อะเซโรลาเชอร์รี่ (Acerola Cherry) เป็นผลไม้ที่มีสีแดงสดใส และรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลไม้ชนิดนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในหมู่ผู้รักสุขภาพ เนื่องจากมีสารอาหารที่หลากหลาย และประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ด้วยลักษณะเด่น ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อะเซโรลาเชอร์รี่จึงกลายเป็นส่วนสำคัญ ในอาหารเสริม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ในยุคปัจจุบัน
อะเซโรลาเชอร์รี่มีถิ่นกำเนิด ในพื้นที่เขตร้อน และกึ่งเขตร้อนของทวีปอเมริกา เช่นบราซิล เม็กซิโก และหมู่เกาะแคริบเบียน เป็นต้น ผลไม้ชนิดนี้ เป็นที่รู้จักในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Malpighia emarginata และในบางประเทศ อาจถูกเรียกว่า Barbados Cherry หรือ West Indian Cherry
ในอดีต ชาวพื้นเมือง ใช้ผลอะเซโรลาเชอร์รี่ เป็นแหล่งวิตามินซีจากธรรมชาติ และเชื่อว่ามีสรรพคุณ ในการรักษาโรคต่างๆ เช่นไข้หวัด และโรคติดเชื้อ ปัจจุบันอะเซโรลาเชอร์รี่ ได้รับความนิยมอย่างมาก ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากคุณสมบัติ ด้านโภชนาการ ที่โดดเด่น
อะเซโรลาเชอร์รี่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบด้วย
ที่มา : Acerola Cherry ผลไม้วิตามินซีสูง [1]
อะเซโรลาเชอร์รี่ควรกินหลังอาหาร หรือพร้อมมื้ออาหาร เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซี ได้ดีที่สุด และลดความเสี่ยง ของการระคายเคืองกระเพาะอาหาร สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีอะเซโรลาเชอร์รี่ แนะนำให้อ่านฉลาก และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต
สารสกัดอะเซโรล่า แนะนำปริมาณการบริโภคต่อวัน อยู่ที่ 500-1000 มิลลิกรัม สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และเพิ่มปริมาณวิตามินซีในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ ก่อนรับประทาน เพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุด ในการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้ [2]
การรับประทานอะเซโรลาเชอร์รี่ ร่วมกับอาหาร หรือยาบางชนิด อาจมีผลต่อการดูดซึม หรือประสิทธิภาพของวิตามินซี อาหารที่ควรระวัง เมื่อรับประทานร่วมกับอะเซโรลาเชอร์รี่ มีดังนี้
ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนรับประทานอะเซโรลาเชอร์รี่ ร่วมกับอาหารหรือยาบางชนิด เพื่อป้องกันปัญหา ที่อาจเกิดขึ้น [3]
อะเซโรลาเชอร์รี่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในอุตสาหกรรมอาหารเสริม เนื่องจากปริมาณวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง โดยมีการนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่
อะเซโรลาเชอร์รี่เป็นผลไม้ ที่เต็มไปด้วยคุณค่าสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการเสริมสร้างสุขภาพ และป้องกันโรค อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ