การ์ซีเนียแคมโบเจีย หรือสารสกัดจากส้มแขก เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน ด้วยคุณประโยชน์หลากหลายที่ถูกค้นพบ และศึกษาอย่างต่อเนื่อง ส้มแขกเป็นผลไม้พื้นเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีเอกลักษณ์เด่นด้วยรสเปรี้ยว และเปลือกสีเขียวหรือเหลือง
เปลือกของส้มแขก เป็นแหล่งของสารกรดไฮดรอกซีซิตริก (HCA) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์หลักในสารสกัดนี้สารเอชซีเอมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยควบคุมน้ำหนัก โดยสามารถยับยั้งเอนไซม์ ATP-citrate lyase ที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมันในร่างกาย
งานวิจัยเกี่ยวกับสารสกัดจากส้มแขก ได้แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเอชซีเอ ในการลดน้ำหนัก โดยการทดลองทางคลินิกในกลุ่มตัวอย่าง พบว่าผู้ที่รับประทานสารสกัดจากส้มแขก เป็นเวลา 8-12 สัปดาห์ มีแนวโน้มลดน้ำหนักได้มากกว่ากลุ่มควบคุม แต่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการออกกำลังกาย และโภชนาการด้วย
ที่มา: Health Benefits of Garcinia Cambogia [1]
การบริโภคสารสกัดจากส้มแขก ในปริมาณที่เหมาะสม มักถือว่าปลอดภัย สำหรับคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม มีรายงานบางกรณี ที่พบผลข้างเคียง เช่นปวดศีรษะ คลื่นไส้ ท้องเสีย และอาการวิงเวียน นอกจากนี้ การบริโภคในปริมาณสูง หรือเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายต่อตับได้ [2]
วิธีการรับประทานสารสกัดจากส้มแขก ปริมาณที่แนะนำ โดยทั่วไป แนะนำให้รับประทานสารสกัดจากส้มแขกในปริมาณ 500 มิลลิกรัม ก่อนมื้ออาหารประมาณ 30-60 นาที วันละ 3 ครั้ง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสม คือการรับประทาน ก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้สารอาหารเอชซีเอ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการยับยั้งการสร้างไขมัน และลดความอยากอาหาร [3]
รูปแบบผลิตภัณฑ์ ของสารสกัดจากส้มแขก มีหลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับความสะดวก และความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นดังนี้
สารสกัดจากส้มแขก มีประโยชน์ในด้านการลดน้ำหนัก แต่ควรระมัดระวังการใช้งานดังนี้
สารสกัดจากส้มแขก เป็นตัวช่วยสำคัญ สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และส่งเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกิน หรือระดับคอเลสเตอรอลสูง อย่างไรก็ตาม การใช้งานควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
