คอนดรอยติน (Chondroitin) เป็นชื่อที่หลายคน อาจเคยได้ยิน ในโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือในบทความ เกี่ยวกับสุขภาพข้อ และกระดูก แต่หลายคนยังคงสงสัยว่า คอนดรอยตินคืออะไร และมีบทบาทอย่างไร ต่อสุขภาพของเรา ในบทความนี้ เราจะสำรวจข้อมูล เกี่ยวกับคอนดรอยติน ในหลากหลายแง่มุม
คอนดรอยตินเป็นสารประกอบชีวเคมี ประเภทไกลโคซามิโนไกลแคน (Glycosaminoglycan) ที่พบได้ตามธรรมชาติ ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่นกระดูกอ่อน ผิวหนัง และเส้นเอ็น หน้าที่หลักของมัน คือช่วยรักษาความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของข้อต่อ มีบทบาทในการสร้าง และซ่อมแซม เนื้อเยื่อกระดูกอ่อน ที่สึกหรอ
แหล่งที่มา ของคอนดรอยติน สามารถได้รับ จากสองแหล่งหลัก คือแหล่งธรรมชาติ พบได้ในอาหาร เช่นกระดูกอ่อนสัตว์ เช่น ฉลาม วัว หรือหมู และแหล่งเสริมอาหาร ที่สกัดจากแหล่งธรรมชาติ หรือผลิต ในรูปแบบสังเคราะห์ เพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับสุขภาพข้อ
ที่มา: chondroitin [1]
ขนาดรับประทาน สำหรับผู้ใหญ่ ที่แนะนำทั่วไปคือ 800–1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งอาจแบ่งรับประทานเป็น 1–3 ครั้งต่อวัน ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ หรือเภสัชกร โดยรูปแบบของผลิตภัณฑ์ คอนดรอยตินมีจำหน่าย ในรูปแบบแคปซูล เม็ด หรือผงละลายน้ำ บางผลิตภัณฑ์ อาจมีการผสมร่วมกับกลูโคซามีน [2]
เพื่อเสริมประสิทธิภาพของคอนดรอยติน สามารถทานร่วมกับ แคลเซียม จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ทำงานร่วมกับคอนดรอยติน เพื่อป้องกันการเสื่อมของข้อต่อ และกระดูกอ่อน หรือทานร่วมกับ คอลลาเจนไทพ์ทู เพื่อเสริมสร้างกระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อข้อต่อ เพิ่มความยืดหยุ่น ลดอาการปวดในข้อ
เวลาที่ควรรับประทาน ควรรับประทานคอนดรอยติน ก่อนอาหารประมาณ 15 นาที เพื่อให้การดูดซึมของยา มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระยะเวลา ในการรับประทาน การใช้คอนดรอยติน เพื่อบรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อม อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3–6 เดือนจึงจะเห็นผล และควรปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับระยะเวลา ที่เหมาะสมในการใช้ [3]
คอนดรอยตินเป็นสารอาหารสำคัญ ที่มีบทบาทในการบำรุง และปกป้องข้อต่อ ช่วยบรรเทาอาการปวด และชะลอความเสื่อม ของกระดูกอ่อน แม้จะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย ในบางกรณี แต่โดยรวมถือว่าปลอดภัย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพข้ออย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัย และนักกีฬาที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ