พรีไบโอติกส์ ไขความลับสุขภาพลำไส้ที่ดี

พรีไบโอติกส์

พรีไบโอติกส์ เป็นหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจ ในยุคที่ผู้คน ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่สารอาหาร ที่ช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหาร แต่ยังส่งผล ต่อระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวมอีกด้วย บทความนี้ จึงตั้งใจที่จะพาทุกคน ไปทำความรู้จักกับพรีไบโอติกส์ ในมุมมองที่หลากหลาย และครอบคลุม

พรีไบโอติก เส้นใยอาหารชนิดหนึ่ง คืออะไร

พรีไบโอติกส์คือเส้นใยอาหารชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายมนุษย์ ไม่สามารถย่อยสลายได้ แต่จะถูกหมักโดยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ใหญ่ เช่นแลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรีย กระบวนการนี้ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต และการทำงานของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ส่งผลให้ระบบทางเดินอาหาร และสุขภาพดีขึ้น

พรีไบโอติกส์มีอยู่ในอาหารธรรมชาติหลายชนิด โดยเฉพาะในผัก และผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่นกล้วยสุก กระเทียม หัวหอม หน่อไม้ฝรั่ง และข้าวโอ๊ต การบริโภคพรีไบโอติกส์อย่างเหมาะสม สามารถส่งเสริมสุขภาพลำไส้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรังต่างๆ [1]

กลไกการทำงานของ พรีไบโอติกส์

เมื่อเราบริโภคอาหารที่มีพรีไบโอติกส์ สารอาหารเหล่านี้ จะเดินทางผ่านกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กโดยไม่ถูกย่อย จากนั้นจะเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์หลากหลายชนิด จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ใหญ่ จะหมักพรีไบโอติกส์ และผลิตกรดไขมันสายสั้น (Short-chain fatty acids)

กรดไขมันสายสั้นเช่น Butyrate, acetate และ propionate ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการรักษาความสมดุลของลำไส้ ลดการอักเสบ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ประโยชน์ด้านต่างๆของ พรีไบโอติกส์

  • พรีไบโอติกส์ดีต่อลำไส้ โดยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ในลำไส้ เช่นแลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรีย ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
    เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน กรดไขมันสายสั้น ที่ได้จากการหมักพรีไบโอติกส์ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกาย สามารถต่อสู้กับเชื้อโรค ได้ดียิ่งขึ้น
  • ช่วยลดน้ำหนัก การบริโภคพรีไบโอติกส์ สามารถช่วยควบคุมความอยากอาหาร และลดปริมาณแคลอรี ที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
  • ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง พรีไบโอติกส์ช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ ผ่านการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และไขมันในเลือด
  • ปรับปรุงสุขภาพจิต งานวิจัยพบว่าพรีไบโอติกส์ มีผลต่อสมอง และระบบประสาท โดยช่วยลดความเครียด และปรับปรุงอารมณ์

Prebiotic หาจากที่ได้ไหน

พรีไบโอติกส์

พรีไบโอติกส์พบได้ในอาหาร จากธรรมชาติหลายชนิด โดยเฉพาะในผัก และผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่น

  • กล้วยดิบ: มี Inulin และ Oligofructose ซึ่งเป็นพรีไบโอติกส์ ที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต ของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
  • กระเทียม: อุดมไปด้วย Inulin และ Fructooligosaccharides ที่เป็นพรีไบโอติกส์ ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ที่มีประโยชน์
  • หัวหอม: มีอินนูลิน และ Fructooligosaccharides ที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต ของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
  • หน่อไม้ฝรั่ง: เป็นแหล่งของอินนูลิน ซึ่งเป็นพรีไบโอติกส์ ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้
  • ข้าวโอ๊ต: มีเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นเส้นใยที่ทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติกส์ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดี

การบริโภคอาหารที่มีพรีไบโอติกส์เป็นประจำ จะช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย [2]

ควรทาน พรีไบโอติก ตอนไหนดีที่สุด

การรับประทานพรีไบโอติกส์ ควรทานในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนี้

  • ก่อนอาหารประมาณ 30 นาที: การรับประทานพรีไบโอติกส์ ก่อนมื้ออาหาร จะช่วยลดความเร็วในการดูดซึมน้ำตาลในมื้ออาหาร (Glycemic Index) และช่วยให้อิ่มนานขึ้น
  • ขณะท้องว่าง: การรับประทานพรีไบโอติกส์ ในขณะที่ท้องว่าง จะช่วยลดโอกาสที่น้ำย่อย จะทำลายพรีไบโอติกส์ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีขึ้น
  • ก่อนนอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง: การรับประทานพรีไบโอติกส์ก่อนนอน จะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลลำไส้ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เมื่อรับประทานพรีไบโอติกส์ เพื่อช่วยในการทำงานของเส้นใยอาหาร และลดความเสี่ยง ของอาการท้องอืด หรือแก๊สในลำไส้ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพรีไบโอติกส์ พร้อมกับยารักษาโรค ควรรับประทานก่อน หรือหลังอย่างน้อย 2 ชั่วโมง [3]

การกิน พรีไบโอติกส์ ร่วมกับโพรไบโอติกส์

การบริโภคพรีไบโอติกส์ ควรทำอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่นท้องอืด หรือแก๊สในลำไส้ คำแนะนำในการบริโภค คือเริ่มจากปริมาณน้อยและค่อยๆ เพิ่มขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยในการย่อย และรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ได้รับไฟเบอร์ชนิดต่างๆ

และแม้ว่าพรีไบโอติกส์และ โพรไบโอติกส์ จะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่สองสิ่งนี้ มีความแตกต่าง ที่สำคัญ  โพรไบโอติกส์คือจุลินทรีย์ ที่มีชีวิต ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในขณะที่พรีไบโอติกส์ เป็นอาหาร ของจุลินทรีย์เหล่านั้น การบริโภคทั้งสองอย่างร่วมกัน จะช่วยเสริมประสิทธิภาพ ในการรักษาสุขภาพลำไส้

สรุป พรีไบโอติกส์ อาหารสำคัญ ต่อสุขภาพลำไส้ที่ดี

พรีไบโอติกส์ เป็นส่วนสำคัญ ของอาหาร ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ ทั้งในด้านลำไส้ และระบบภูมิคุ้มกัน การทำความเข้าใจ และใส่ใจ ในการบริโภคพรีไบโอติกส์ ในชีวิตประจำวัน สามารถนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี และยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกอาหาร ที่มีพรีไบโอติกส์ จากธรรมชาติ หรือเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง