ็มจะน้อยกว่าผักอื่นๆ แต่ยังมีอยู่ในระดับที่มีประโยชน์ โดยการรับประทาน 1-ถ้วย (40 กรัม) จะได้รับดีไอเอ็มประมาณ 5 มก.
- การรับประทานผักเหล่านี้ ในรูปแบบสด หรือผ่านการนึ่งไฟอ่อนๆ จะช่วยเพิ่มปริมาณดีไอเอ็ม โดยไม่ทำลายคุณค่าทางโภชนาการ
ดีไอเอ็มเหมาะสำหรับใคร
- ผู้หญิงที่มีปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุล
- มีอาการ PMS หรือวัยทอง
- มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งมดลูก
- ผู้ชายที่ต้องการสนับสนุนสุขภาพต่อมลูกหมาก
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาฮอร์โมน ที่ส่งผลต่อการสะสมไขมัน
สรุป ดีไอเอ็ม สารประกอบ ดูแลสุขภาพระยะยาว
ดีไอเอ็มเป็นมากกว่าแค่สารประกอบจากธรรมชาติ แต่เป็นกุญแจสำคัญ ในการสนับสนุนการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับสมดุลฮอร์โมน และลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพ การเลือกรับประทานผักที่มีดีไอเอ็มสูง หรือการเสริมด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพในระยะยาว ที่น่าสนใจสำหรับทุกคน
- Tags: สุขภาพ


