ดีไอเอ็ม เคล็ดลับดูแลสมดุลฮอร์โมนให้แข็งแรง

ดีไอเอ็ม

ดีไอเอ็ม เป็นสารธรรมชาติ ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ในแวดวงสุขภาพ และการดูแลร่างกาย ด้วยคุณสมบัติ ที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน ของฮอร์โมนในร่างกาย คุณค่าของดีไอเอ็มไม่ได้จำกัดเพียงแค่เป็นส่วนประกอบของอาหารเท่านั้น ยังมีบทบาทสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพ ในด้านต่างๆ อีกมากมาย

ดีไอเอ็ม (Diindolylmethane) ในผักตระกูลกะหล่ำ

Dim เป็นสารประกอบธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายย่อยสลาย Indole-3-Carbinol ซึ่งพบในผักตระกูลกะหล่ำ เช่นบรอกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และคะน้า ดีไอเอ็มเป็นที่รู้จักในฐานะ สารที่มีบทบาทสำคัญ ในการช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และมีประโยชน์ในด้านสุขภาพหลายประการ [1]

Dim ช่วยเรื่องอะไร

  • ดีไอเอ็มช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน มีคุณสมบัติเด่น ในการปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจน ในร่างกาย โดยสามารถเปลี่ยนฮอร์โมนเอสโตรเจน ให้เป็น 2-hydroxyestrone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์อ่อน และปลอดภัยกว่า ลดระดับของ 16-alpha-hydroxyestrone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความเสี่ยงสูง ต่อการเกิดมะเร็ง
  • สนับสนุนสุขภาพของผู้หญิงได้เช่นเดียวกับ อีฟนิ่งพริมโรส ลดอาการ Premenstrual Syndrome (PMS) หรืออาการก่อนมีประจำเดือน เช่นอารมณ์แปรปรวน และอาการบวมน้ำ ช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้อง กับภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่นภาวะถุงน้ำในรังไข่ (PCOS) หรืออาการวัยทอง
  • ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง ดีไอเอ็มมีศักยภาพ ในการช่วยป้องกันมะเร็ง ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เช่นมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย จากการศึกษาพบว่า ดีไอเอ็มช่วยลดความเสี่ยง ของมะเร็งโดยการกระตุ้นเอนไซม์ ที่ขจัดสารพิษจากร่างกาย และยับยั้งการเจริญเติบโต ของเซลล์มะเร็ง ในระยะเริ่มต้น
  • ลดการอักเสบ ดีไอเอ็มมีคุณสมบัติ ในการต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • สนับสนุนการลดน้ำหนัก ดีไอเอ็มมีบทบาท ในการสนับสนุนกระบวนการเผาผลาญไขมัน และปรับสมดุลฮอร์โมน ที่ส่งผลต่อการสะสมไขมัน โดยเฉพาะในบริเวณหน้าท้อง

ที่มา: What Are DIM Supplements [2]

กลไกการทำงานของ ดีไอเอ็ม

  • ปรับเปลี่ยน Metabolism ของเอสโตรเจน ดีไอเอ็มส่งเสริมการสร้างเอสโตรเจน ชนิดที่ปลอดภัยกว่า โดยช่วยลดผลกระทบ ของเอสโตรเจน ชนิดที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • กระตุ้นการทำงาน ของเอนไซม์ในตับ ดีไอเอ็มช่วยกระตุ้นเอนไซม์ Phase I และ Phase II ในตับ ซึ่งมีหน้าที่ในการขจัดสารพิษ และสารเคมี ที่เป็นอันตรายออกจากร่างกาย
  • ต้านอนุมูลอิสระ ดีไอเอ็มมีคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ ที่เกิดจากความเครียดออกซิเดชัน

คำแนะนำการรับประทาน ดีไอเอ็ม

  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนเริ่มรับประทาน ดีไอเอ็มควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม กับสุขภาพ และสภาวะร่างกาย
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำ บนฉลากผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดีไอเอ็มแต่ละยี่ห้อ อาจมีคำแนะนำการรับประทาน ที่แตกต่างกัน ควรอ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก อย่างเคร่งครัด
  • รับประทานพร้อมอาหาร การรับประทาน ดีไอเอ็มพร้อมอาหาร อาจช่วยลดการระคายเคือง ต่อระบบทางเดินอาหาร และเพิ่มการดูดซึม ของสารอาหาร
  • เวลาที่เหมาะสม ในการรับประทาน หากไม่มีคำแนะนำเฉพาะเจาะจงจากแพทย์ หรือบนฉลากผลิตภัณฑ์ การรับประทานดีไอเอ็ม พร้อมอาหารมื้อหลัก เช่นอาหารเช้า หรืออาหารเย็น ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม
  • ปริมาณที่แนะนำ ปริมาณการรับประทานดีไอเอ็มที่แนะนำ สำหรับผู้ใหญ่คือ 100-150 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม กับสภาวะสุขภาพ

ที่มา: Diindolylmethane-Uses [3]

 

แหล่งอาหารที่ให้ Dim ตามธรรมชาติ

ดีไอเอ็ม
  • บรอกโคลี เป็นแหล่งของดีไอเอ็มที่สำคัญ หากรับประทานบรอกโคลีประมาณ 1-ถ้วยตวง (91 กรัม) จะได้รับดีไอเอ็มประมาณ 20–25 milligram โดยการนึ่งไฟอ่อนๆ จะช่วยคงคุณค่าของดีไอเอ็มได้ดี
  • กะหล่ำปลี หากรับประทานในปริมาณ 1-ถ้วยตวง (89 กรัม) จะให้ดีไอเอ็มประมาณ 15–20 milligram กะหล่ำปลีสามารถนำไปทำสลัด หรือปรุงเป็นอาหารประเภทอื่น เพื่อเพิ่มสารอาหารได้
  • กะหล่ำดอก ในปริมาณ 1-ถ้วยตวง (107 กรัม) จะมีดีไอเอ็มประมาณ 10–15 mg. การนำกะหล่ำดอกมาปรุงอาหาร เช่นการอบหรือนึ่ง เป็นวิธีที่ช่วยรักษาสารอาหารได้ดี
  • ผักคะน้า เป็นอีกหนึ่งแหล่งของดีไอเอ็มที่หาง่าย โดยการรับประทานคะน้าประมาณ 1 ถ้วย (67 กรัม) จะได้รับดีไอเอ็มประมาณ 5–10 mg.
  • Brussels Sprout หรือกะหล่ำปลีจิ๋ว เป็นแหล่งของดีไอเอ็มที่ดี โดยการบริโภคประมาณ 1 ถ้วย (88 กรัม) จะให้ดีไอเอ็มประมาณ 15–20 มิลลิกรัมการนำมาผัดหรือย่าง สามารถเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
  • ร็อกเก็ต (Arugula) แม้ปริมาณดีไอเอ็มจะน้อยกว่าผักอื่นๆ แต่ยังมีอยู่ในระดับที่มีประโยชน์ โดยการรับประทาน 1-ถ้วย (40 กรัม) จะได้รับดีไอเอ็มประมาณ 5 มก.
  • การรับประทานผักเหล่านี้ ในรูปแบบสด หรือผ่านการนึ่งไฟอ่อนๆ จะช่วยเพิ่มปริมาณดีไอเอ็ม โดยไม่ทำลายคุณค่าทางโภชนาการ

ดีไอเอ็มเหมาะสำหรับใคร

  • ผู้หญิงที่มีปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุล
  • มีอาการ PMS หรือวัยทอง
  • มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งมดลูก
  • ผู้ชายที่ต้องการสนับสนุนสุขภาพต่อมลูกหมาก
  • ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
  • โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาฮอร์โมน ที่ส่งผลต่อการสะสมไขมัน

สรุป ดีไอเอ็ม สารประกอบ ดูแลสุขภาพระยะยาว

ดีไอเอ็มเป็นมากกว่าแค่สารประกอบจากธรรมชาติ แต่เป็นกุญแจสำคัญ ในการสนับสนุนการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับสมดุลฮอร์โมน และลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพ การเลือกรับประทานผักที่มีดีไอเอ็มสูง หรือการเสริมด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพในระยะยาว ที่น่าสนใจสำหรับทุกคน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง