คอลลาเจนไดเปปไทด์ คืออะไร ประโยชน์และวิธีทาน

คอลลาเจนไดเปปไทด์

คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide) หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งเป็นนวัตกรรม ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน คอลลาเจนไดเปปไทด์ช่วยให้ผิวหนังคงความยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ มีประสิทธิภาพในการดูดซึม และใช้งานในร่างกายได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไป

คอลลาเจนไดเปปไทด์ คืออะไร จะพบในอาหารใด

คอลลาเจนไดเปปไทด์

คอลลาเจนไดเปปไทด์เป็นคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก โดยประกอบด้วยกรดอะมิโนสองตัวเชื่อมต่อกัน ทำให้มีขนาดโมเลกุลเฉลี่ยเพียง 200 Dalton เนื่องจากขนาดโมเลกุลที่เล็กนี้ คอลลาเจนไดเปปไทด์สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

คอลลาเจนไดเปปไทด์ สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยไม่ต้องผ่านการย่อยในกระเพาะอาหาร แต่จะถูกดูดซึมผ่านลำไส้เล็ก เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง โดยอาหารทั่วไปที่พบ ปริมาณต่อ 100 กรัม มีดังนี้

  • ปลาทะเลน้ำลึก (Deep-sea Fish) เช่นแซลมอน และปลาทูน่า ปริมาณคอลลาเจนไดเปปไทด์ 1,000-1,500 มก.
  • หนังปลา (Fish Skin) ปริมาณคอลลาเจนไดเปปไทด์: 3,000-5,000 มก.
  • เนื้อเอ็นวัว และเอ็นหมู (Beef and Pork Tendons) มีปริมาณคอลลาเจนไดเปปไทด์ 4,000-6,000 มิลลิกรัม
  • ขาหมู และหนังหมู (Pork Skin and Trotters) มีปริมาณคอลลาเจนไดเปปไทด์ 6,000-8,000 มิลลิกรัม
  • แมงกะพรุน (Jellyfish) มีปริมาณคอลลาเจนไดเปปไทด์: 3,000-4,500 มก.
  • อาหารทะเลเปลือกแข็ง (Shellfish) เช่นกุ้ง และปู จะมีปริมาณคอลลาเจนไดเปปไทด์: 500-1,000 มก.
  • น้ำซุปกระดูก (Bone Broth) จะมีปริมาณคอลลาเจนไดเปปไทด์: 2,500-5,000 มิลลิกรัมต่อ 250 มล.

การทาน คอลลาเจนไดเปปไทด์ ช่วยเรื่องอะไร

  • คอลลาเจนไดเปปไทด์ช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความชุ่มชื้นลดความแห้งกร้าน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ช่วยให้ผิวเนียนเรียบและยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย
  • ลดเลือนริ้วรอย ในระดับตื้นๆ และรอยเหี่ยวย่น ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • ช่วยฟื้นฟูแผลเป็นและแผลผ่าตัด กระตุ้นการสมานแผล และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
  • บำรุงเล็บ และเส้นผม เสริมความแข็งแรงของเล็บ ลดการเปราะแตก เพิ่มความเงางาม และลดการหลุดร่วงของเส้นผม
  • เสริมสร้างสุขภาพข้อ และกระดูก เพิ่มความยืดหยุ่น และลดอาการปวดข้อ
  • ช่วยซ่อมแซม และบำรุงกระดูกอ่อน

ที่มา: คอลลาเจนไดเปปไทด์ คืออะไร? [1]

ควรกิน คอลลาเจนไดเปปไทด์ กี่มิลลิกรัม

แม้ว่าปัจจุบัน ยังไม่มีการกำหนดปริมาณการบริโภคคอลลาเจนไดเปปไทด์ ที่แนะนำอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม จากการอ้างอิงการวิจัย จึงแนะนำให้บริโภคคอลลาเจน ในปริมาณ 5-10 กรัมต่อวัน เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพผิว และข้อต่อ

โดยมีการวิจัยที่ศึกษาผลของการรับประทานคอลลาเจน 10 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ในกลุ่มอาสาสมัคร 20 คน พบว่าความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 36-45 ปี ที่มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ [2]

คอลลาเจนไดเปปไทด์ มีอาหารอะไรที่ไม่ควรกินคู่กัน

เพื่อให้การบริโภคคอลลาเจนไดเปปไทด์ มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน ร่วมกับสิ่งต่อไปนี้

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์อาจลดประสิทธิภาพ การดูดซึมคอลลาเจนของร่างกาย
  • ผลิตภัณฑ์ Detox: การรับประทานคอลลาเจน พร้อมกับผลิตภัณฑ์ Detox อาจทำให้คอลลาเจน ถูกขับออกจากร่างกาย ก่อนที่จะถูกดูดซึม
  • ผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำสูง: การรับประทานคอลลาเจน ร่วมกับผักหรือผลไม้ ที่มีน้ำมาก เช่นแตงกวา แตงโม อาจทำให้ร่างกายขับน้ำส่วนเกิน ออกทางปัสสาวะ ส่งผลให้การดูดซึมคอลลาเจนลดลง

ที่มา: ไขข้อสงสัย คอลลาเจนห้ามกินกับอะไร [3]

 

ควรกินคอลลาเจนไดเปปไทด์ คู่กับอะไร

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรรับประทานคอลลาเจนไดเปปไทด์ ในช่วงท้องว่าง หรือก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาที และสามารถรับประทานร่วมกับอาหารเสริมดังต่อไปนี้ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม

  • วิตามินซี (Vitamin C) จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม
  • กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยเสริมประสิทธิภาพ ของคอลลาเจน
  • ซิงค์ (Zinc) ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว และส่งเสริมการสมานแผล
  • วิตามินอี (Vitamin E) ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ และช่วยเสริมความยืดหยุ่นของผิว
  • โอเมก้า-3 (Omega-3) ช่วยลดการอักเสบ และบำรุงสุขภาพผิว
  • เซราไมด์ (Ceramide) เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการสูญเสียน้ำ และช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น

ข้อควรระวัง การเสริมคอลลาเจนไดเปปไทด์

  • แพ้โปรตีน หรืออาหารทะเล คอลลาเจนบางชนิด สกัดจากปลาหรือสัตว์ทะเล อาจก่อให้เกิดอาการแพ้
  • การรับประทานมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด หรือแน่นท้อง
  • ผู้ที่มีปัญหาไต ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนรับประทาน เนื่องจากโปรตีนที่มากเกินไป อาจเพิ่มภาระต่อไต
  • การปนเปื้อนโลหะหนัก ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

สรุปคอลลาเจนไดเปปไทด์ นวัตกรรมอาหารเสริมช่วยดูแลผิว

คอลลาเจนไดเปปไทด์เป็นนวัตกรรมเสริมอาหาร ที่มีประสิทธิภาพสูง ในการดูแลสุขภาพผิว ข้อต่อ และกระดูก ด้วยคุณสมบัติการดูดซึมที่รวดเร็ว และการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ได้รับความนิยม ในกลุ่มผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ จากภายในสู่ภายนอก

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Wellness Whisperer
Wellness Whisperer

แหล่งอ้างอิง