
ไซเลี่ยมฮัสค์ ประโยชน์ ของมันอาจเป็นสิ่งที่หลายคนเคยได้ยิน แต่ยังไม่แน่ใจ ว่ามีผลต่อสุขภาพอย่างไร ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญ กับการดูแลร่างกาย และการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไฟเบอร์จากธรรมชาติ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคน ที่ต้องการปรับสมดุลระบบขับถ่าย และสุขภาพลำไส้
ไซเลี่ยมฮัสค์ (Psyllium Husk) เป็นเส้นใยจากเมล็ดของต้น Plantago ovata ซึ่งเป็นพืชที่เติบโตในประเทศอินเดีย และบางส่วนของเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาเหนือ เปลือกเมล็ดของพืชชนิด นี้อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่สามารถละลายน้ำได้
ซึ่งเมื่อผสมไซเลี่ยมฮัสค์ กับของเหลว จะเกิดเจลลักษณะคล้ายวุ้น ทำให้มีประโยชน์ในด้านการดูแลสุขภาพทางเดินอาหาร และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด [1]
ไซเลี่ยมฮัสค์มีไฟเบอร์สูง และให้พลังงานต่ำ โดยในปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 9 กรัม) จะให้สารอาหารดังนี้
การรับประทานไซเลี่ยมฮัสค์แบบผง เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถควบคุมปริมาณได้ง่าย และสามารถผสมเข้ากับเครื่องดื่ม หรืออาหารได้ตามต้องการ ใช้ 1-2 ช้อนชา (ประมาณ 5-10 กรัม) ผสมกับ น้ำเปล่า 200-250 มิลลิลิตร หรือ น้ำผลไม้ คนให้เข้ากันแล้วดื่มทันที และดื่มน้ำตามอีก 1-2 แก้ว
การรับประทานไซเลี่ยมฮัสค์ แบบแคปซูล เป็นตัวเลือกที่สะดวก สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานแบบผง เนื่องจากไม่ต้องผสมกับน้ำ แต่แคปซูลอาจใช้เวลานาน กว่าที่จะออกฤทธิ์ เมื่อเทียบกับแบบผง รับประทาน ตามปริมาณที่ระบุบนฉลากของผลิตภัณฑ์ 1-2 แคปซูล ทานพร้อมน้ำเปล่าประมาณ 250-300 มิลลิลิตร
ไซเลี่ยมฮัสค์สามารถนำมาใช้ในอาหาร เพื่อเพิ่มใยอาหาร และช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของอาหารได้หลายวิธี ดังนี้
ไซเลี่ยมฮัสค์เป็นแหล่งไฟเบอร์ธรรมชาติ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน โดยเฉพาะสุขภาพลำไส้ การควบคุมน้ำหนัก และการดูแลระดับน้ำตาลในเลือด อย่างไรก็ตาม การใช้อย่างถูกต้อง และดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การเพิ่มไซเลี่ยมฮัสค์ในอาหารเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ได้รับไฟเบอร์เพียงพอ
การรับประทานไซเลี่ยมฮัสค์ (Psyllium Husk) ไม่ได้กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน แต่กลับช่วยลดระดับอินซูลิน และน้ำตาลในเลือด เนื่องจากเส้นใยอาหารในไซเลี่ยมฮัสค์ ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลคงที่ ดังนั้น ไซเลี่ยมฮัสค์ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 [2]
การรับประทานไซเลี่ยมฮัสค์ ควรทำก่อนมื้ออาหาร ประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้ไฟเบอร์พองตัว ในกระเพาะอาหาร ช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม และลดการบริโภคอาหาร ในมื้อนั้น นอกจากนี้ การรับประทานในช่วงเช้า จะช่วยให้มีเวลาตลอดวัน ในการดื่มน้ำ และทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเสริมการทำงาน ของลำไส้
เมื่อรับประทานไซเลี่ยมฮัสค์ ควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อป้องกันการอุดตันของลำไส้ และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานก่อนนอนทันที เนื่องจากอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง ในระหว่างการนอนหลับ อย่างไรก็ตาม ควรเริ่มรับประทาน ในปริมาณน้อยๆ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวก่อน [3]