ไคโตซาน สารธรรมชาติ ช่วยจับไขมัน

ไคโตซาน

ไคโตซาน เป็นหนึ่งในอาหารเสริม ที่ได้รับความนิยมในวงการสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจจากธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ และควบคุมน้ำหนัก ในยุคที่สุขภาพ และรูปร่างกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของคนยุคใหม่ หลายคนเริ่มมองหาวิธีการดูแลตัวเอง ที่เหมาะสมและปลอดภัย

สารสกัด ไคโตซาน (Chitosan) คืออะไร

ไคโตซาน

ไคโตซานเป็นสารโพลีแซ็กคาไรด์ ที่ได้จากไคติน (Chitin) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเปลือกสัตว์ทะเล เช่นกุ้ง ปู และหอย โดยกระบวนการผลิตจะนำไคติน มาผ่านกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่า “การกำจัดอะเซทิล” (Deacetylation)

เพื่อให้ได้สารที่ละลายน้ำได้ และสามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเสริมได้ ไคโตซานมีคุณสมบัติเด่น ในการจับไขมัน และคอเลสเตอรอล ทำให้มันกลายเป็นตัวช่วยที่นิยม สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และควบคุมระดับไขมันในเลือด

ไคโตซาน มีกี่ประเภท ตามแหล่งที่มา

ไคโตซานสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ตามแหล่งที่มา และกระบวนการผลิต ดังนี้

  • ไคโตซานจากสัตว์ทะเล (Marine Chitosan) สกัดจากเปลือกของสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็ง เช่นกุ้ง ปู นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร อาหารเสริม ยา และเครื่องสำอาง
  • ไคโตซานจากเชื้อรา (Fungal Chitosan) สกัดจากไคตินในเชื้อราเช่น Mucor rouxii เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้อาหารทะเล หรือหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทะเล
  • ไคโตซานที่ผ่านการดัดแปลง (Modified Chitosan) ถูกปรับปรุงโครงสร้าง เช่นการเติมกลุ่มเคมีบางชนิด ใช้ในการแพทย์ เช่นการรักษาบาดแผล การเคลือบยา หรือการทำวัสดุชีวภาพ

ทั้งนี้ ไคโตซานแต่ละประเภท จะถูกพัฒนาตามวัตถุประสงค์ ของการใช้งานเฉพาะด้าน [1]

 

ไคโตซาน กับบทบาทอาหารเสริมคุมน้ำหนัก

  • การจับไขมัน ในระบบทางเดินอาหาร ไคโตซานมีความสามารถ ในการจับไขมันในระบบทางเดินอาหาร โดยเมื่อรับประทานเข้าไป ไคโตซานจะทำหน้าที่เหมือนแม่เหล็ก ดูดซับไขมันในอาหาร ที่เรารับประทานเข้าไป แล้วช่วยขับไขมันส่วนเกิน ออกจากร่างกาย ผ่านระบบขับถ่าย
  • ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล งานวิจัยหลายชิ้น แสดงให้เห็นว่าไคโตซาน สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ โดยเฉพาะคอเลสเตอรอลชนิด LDL (Low-Density Lipoprotein) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไคโตซานทำหน้าที่ ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหาร
  • ช่วยควบคุมน้ำหนักตัว เนื่องจากไคโตซาน สามารถลดการดูดซึมไขมันได้ มันจึงมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยควบคุมน้ำหนักตัว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหาร ที่มีไขมันสูง การใช้ไคโตซาน ร่วมกับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการลดน้ำหนัก ได้อย่างชัดเจน

ประโยชน์ด้านอื่นเพิ่มเติมของ ไคโตซาน

  • ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร ไคโตซานช่วยกระตุ้นการทำงาน ของลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่าย ทำงานได้ดีขึ้น และลดปัญหา เกี่ยวกับอาการท้องผูก
  • ส่งเสริมสุขภาพผิว ไคโตซานมีคุณสมบัติ ในการช่วยรักษาความชุ่มชื้น และส่งเสริมการฟื้นฟูผิว จึงเป็นที่นิยม ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเช่นกัน
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ไคโตซานช่วยลดความเสี่ยง ของการเกิดโรคเรื้อรัง เช่นเบาหวาน และมะเร็ง ด้วยคุณสมบัติ ในการลดอนุมูลอิสระ ที่เกิดจากการเผาผลาญภายในร่างกาย

ที่มา: ไคโตซานมีประโยชน์อย่างไร [2]

 

อาหารเสริมไคโตซาน อันตรายไหม

  • ไคโตซานปลอดภัย เมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่การใช้สารนี้ ก็มีข้อควรระวัง และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงในบางกรณี เช่น
  • การลดการดูดซึมวิตามิน ที่ละลายในไขมัน: ไคโตซานมีคุณสมบัติ ในการดักจับไขมัน ซึ่งอาจส่งผลให้การดูดซึมวิตามิน ที่ละลายในไขมัน เช่นวิตามิน A, D, E และ K ลดลง ดังนั้น การรับประทานไคโตซาน ร่วมกับอาหารเสริม ที่มีวิตามินเหล่านี้ ควรระมัดระวัง
  • อาการแพ้ในผู้ที่แพ้อาหารทะเล: เนื่องจากไคโตซาน สกัดจากเปลือกของสัตว์ทะเล ผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเล อาจมีความเสี่ยง ต่อการแพ้ไคโตซานเช่นกัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้
  • ผลกระทบ ต่อระบบย่อยอาหาร: การใช้ไคโตซาน อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือระบบขับถ่ายแปรปรวนได้ในบางราย
  • การรบกวนสมดุล ของแบคทีเรียในลำไส้: มีงานวิจัยที่พบว่า ไคโตซานอาจส่งผล ต่อสมดุลของแบคทีเรีย ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญ ต่อระบบภูมิคุ้มกัน และการเผาผลาญในระยะยาว

ที่มา: Chitosan – Uses, Side Effects [3]

 

วิธีใช้ไคโตซาน อย่างเหมาะสม

  • ปริมาณที่แนะนำ: ปกติควรรับประทานไคโตซาน ในปริมาณ 1-2 กรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ เช่นการควบคุมน้ำหนัก หรือการลดไขมันในเลือด
  • เวลากินที่เหมาะสม: รับประทานก่อนมื้ออาหาร ที่มีไขมันสูงประมาณ 30 นาที เพื่อให้ไคโตซาน จับไขมันในอาหาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทานร่วมกับวิตามิน C: การรับประทานไคโตซาน ร่วมกับวิตามิน C สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ การจับไขมัน และช่วยให้ร่างกาย ขับถ่ายไขมันส่วนเกินได้ดีขึ้น
  • ดื่มน้ำมากๆ: ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และลดอาการท้องอืด หรือท้องผูก
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานต่อเนื่อง นานเกินไป: เพื่อป้องกันการลดการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่นวิตามิน A, D, E, และ K ไม่ควรใช้ไคโตซานต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการพัก
  • ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ที่แพ้อาหารทะเล ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ และผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่นวาร์ฟาริน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
  • ไคโตซานสามารถรับประทานร่วมกับ สารสกัดชาเขียว (Green Tea Extract) ทั้งสองมีคุณสมบัติที่ส่งเสริมสุขภาพ และช่วยในด้านการควบคุมน้ำหนัก

สรุป ไคโตซาน ตัวช่วยจากธรรมชาติ ควบคุมน้ำหนัก

ไคโตซานเป็นสารธรรมชาติ ที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก ส่งเสริมสุขภาพหลายด้าน ด้วยคุณสมบัติการจับไขมัน ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล และปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร ไคโตซานจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และรูปร่าง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง